Think In Truth

ข้ามพ้นแดนภาษี: ทางแยกใหม่เศรษฐกิจ ไทยบนเวทีโลก  โดย: ฟอนต์ สีดำ



ในห้วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกยังคงสั่นไหวท่ามกลางระลอกคลื่นแห่งสงครามการค้า ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และกระแสชาตินิยมทางเศรษฐกิจที่ปกคลุมประเทศมหาอำนาจ ข่าวความสำเร็จของ "ทีมไทยแลนด์" ในการเจรจาลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยเข้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกา จากเดิม 36% ลงมาเหลือเพียง 19% นั้น เปรียบได้ดั่งแสงแรกที่สาดส่องเข้ามาในเช้าวันใหม่ของเศรษฐกิจไทย

ข้อตกลงนี้หาใช่เพียงการลดตัวเลขภาษีลงไม่ หากแต่คือหมุดหมายสำคัญที่บ่งชี้ถึงความสามารถทางการทูตเชิงเศรษฐกิจ ความแน่วแน่ในเชิงยุทธศาสตร์ และศักยภาพของประเทศไทยในการใช้ "วิกฤต" ให้กลายเป็น "โอกาส" อย่างแท้จริง

      • "America First" สู่การต่อรองที่ท้าทาย

มาตรการภาษีที่ถูกกำหนดขึ้นภายใต้นโยบาย "America First" ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศ และสร้างแรงกดดันต่อประเทศคู่ค้าจำนวนมาก รวมถึงประเทศไทยที่ต้องเผชิญอัตราภาษีนำเข้าสูงลิ่ว

เมื่อเศรษฐกิจไทยยังคงต้องพึ่งพาการส่งออก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ในฐานะตลาดอันดับสอง การดำเนินการเชิงรุกของคณะเจรจาจึงมีความจำเป็นเร่งด่วน ทีมไทยแลนด์จึงต้องประสานพลังอย่างเป็นเอกภาพ ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อช่วงชิงเงื่อนไขที่ดีที่สุดกลับมาให้กับประเทศ

      • : เสียงแห่งเหตุผลในสนามต่อรอง

ความสำเร็จของการเจรจาในครั้งนี้มิได้เกิดจากโชคหรือความบังเอิญ หากแต่คือผลจากการวางยุทธศาสตร์อย่างมีแบบแผน และการยื่นข้อเสนอที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย ทีมไทยแลนด์ได้ยกระดับข้อเสนอผ่านกลไก "ภาษีต่างตอบแทน" ซึ่งประกอบด้วย:

  • การเปิดตลาดสินค้าให้สหรัฐฯ: ไทยยินยอมลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ลงเหลือ 0% ในรายการสินค้ากว่า 10,000 รายการ โดยเลือกเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ไทยยังผลิตได้ไม่เพียงพอ เช่น สินค้าเกษตรบางประเภท และสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูง
  • การสั่งซื้อสินค้าเชิงยุทธศาสตร์: การประกาศแผนจัดซื้อเครื่องบิน Boeing จำนวน 90 ลำในช่วง 10 ปีข้างหน้า และสัญญาการนำเข้า LNG เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงาน เป็นการแสดงถึงความตั้งใจแน่วแน่ของไทยในการปรับดุลทางการค้า
  • การเอื้ออำนวยการลงทุน: ไทยเสนอแพ็กเกจสิทธิประโยชน์ที่จูงใจต่อการลงทุน โดยเฉพาะใน EEC และอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ พลังงานสะอาด และเซมิคอนดักเตอร์
  • ความโปร่งใสและความร่วมมือด้านกฎระเบียบ: ข้อตกลงยังรวมถึงการลดข้อจำกัดทางศุลกากร การอำนวยความสะดวกแก่ผู้ส่งออก และการยกเว้นภาษีบริการดิจิทัลชั่วคราว
      • : ระหว่างโอกาสที่เบ่งบาน กับแรงกดดันที่มาเยือน

การลดภาษีครั้งนี้มีผลกระทบในระดับโครงสร้าง ทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ ซึ่งต้องมีการบริหารจัดการอย่างระมัดระวัง

ผลดีที่ปรากฏชัด:

  • สินค้าไทยจะกลับมามีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ ได้อีกครั้ง
  • การลงทุนจากต่างชาติ โดยเฉพาะสหรัฐฯ จะหลั่งไหลเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมไทย
  • รายได้ของแรงงาน ผู้ผลิต และครัวเรือนจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ขยายตัว
  • ความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ได้รับการยกระดับในเชิงโครงสร้าง

ผลกระทบและความเสี่ยง:

  • ผู้ผลิตรายย่อยในประเทศอาจถูกกระทบจากการแข่งขันกับสินค้านำเข้าราคาถูก
  • ความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ มากเกินไปต้องได้รับการบริหารจัดการ
  • ความท้าทายในการลดดุลการค้ากับสหรัฐฯ ลง 70% ภายใน 5 ปี อาจเป็นภาระผูกพันที่ยากต่อการบรรลุในบริบทเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอน
  • ความกังวลเรื่องการใช้ไทยเป็นฐานหลบภาษี (Transshipment) ยังคงต้องจับตา
      • : จากข้อตกลงสู่การปฏิบัติที่แท้จริง

ความสำเร็จในเชิงการเจรจาไม่ใช่จุดจบของภารกิจ หากแต่คือจุดเริ่มต้นของการลงมือบริหารจัดการผลที่เกิดขึ้นจากข้อตกลงดังกล่าว

รัฐบาลไทยควรดำเนินมาตรการใน 2 มิติหลัก:

1. มาตรการเชิงรุก:

  • สื่อสารอย่างชัดเจนแก่ภาคธุรกิจเพื่อให้เข้าใจสิทธิประโยชน์และวางแผนได้ทันการณ์
  • สนับสนุนการลงทุนและสร้างโอกาสในตลาดใหม่ เช่น CLMV ตะวันออกกลาง และแอฟริกา
  • ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย พร้อมกับการต่อยอดเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน

2. มาตรการเชิงรับ:

  • จัดตั้งกลไกช่วยเหลือเกษตรกรและ SMEs ที่ได้รับผลกระทบ
  • เพิ่มประสิทธิภาพด้านกฎหมายเพื่อป้องกันการทุจริตทางการค้า
  • พัฒนาแรงงานให้สอดรับกับอุตสาหกรรมยุคใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
    • : วิกฤตที่หล่อหลอมโอกาส

การได้รับอัตราภาษีที่ 19% เป็นผลลัพธ์เชิงยุทธศาสตร์ที่สะท้อนถึงความพร้อมของไทยในการยืนหยัดอยู่ในเวทีการค้าระดับโลก ทว่า ความสำเร็จไม่ได้วัดเพียงแค่การเจรจา หากแต่วัดจากการลงมือปฏิบัติ บริหารความเสี่ยง และสร้างการเติบโตที่สมดุลให้กับทั้งภาคธุรกิจและประชาชน

นับจากนี้ไป หน้าที่ของรัฐบาลและภาคประชาชนคือการเดินหน้าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนผ่าน โดยใช้ข้อตกลงนี้เป็นสะพานเชื่อมสู่อนาคตเศรษฐกิจไทยที่มั่นคง ยืดหยุ่น และไม่หวั่นไหวต่อแรงปะทะจากโลกภายนอก