Authority & Harm

กรมการสรรพกำลังกลาโหมฝึกภาคสนาม เตรียมพร้อมระดมสรรพกำลังการทหาร



ราชบุรี - วันที่ 24 ก.ค.68 ที่ค่ายบุรฉัตร อ.เมือง จ.ราชบุรี พลโท คณพล บำรุงเมือง เจ้ากรมการสรรพกำลังกลาโหม พร้อมคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมการฝึกการระดมสรรพกำลังเพื่อการทหาร ประจำปี 2568 ในห้วงการฝึกภาคสนาม (FTX) การฝึกการระดมสรรพกำลังเพื่อการทหาร ระหว่างวันที่ 22 – 25 กรกฎาคม 2568 ณ กองพลทหารช่าง ค่ายบุรฉัตร จังหวัดราชบุรี โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตามแผนเตรียมพร้อมแห่งชาติและแผนบริหารวิกฤตการณ์ (พ.ศ. 2566-2570) และแผนผนึกกำลังและทรัพยากร เพื่อการป้องกันประเทศ กำหนดให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมด้านทรัพยากรให้มีความพร้อมเผชิญกับภัยด้านความมั่นคง และสถานการณ์ฉุกเฉินตั้งแต่ในภาวะปกติ กรมการสรรพกำลังกลาโหมจึงจัดให้มีการฝึกระดมสรรพกำลังเพื่อการทหารประจำปี 2568 โดยใช้กรอบสถานการณ์การฝึกตามการฝึกร่วมกองทัพไทยประจำปี 2568 ตามแผนป้องกันประเทศซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกการบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ ประจำปี 2568 (C-MEX 25) ผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศ จำนวน 10 ด้าน ประกอบด้วย

1. ด้านกำลังคน หน่วยงานรับผิดชอบ กระทรวงแรงงาน มีบริษัท ปิ่นทองกรุ๊ป แมเนจเม้นท์ แอน คอลซัลเต้นท์ จำกัดสนับสนุนการฝึกซ้อมเกี่ยวกับสารเคมีรั่วไหล, 2. ด้านอาหาร หน่วยงานรับผิดชอบ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, 3. ด้านน้ำ หน่วยงานรับผิดชอบ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีหน่วยงานย่อยที่มาสนับสนุนในครั้งนี้คือ กรมทรัพยากรน้ำ  และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล, 4. ด้านคมนาคม หน่วยงานรับผิดชอบ กระทรวงคมนาคม มีหน่วยงานสนับสนุนคือ การรถไฟแห่งประเทศไทย ฝึกซ้อมการขนส่งทางราง, 5. ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หน่วยงานรับผิดชอบ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมีหน่วยงานสนับสนุนด้านการสื่อสารได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กสทช. บริษัทไทยคม จำกัด

6. ด้านการแพทย์และสาธารณสุข หน่วยงานรับผิดชอบ กระทรวงสาธารณสุข มีหน่วยงานสนับสนุน คือ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ, 7. ด้านอุตสาหกรรมและปัจจัยการผลิต หน่วยงานรับผิดชอบ กระทรวงอุตสาหกรรม มีบริษัทไทยอาร์ม จำกัด, 8. ด้านเชื้อเพลิงและพลังงาน หน่วยงานรับผิดชอบ กระทรวงพลังงาน บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน), 9. ด้านการประชาสัมพันธ์ หน่วยงานรับผิดชอบ กรมประชาสัมพันธ์ และ 10. ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ หน่วยงานรับผิดชอบ กระทรวงมหาดไทย มีหน่วยงานสนับสนุน คือ กฝภ.

โดยสถานการณ์จำลองในปีนี้คือการสู้รบในบริเวณพื้นที่ฝั่งตะวันตกโดยมีวิกฤตที่เกิดในพื้นที่ส่วนหลัง ประกอบด้วย การขาดแคลนพลังงาน น้ำ อาหาร การจัดการทางคมนาคมการอพยพเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บจากแนวสู้รบ รวมถึงปัญหาข่าวปลอม และการทำลายระบบการสื่อสารของฝ่ายตรงข้าม โดย กสร.มีการวางแผนการดำเนินการในการเข้าร่วมการฝึกระดมสรรพกำลังใน 4 ส่วน คือ จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์สำหรับการจำลองสถานการณ์วิกฤต ร่างถ้อยคำและสนับสนุนการจำลองแถลงข่าวจากศูนย์ข้อมูลข่าวสารร่วม JIC การบริหารจัดการข่าวปลอมตามสถานการณ์จำลอง และการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการซ้อมระดมสรรพกำลัง 

นการตรวจเยี่ยมครั้งนี้ คณะผู้บัญชาการได้รับฟังบรรยายสรุปภาพรวมการฝึก และเดินทางตรวจเยี่ยมจุดฝึกต่าง ๆ ได้แก่ ศูนย์ระดมสรรพกำลังส่วนหน้า, จุดฝึกการรับ-ส่งทรัพยากรระหว่างฝ่ายพลเรือนกับหน่วยทหาร, ศูนย์ข้อมูลข่าวสารร่วม, พื้นที่รวบรวมทรัพยากรสำคัญ ทั้งด้านกำลังคน อาหาร เทคโนโลยีสารสนเทศ และอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ ยังได้เยี่ยมชมพื้นที่รวบรวมทรัพยากรด้านน้ำ การคมนาคม เชื้อเพลิง และสิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนาม และชมการฝึกลำเลียงทางอากาศเพื่อสนับสนุนภารกิจค้นหาและกู้ภัย การฝึกภาคสนามครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความพร้อมในการระดมสรรพกำลัง ทั้งจากภาครัฐ เอกชน และประชาชน โดยมุ่งเน้นความร่วมมือและการบูรณาการทรัพยากรในทุกมิติ เพื่อรองรับภารกิจด้านความมั่นคงของประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ

พลโท คณพล บำรุงเมือง เจ้ากรมการสรรพกำลังกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจเยี่ยม การฝึกการระดมสรรพกำลัง เพื่อการทหาร ประจำปี 2568 ห้วงการฝึกภาคสนาม (FTX) ณ ค่ายบุรฉัตร จังหวัดราชบุรี ว่า “การฝึกในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงกลาโหม ที่มุ่งเน้นการเตรียมความพร้อมด้านการทหารในทุกมิติ ทั้งกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคพลเรือน ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการระดมทรัพยากรเพื่อสนับสนุนภารกิจของกองทัพในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือสงครามที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต”

พลโท คณพล กล่าวต่อไปว่า การฝึกระดมสรรพกำลังไม่ใช่เพียงการฝึกทางทหาร แต่เป็นการจำลองสถานการณ์จริง เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ร่วมมือกันอย่างเป็นระบบ “วันนี้เราจะเห็นภาพของการประสานงานระหว่างหน่วยทหารกับหน่วยงานพลเรือน ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นจนถึงกระทรวงหลักต่าง ๆ ทั้งในด้านการเคลื่อนย้ายทรัพยากร การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสาร และการสนับสนุนทางการแพทย์หรือการลำเลียงทางอากาศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องมีความพร้อมและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด”

“การฝึกในครั้งนี้ผ่านกระบวนการเตรียมความพร้อมมาเป็นลำดับ เริ่มตั้งแต่การวางแผน วิเคราะห์ปัญหา ไปจนถึงการปฏิบัติจริงในภาคสนาม เพื่อให้สามารถประเมินขีดความสามารถ และปรับปรุงการดำเนินการให้มีประสิทธิภาพสูงสุด แม้ประชาชนบางส่วนอาจมองว่าการฝึกเหล่านี้อยู่ไกลตัว แต่ในความเป็นจริง จากสถานการณ์โลกและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ทุกภาคส่วนของประเทศจำเป็นต้องมีความเข้าใจ และเตรียมพร้อมในการรับมือกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นในทุกรูปแบบ”

พลโท คณพล ยังกล่าวย้ำว่า ความมั่นคงของประเทศไม่ใช่หน้าที่ของกองทัพเพียงอย่างเดียว แต่เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน “ในการปกป้องประเทศชาติ เราต้องการความร่วมมือจากประชาชน ทั้งในด้านการสนับสนุน การมีส่วนร่วม และการตระหนักถึงบทบาทของตนในยามวิกฤต หากทุกภาคส่วนร่วมมือกัน เราจะสามารถเผชิญกับทุกสถานการณ์ได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย” การฝึกการระดมสรรพกำลังเพื่อการทหารในครั้งนี้ ถือเป็นการยกระดับการประสานงานแบบบูรณาการ ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและความพร้อมของประเทศอย่างยั่งยืน

สุจินต์  นฤภัย ( เต้ ) จ.ราชบุรี