In Thailand
สภากาชาดไทยลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบภัย ห่วงใยผู้อพยพจากชายแดนไทย-กัมพูชา
ศรีสะเกษ-สภากาชาดไทยลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ห่วงใยผู้อพยพจากชายแดนไทย-กัมพูชา ที่จังหวัดศรีสะเกษ
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ที่ศูนย์อพยพวัดนาโนน ต.หนองไฮ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ นายกฤษฎา บุญราช ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย และผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด พร้อมด้วย นายแพทย์พิชิต ศิริวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ นายสุวิทย์ คำดี ที่ปรึกษาเฉพาะคราวสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด นายเอกอมร ผลศรีทอง หัวหน้ากลุ่มงานบริหารและประสานกิจการเหล่ากาชาด สำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด เหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ และคณะ ลงพื้นที่เยี่ยมผู้อพยพและพบปะผู้ประสบภัยจากการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา และมอบของให้แก่ผู้อพยพจากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีนายพศิน ทาศีริ นายอำเภออุทุมพรพิสัย นายประกาศิต สุพรหมธีรกูร นายก อบต.หนองไฮ นำข้าราชการ ตำรวจ พนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลหนองไฮ ร่วมให้การต้อนรับและร่วมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ประสบภัยจากการสู้รบตามชายแดนไทย-กัมพูชา
นายกฤษฎา บุญราช ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย กล่าวว่า วันนี้ทางสภากาชาดไทย ได้มอบหมายให้ตนและรองผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ เป็นตัวแทนของสภากาชาดไทย ลงพื้นที่ติดตามเพื่อที่ให้การสนับสนุนนายกเหล่ากาชาดจังหวัด ทั้ง 4 จังหวัด ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่อพยพมาจากชายแดน ทั้ง 4 จังหวัด รวมแล้วประมาณกว่า 120,000 คน โดยทางนายกเหล่ากาชาดจังหวัด ในฐานะหน่วยงานสังกัดสภากาชาดไทย ได้ประสานงานกับหน่วยงานในพื้นที่ทั้งภาคเอกชน และองค์กรทางด้านศาสนา วัดต่างๆ ให้สถานที่ในการพักพิงแก่พี่น้องคนไทยที่อพยพหนีเหตุความรุนแรงในในพื้นที่ชายแดนเข้ามาพักพิง และสนับสนุนในเรื่องอาหาร ยารักษาโรคและที่อยู่อาศัยต่างๆ ทางสภากาชาดไทย โดยสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ ก็ยังได้การสนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งทางนายกเหล่ากาชาด ยังได้เปิดรับบริจาคจากพี่น้องประชาชน ในการดูแลทั่วไป ในขณะนี้ ถือว่าอยู่ในระดับที่สามารถดูแลผู้อพยพได้
แต่อย่างไรก็ตามจากการสอบถามหน่วยงานด้านความมั่นคงแล้วว่า พี่น้องประชาชนจะต้องอยู่ต่อไปอีกสักกี่วัน ทางหน่วยงานความมั่นคงบอกว่า คงต้องรอจนถึงวันที่ 4 ส.ค. 2568 ตามที่ได้มีการตกลงเจรจากัน เพราะถ้าจะให้พี่น้องประชาชนกลับบ้านไปในช่วงนี้ ก็ยังไม่ปลอดภัย เนื่องจากบางพื้นที่แม้ว่าจะไม่มีลูกกระสุนเข้ามาตก แต่วัตถุระเบิดหรือกระสุน ที่ตกค้างอยู่ในหมู่บ้านนั้น ยังตรวจเจอและทำลายไม่หมด เพราะฉะนั้นเพื่อความปลอดภัย คงต้องอยู่สักระยะหนึ่ง แต่สิ่งที่สภากาชาติไทย ยังกังวลและมีความเป็นห่วงคือเนื่องจากพี่น้องประชาชนที่ต้องอพยพมาจากบ้านพักแล้ว มาอยู่ในพื้นที่ที่จัดไว้ให้ แม้ว่าจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกพอสมควรก็ตาม แต่ในเรื่องของคนชรา คนที่เป็นโรคอยู่แล้วหรือเด็กๆ เรากังวลว่าอาจจะมีโรคภัยไข้เจ็บตามมา เรามีแพทย์ พยาบาล จากสภากาชาดไทยส่วนหนึ่ง ส่วนคุณหมอหรือแพทย์พยาบาลในพื้นถึงแม้จะมีประจำการอยู่ แต่ว่าการบริการ ของแพทย์และพยาบาล ในแต่ละสังกัด ก็คงต้องกลับไปดูแลคนไข้ทั่วไปด้วย ถ้าเกิดว่าอยู่เกินสักสองหรือสามอาทิตย์ การดูแลด้านนี้อาจจะมีความบกพร่อง อย่างไรก็ตามเราก็หวังว่าทางบ้านเมือง จะสามารถจัดการด้านความสงบได้เร็วๆนี้ ให้พี่น้องประชาชนได้กลับบ้านเร็วๆนี้
สภากาชาดไทย ก็จะอยู่ดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชน จนกว่าจะได้กลับบ้านเรียบร้อยกันทุกคน จึงขอให้พี่น้องประชาชนในช่วงนี้ มีความอดทน มีความรักความสามัคคี เรามั่นใจว่าทางฝ่ายราชการ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานทหาร ตำรวจ และข้าราชการพลเรือน ตลอดจนพี่น้องประชาชน จะช่วยกันดูแลแก้ไขปัญหาครั้งนี้ ให้ผ่านพ้นไปได้เหมือนกับวิกฤตด้านอื่นๆเรามีความมั่นใจ และสภากาชาดไทย พร้อมที่จะเป็นหน่วยงานในการสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็น ที่อยู่ อาหาร ยารักษาโรค หรืองบประมาณจำนวนหนึ่ง เราก็จะส่งมาเพิ่มเติมให้กับทางนายกเหล่ากาชาดจังหวัดต่างๆ เพื่อที่จะได้ดูแลบรรเทาทุกข์แก่พี่น้องประชาชนต่อไป
ข่าว/ภาพ .... บุญทัน ธุศรีวรรณ