In News

'เอกนัฏ'จัดหนักส่งทีมสุดซอยปิดโรงงาน ฟันขบวนการนำเข้าขยะฯ'ปิดประตูตีมาร'



กรุงเทพฯ-“เอกนัฏ” จัดหนักตามนโยบายรัฐบาล ส่ง “ทีมสุดซอย” ปิดโรงงานเถื่อน EEC – ฟันขบวนการนำเข้าขยะอุตสาหกรรม ลักลอบฝังกากพิษ ฉะเชิงเทรา-ระยอง ภายใต้นโยบาย “ปิดประตูตีมาร”

วันนี้ (21 กรกฎาคม 2568) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เดินหน้ากวาดล้างขบวนการลักลอบนำเข้ากากอุตสาหกรรมและโรงงานเถื่อนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อย่างจริงจัง ภายใต้นโยบาย “ปิดประตูตีมาร” เพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมไทย ขจัดธุรกิจสีเทา และคืนความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อมให้แก่ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ระบุว่า ที่ผ่านมา พื้นที่ EEC กลายเป็นแหล่งสะสมโรงงานรีไซเคิล ที่แฝงการทำผิดกฎหมาย อาทิ การรับกำจัดกากอุตสาหกรรมเถื่อน ลักลอบนำเข้าขยะพิษ และฝังกลบกากอุตสาหกรรมอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน จึงสั่งการให้ ทีมสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบและขยายผลอย่างเข้มข้น

จากการตรวจสอบพื้นที่ อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา พบการลักลอบฝังขยะอุตสาหกรรมกว่า 50,000 ตัน ในพื้นที่เอกชน เชื่อมโยงกลุ่มทุนสีเทาที่แฝงตัวในคราบโรงงานรีไซเคิล แต่ไม่ดำเนินการกำจัดของเสียอย่างถูกต้อง และยังพบ บัญชีส่วย จ่ายเงินให้กับนักการเมือง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ โดยโรงงานที่ตรวจพบครั้งนี้คือ บริษัท เค.เอส.ดี. รีไซเคิล จำกัด เชื่อมโยงโดยตรงกับเจ้าของที่ดินจุดฝังกลบกากอุตสาหกรรมดังกล่าว

ขณะเดียวกัน ยังพบขบวนการลักลอบนำเข้าเศษยางรถยนต์จากประเทศกัมพูชา เพื่อนำมารีไซเคิลในพื้นที่ป่าไม้ เขต ต.ขำฆ้อ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง ของ บริษัท ฟูด้า รับเบอร์ จำกัด ซึ่งดำเนินกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้พื้นที่ป่าตามโครงการ คทช. ผิดวัตถุประสงค์ โดยมีการจับกุมผู้ต้องหาชาวจีนและชาวไทย รวมถึงแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเพิ่มเติม

โดย ทีมสุดซอย ได้ดำเนินการรวบรวมหลักฐาน ทั้งเครื่องจักร วัตถุดิบ เศษยาง และหลักฐานการลักลอบนำเข้าขยะอุตสาหกรรม พร้อมทั้งขยายผลเพื่อดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องอย่างถึงที่สุด รวมถึงเสนอให้ทบทวนสิทธิ์เช่าที่ดินในเขตป่าไม้เพื่อป้องกันการใช้พื้นที่ผิดวัตถุประสงค์ในอนาคต

“รัฐบาลยืนยันเจตนารมณ์ในการกวาดล้างธุรกิจสีเทาในภาคอุตสาหกรรมอย่างถึงที่สุด เพื่อเปิดทางให้ธุรกิจอุตสาหกรรมสีเขียวและภาคเอกชนที่ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป” นางสาวศศิกานต์ กล่าว