EDU Research & Innovation
รมว.อว.ให้มหาวิทยาลัยอยู่ใกล้ชายแดน เตรียมแผนฉุกเฉินช่วยประชาชน

นครราชสีมา-“สุดาวรรณ” ให้มหาวิทยาลัยใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา เตรียมแผนฉุกเฉินช่วยประชาชน หากปะทะยืดเยื้อ หลังเปิดศูนย์พักพิงเพิ่มที่โคราชแล้ว 3 แห่ง ชี้ มหาวิทยาลัยต้องเป็นพลังพื้นที่ในยามวิกฤติ
เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า กระทรวง อว. ได้ขยายศูนย์ปฏิบัติการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยล่าสุดได้เพิ่มศูนย์ปฏิบัติการฯ ในจังหวัดนครราชสีมา อีก 3 แห่ง โดยความร่วมมือของสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์หากมีการอพยพขยายวงกว้าง ซึ่งสามารถรองรับประชาชนได้กว่า 4,600 คน
น.ส.สุดาวรรณ กล่าวต่อว่า สถานการณ์ชายแดนขณะนี้ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด กระทรวง อว. จึงเร่งบูรณาการกำลังจากสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่ ร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นและภาคีเครือข่าย เข้าดำเนินการจัดตั้งพื้นที่พักพิงชั่วคราว พร้อมสนับสนุนระบบการจัดการในด้านต่าง ๆ เช่น การจัดพื้นที่ปลอดภัย ความสะอาด สุขาภิบาล ระบบการจัดอาหาร น้ำดื่ม ตลอดจนการดูแลสุขภาพกาย–ใจของประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบ
“เราไม่ได้มองแค่การรองรับผู้ประสบภัยเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงคุณภาพชีวิตของประชาชนระหว่างการพักพิงด้วย สถาบันอุดมศึกษามีศักยภาพในการจัดการและมีบุคลากรที่เชี่ยวชาญ ทั้งด้านองค์ความรู้ สาธารณสุข การดูแลสุขภาพจิต เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม และต้องขอขอบคุณอธิการบดี ผู้บริหาร อาจารย์ เจ้าหน้าที่ ตลอดจนนักศึกษาจิตอาสา ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการเข้าช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้” น.ส.สุดาวรรณ กล่าว
ทั้งนี้ น.ส.สุดาวรรณ ยังได้เน้นย้ำให้สถาบันอุดมศึกษาที่ตั้งอยู่ใกล้พื้นที่ชายแดน เตรียมความพร้อมด้านการปฏิบัติการภาคสนาม และการระดมอาสาสมัครนิสิตนักศึกษา เพื่อให้สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยในกรณีที่สถานการณ์ยืดเยื้อหรือขยายวงกว้าง
“นอกเหนือจากการเป็นแหล่งเรียนรู้ สถาบันอุดมศึกษาต้องสามารถเป็นพลังของพื้นที่ในยามวิกฤติ เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และจะใช้ศักยภาพที่มีอยู่ทุกด้าน เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด” รมว.อว. กล่าวทิ้งท้าย.
นครราชสีมา/กัญศลักษณ์ รุ่งสุขประเสริฐ