Authority & Harm
ตร.ทางหลวงปราจีนฯจับ5แรงงานเขมร ลักลอบเข้าเมืองจาก15คนขณะกลับเขมร
ปราจีนบุรี -ตร.ทางหลวงปราจีน-สระแก้วจับ 5 แรงงานกัมพูชา ลักลอบเข้าเมืองทำงานผิดกฎหมายจากชาวกัมพูชาทั้งหมด 15 คน นั่งในรถตู้ขณะกำลังกลับบ้านตามที่ ‘ฮุน เซน’ บอก
เมื่อเวลา18.30 น.วันนี้ 6 สิงหาคม 2568 พ.ต.ต.กมลภพ หาญเวช สว.ส.ทล.5 กก.3 บก.ทล. (ปราจีนบุรี-สระแก้ว) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ(ขอปกปิดนามซึ่งหวังรางวัลนำจับ)ว่าจะมีการเคลื่อนย้ายต่างด้าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เฝ้าระวังรถยนต์คันดังกล่าวที่ผ่าน ระหว่างกม. 92-93 ทางหลวงหมายเลข 317 ตำบลวังสมบูรณ์ อำเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว

ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจพบรถยนต์บรรทุกเกิน 7 ที่นั่ง (รถยนตู้) ยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 นฆ 4093กรุงเทพมหานคร ขับมาจากทางอำเภอวังน้ำเย็นมุ่งหน้าไปจังหวัดจันทบุรีจึงส่งสัญญาณให้หยุดรถและนำเข้าที่ปลอดภัย
พบนายพิชาติ แซ่บั้ง เป็นผู้ขับขี่ (ซึ่งทราบชื่อภายหลัง) ผู้ต้องหาคนที่ 1 จากนั้นพบชาวกัมพูชา 15 คน นั่งในรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงความบริสุทธิ์ใจขอทำการตรวจค้นและตรวจสอบบุคคลพบว่าไม่มีหนังสือเดินทางมาแสดง 5 คน เจ้าหน้าที่จึงได้ซักถามชาวกัมพูชาพบว่า นางปะ จาบ ผู้ต้องหาที่ 3 สามารถสื่อสารภาษาไทยได้และเข้าใจเป็นอย่างดี และยินดีเป็นล่าม

ทั้งนี้ ผู้ต้องหา นายพิชาติ แซ่บั้ง อายุ 66 ปี บ้านเลขที่ 5 หมู่ 11 ต.พญาวัง อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ผู้ต้องหาที่ 1 (ผู้นำพา) นายเซน จัน อายุ 45 ปี สัญชาติกัมพูชา ผู้ต้องหาที่ 2 นางปะ จาบ อายุ 40 ปี สัญชาติกัมพูชา ผู้ต้องหาที่ 3 นางฮิว สลัน อายุ 22 ปี สัญชาติกัมพูชา ผู้ต้องหาที่ 4 นายยอง มวย อายุ 20 ปี สัญชาติกัมพูชา ผู้ต้องหาที่ 5 นายเชีย ไตวิด อายุ 18 ปี สัญชาติกัมพูชา ผู้ต้องหาที่ 6
ข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐานผู้ต้องหาที่ 1 ทราบว่า “ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น อุปการะ นำ หรือกระทำการด้วยประการใด ๆ ให้บุคคลต่างด้าว ซึ่งตนรู้ว่าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย รอดพ้นจากการถูกจับกุม” และแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2-6 ทราบว่า “เป็นบุคคลต่างด้าว (กัมพูชา) เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยมิได้รับการอนุญาต”

สอบถามได้ความว่าได้ออกเดินทางมาจากกรุงเทพฯและปทุมธานี เพื่อที่จะกลับประเทศกัมพูชาตามที่ ‘ฮุน เซน’ บอก โดยพวกตนต้องจ่ายเงินค่าเดินทางคนละ 1,200 บาท จนกระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ ผู้ต้องหาที่ 1 ให้ทราบว่า “ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น อุปการะ นำ หรือกระทำการด้วยประการใด ๆให้บุคคลต่างด้าว ซึ่งตนรู้ว่าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย พ้นจากการถูกจับกุม
และแจ้งข้อกล่าวหาให้ ผู้ต้องหาที่ 2-6 ว่า“เป็นบุคคลต่างด้าว(ชาวกัมพูชา ) เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยมิได้รับอนุญาต” แจ้งสิทธิของผู้ต้องหาตามกฎหมายให้ทราบ และได้จับกุมตัวผู้ต้องหานำส่ง สภ.วังสมบูรณ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
มานิตย์ สนับบุญ / ปราจีนบุรี
