In News
เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เปิดโรงครัวพระราชทาน/มท.ช่วยปชช.

กรุงเทพฯ-พระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานโรงครัวพระราชทาน เพื่อสนับสนุนการประกอบอาหาร ดูแลชาวบ้านและผู้อพยพในพื้นที่ชายแดน/เตือนข่าวปลอมอย่าหลงเชื่อ 25 ก.ค.68 - “ทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ปราสาทพระวิหารและวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ที่เคยเป็นของไทยได้สำเร็จแล้ว/ปลัด มท. เผยมีประชาชนต้องอพยพจากเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา มากกว่า 100,000 คนไปยังศูนย์พักพิง 295 แห่ง พร้อมกำชับผู้ว่าฯ นายอำเภอ บูรณาการทุกภาคส่วนดูแลความปลอดภัย/เลขาชนินทร์ เผย “ภูมิธรรม” สั่งการ ปภ. สนับสนุนรถประกอบอาหาร รถน้ำดื่ม และรถยกสูงในพื้นที่ศูนย์พักพิงผู้อพยพ 4 จังหวัดอีสานใต้ พร้อมประสานอธิบดีกรมบัญชีกลางขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าฯ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน
พระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานโรงครัวพระราชทาน
โดย กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 ดำเนินการจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อสนับสนุนการประกอบอาหารพระราชทาน สำหรับแจกจ่ายให้กับประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ประชาชนที่เคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่เสี่ยงอันตราย ใน ชายแดนไทย – กัมพูชา นำมาซึ่งความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงห่วงใยพสกนิกรของพระองค์
และข่าวปลอมอย่าหลงเชื่อ 25 ก.ค.68 - “ทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ปราสาทพระวิหารและวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ที่เคยเป็นของไทยได้สำเร็จแล้ว และขณะนี้ทหารไทยพร้อมอาวุธหนักได้ตรึงกำลังอยู่บริเวณรอบพื้นที่”
ปลัด มท. เผยมีประชาชนกว่าแนคนต้องอพยพ
เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 68 เวลา 22.30 น. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงการบริหารจัดการสถานการณ์ภัยจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นจากการลักลอบยิงอาวุธของกัมพูชาเข้ามาล่วงล้ำอธิปไตยของประเทศไทยจนส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ที่พักอาศัยพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ได้รับผลกระทบ ทั้งการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงต้องอพยพย้ายที่พักชั่วคราว โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง นำกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บูรณาการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และทุกภาคส่วน นำยานพาหนะของทุกหน่วยงานเร่งอพยพประชาชนเข้าไปยังพื้นที่ปลอดภัยห่างจากแนวการปะทะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งให้ดูแลด้านการใช้ชีวิตครอบคลุมปัจจัยความจำเป็นพื้นฐาน ทั้งด้านอาหาร เครื่องดื่ม ยารักษาโรค ห้องน้ำ และที่พัก ให้ถูกสุขลักษณะ โดยเน้นย้ำเรื่อง “ความปลอดภัยของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”
“สำหรับจำนวนประชาชนผู้ที่ได้ทำการอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวทั้ง 4 จังหวัดข้างต้น ณ วันที่ 24 ก.ค. 68 เวลา 22.30 น. มีจำนวนรวม 100,672 คน ศูนย์พักพิง 295 แห่ง จำแนกเป็น จังหวัดสุรินทร์ 56,000 คน ศูนย์พักพิง 67 แห่ง จังหวัดศรีสะเกษ 17,196 คน ศูนย์พักพิง 58 แห่ง จังหวัดบุรีรัมย์ 17,000 คน ศูนย์พักพิง 1 แห่ง และจังหวัดอุบลราชธานี 10,476 คน ศูนย์พักพิง 169 แห่ง” นายอรรษิษฐ์ กล่าว
นายอรรษิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยยังได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ได้บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนสร้างขวัญกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนควบคู่การบำรุงขวัญกำลังพลทั้งฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามแนวพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง พร้อมทั้งร่วมกันเป็นกำลังใจให้กับบรรดาพี่น้องทหารหาญผู้ที่กำลังทำหน้าที่เป็นกำลังส่วนหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างกล้าหาญในการปกป้องอธิปไตยของชาติ และสร้างความรับรู้เข้าใจให้ประชาชนในศูนย์พักพิงได้ทราบถึงสถานการณ์ รวมทั้งการดูแลความปลอดภัยทรัพย์สินบริเวณหมู่บ้าน อาคารบ้านเรือน โดยกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งย้ำเตือน “ห้ามกลับไปยังพื้นที่หมู่บ้าน” จนกว่าทางภาครัฐจะประกาศให้สามารถกลับไปได้ตามปกติ
“ภูมิธรรม”สั่งปภ.สนับสนุนผู้อพยพ รถประกอบอาหาร รถน้ำดื่ม 4จังหวัดอีสานใต้
เมื่อวานนี้ (24 ก.ค. 68) เวลา 19.30 น. นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การลักลอบยิงอาวุธของกัมพูชาเข้ามาล่วงล้ำอธิปไตยของประเทศไทยจนส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนพื้นที่ 4 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ที่อาศัยตามแนวชายแดนการปะทะ ซึ่งในขณะนี้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านนายอำเภอ ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ร่วมกับหน่วยงานและภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ อพยพพี่น้องประชาชนไปพักอาศัยชั่วคราวในบริเวณพื้นที่ปลอดภัยแล้ว
“นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เร่งสนับสนุนการดำเนินงานจังหวัดและอำเภอเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนประชาชนในศูนย์พักพิงชั่วคราวทั้ง 4 จังหวัดข้างต้น เป็นการเร่งด่วน ทั้งการเคลื่อนย้ายรถประกอบอาหาร รถน้ำดื่ม และรถยกสูง ของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตใกล้เคียงที่ไม่ได้ประจำการในพื้นที่ประสบภัย เข้าสนับสนุนพื้นที่ที่ตั้งศูนย์พักพิงผู้อพยพเป็นการด่วน พร้อมทั้งเร่งประสานอธิบดีกรมบัญชีกลางเพื่อพิจารณาขยาย "วงเงินทดรองราชการในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินสำหรับผู้ว่าราชการจังหวัด" เพื่อใช้ในการอำนวยการศูนย์พักพิงผู้อพยพตามกรณีภัยพิบัติฉุกเฉินเป็นการเร่งด่วน” นายชนินทร์ กล่าว
นายชนินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยมุ่งมั่นในการร่วมกับทุกภาคส่วนในการปฏิบัติหน้าที่ตามแผนปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และขอขอบคุณทุกแรงสนับสนุนทั้งอาหาร น้ำดื่ม และเครื่องใช้ที่จำเป็นจากพี่น้องประชาชนคนไทยผู้ปรารถนาดีต่อพี่น้องประชาชนคนไทยด้วยกันที่กำลังประสบภัยจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาในขณะนี้ พร้อมทั้งขอส่งกำลังใจให้พี่น้องที่อยู่ในพื้นที่ศูนย์พักพิงผู้อพยพทุกท่าน เราจะผ่านเหตุการณ์นี้ไปด้วยกัน รวมทั้งขอเป็นกำลังใจให้เหล่าทหารหาญในการทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยในด่านหน้าแนวชายแดน