In News

ไทยนำ'ทูตฯ33ปท.-สื่อ'ลงพิสูจน์พื้นที่จริง ดูเก็บกู้ทุ่นระเบิดเขมรใน'อุบลฯ-ศรีสะเกษ'



กรุงเทพฯ-ไทยเปิดพื้นที่จริง นำคณะทูตฯ องค์การระหว่างประเทศ จาก 33 ประเทศ และสื่อมวลชน ลงพื้นที่สังเกตการณ์การเก็บกู้ทุ่นระเบิด–ติดตามผลกระทบพื้นที่พลเรือน พร้อมยืนยันข้อเท็จจริงต่อประชาคมโลก และ“ไทยคู่ฟ้า” สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา 7 จังหวัด ตั้งแต่เวลา 18.00 น. วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม 2568 ถึงเวลา 06.00 น. วันนี้ (วันเสาร์ 16 สิงหาคม 2568) เหตุการณ์ปกติ

วันนี้ (วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม 2568) เวลา 09.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า ในวันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม 2568 รัฐบาล โดยกระทรวงการต่างประเทศ จะนำคณะทูตและกงสุลต่างประเทศ และองค์การระหว่างประเทศประจำประเทศไทย รวมทั้งสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ 20 สำนักข่าว ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อสังเกตการณ์การเก็บกู้ทุ่นระเบิดและติดตามสถานการณ์ความเสียหายของพื้นที่พลเรือนจากเหตุการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (Field Visit to observe the situation regarding anti-personnel landmines)

นายจิรายุกล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้คณะทูตฯ มีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 36 คน จาก 33 ประเทศ 1 องค์กร และ 2 องค์การระหว่างประเทศ ประกอบด้วย

- เอกอัครราชทูต 10 คน จาก 9 ประเทศ และ 1 องค์กร ได้แก่ ฟิลิปปินส์, สหภาพยุโรป, เนเธอร์แลนด์, สเปน, ไอร์แลนด์, ลักเซมเบิร์ก, อิตาลี, วาติกัน, ศรีลังกา และตุรกี

- อุปทูตรักษาการชั่วคราว 6 คน จาก นอร์เวย์, ฝรั่งเศล, สวิตเซอร์แลนด์, ออสเตรีย, ฟินแลนด์ และโปรตุเกส

- ผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูต 17 คน จาก 16 ประเทศ และ 1 องค์กร ได้แก่ ออสเตรเลีย, เบลเยียม, บรูไนดารุสซาลาม, แคนาดา, จีน, สหภาพยุโรป, เยอรมนี, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, สปป.ลาว, มาเลเซีย, เมียนมา, นิวซีแลนด์, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา, เวียดนาม และเปรู

- ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร 2 คน จากสาธารณรัฐเกาหลี และสวีเดน

- องค์การระหว่างประเทศ 2 คน จาก Golden West Humanitarian Foundation และ Norwegian People's Aid

สำหรับกำหนดการวันนี้ (วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม 2568) คณะทูตฯ และสื่อมวลชน จะเดินทางไปยังจังหวัดอุบลราชธานี ต่อไปยังผามออีแดงเพื่อรับฟังบรรยายสรุปและแบ่งกลุ่มเยี่ยมชมการเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่ภูมะเขือและศึกษาภูมิประเทศ จากนั้นจะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายบริเวณบ้านหนองเม็ก ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ และ รับฟังบรรยายสรุปที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา 

โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้คณะทูตฯ และสื่อมวลชนได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากพื้นที่จริง เห็นกระบวนการปฏิบัติงานของหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมอย่างใกล้ชิด และรับรู้สภาพความเป็นจริงของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้ข้อมูลที่เผยแพร่ต่อประชาคมโลกตั้งอยู่บนข้อเท็จจริงที่ตรวจสอบได้

“การเปิดโอกาสให้คณะทูตฯ และสื่อมวลชนลงพื้นที่ด้วยตนเอง เป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการนำเสนอข้อเท็จจริงอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ พร้อมแสดงให้ประชาคมโลกเห็นถึงการยึดมั่นในสันติวิธีและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมและความไว้วางใจ ซึ่งนำไปสู่การฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค เพื่อย้ำบทบาทของประเทศไทยในฐานะประเทศที่พร้อมขับเคลื่อนความร่วมมือเพื่อสันติภาพอย่างยั่งยืน” นายจิรายุ กล่าว  

สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา7จังหวัด เหตุการณ์ปกติ

วันนี้ (วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม 2568) เวลา 07.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด เหตุการณ์ปกติ โดยกองทัพไทยยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นทั้ง 11 พื้นที่ และวางรั้วลวดหนามอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาอธิปไตยของไทยไม่ให้ใครล่วงล้ำเข้ามา 

ในวันนี้  รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศ จะนำคณะทูต จากสถานทูตต่างประเทศ ประจำประเทศไทยจำนวน 34 คน จาก  34 ประเทศและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ จำนวน  2 คน  รวมทั้งสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 20 สำนักข่าว และสื่อท้องถิ่น ร่วมลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อสังเกตการณ์การเก็บกู้ทุ่นระเบิดและติดตามสถานการณ์ความเสียหายของพื้นที่พลเรือนจากเหตุการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (Field Visit to observe the situation regarding anti-personnel landmines) ด้วย

ทั้งนี้ คณะทูตฯ รวมทั้ง สื่อมวลชน จะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากพื้นที่จริงด้วยตนเอง และจะได้เห็นกระบวนการปฏิบัติงานของหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรม รวมทั้งพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากกับระเบิดด้วย