EDU Research & Innovation
รร.พระปริยติธรรมภาคใต้ตอบโต้สส.ปชน. ด้อยค่าศึกษาพระปริยัติธรรมไร้คุณภาพ

สุราษฏร์ธานี-ตอบโต้ สส.กทม. พรรคประชาชน ด้อยค่าการศึกษาพระปริยัติธรรม ไม่มีคุณภาพ ฯหลังอภิปรายงบประมาณ การใช้จ่ายเงินดังกล่าวเป็นการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา
นายสิทธิเณศ เห้งทับ นายกสมาคมครูโรงเรียนพระปริยัติธรรมสามัญภาคใต้ กล่าวว่ามติที่ประชุมสมาคมฯ รวมกันออกแถลงการณ์ตอบโต้ ข้อเท็จจริง กรณี สส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นจำนวนเงิน 5,518 ล้านบาทนั้น ซึ่งการใช้จ่ายเงินดังกล่าวเป็นการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา การศึกษาพระปริยัติธรรมไม่มีคุณภาพ ฯกรณี สส.กทม. พรรคประชาชน ได้อภิปรายงบประมาณสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นจำนวนเงิน 5,518 ล้านบาทนั้น ซึ่งการใช้จ่ายเงินดังกล่าวเป็นการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาหลายเรื่อง และมิใช่ภารกิจของสำนักพุทธฯ บางเรื่องมีความซ้ำซ้อนขัดต่อหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ส่วนหนึ่งปรากฏข้อเท็จจริงในงบบุคลากร ซึ่งเป็นจำนวนเงิน 1,642 ล้านบาท เงินจัดสรรดังกล่าวคิดว่าเป็นเงินของข้าราชการหรือพนักงานของรัฐ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เงินดังกล่าวได้นำไปให้แก่พระ ซึ่งขัดต่อหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ห้ามพระภิกษุถือเงินและได้อภิปราย กล่าวข้อความว่าสามเณรและพระสงฆ์ที่ศึกษาพระปริยัติธรรมเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาและภารกิจด้านการศึกษา มิใช่อำนาจหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงควรตัดงบโครงการให้ทุนการศึกษาตามพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทั้ง 2 โครงการจำนวน 67 ล้านบาท
ผมขอนำข้อมูลให้ประชาชนทราบว่า เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2559 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนิน โครงการทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารีเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ด้วยการสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษา และสามเณรที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล และขาดแคลนทางด้านทุนทรัพย์ ให้ได้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จนจบระดับปริญญาตรี และเมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว สามารถกลับไปเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง อันจะส่งผลต่อการพัฒนาประเทศ สนองโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร (กพด.) ซึ่งทรงรับไว้ในพระราชูปถัมภ์ ในพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ดังนั้น โรงเรียนพระปริยัติธรรมสามัญศึกษา จึงเป็นสถานศึกษาที่เชื่อมโยงกับสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
สส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายโดยไม่มีการศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ด้วยถ้อยคำและท่าทางที่แสดงออก ระหว่างการถ่ายทอดสดในสภาอันทรงเกียรติ ซึ่งกระทบต่อจิตใจของประชาชนที่ได้รับฟังเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการพูดให้หลงเชื่อข้อมูลที่กล่าวอ้างในสภา ว่าระบบการศึกษาของพระภิกษุและสามเณร เป็นภาระ ไม่คุ้มค่า ไม่มีกฎหมายรองรับและสิ้นเปลืองงบประมาณดังกล่าว อีกทั้งยังมีทัศนคติ ทางด้านลบ ต่อความรู้สึกนึกคิด ความเชื่อและมีพฤติกรรมอันมิบังควร.. ทรงได้รับการยกย่องและเทิดทูนจากประชาชนชาวไทยอย่างกว้างขวาง มีคุณูปการต่อประเทศไทยในหลายด้าน ทั้งด้านการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย การพัฒนาสังคม และการศึกษา เป็นศูนย์ร่วมจิตใจคนไทยทั้งชาติ หากไม่นำข้อเท็จให้ประชาชนทราบ อาจเป็นเหตุให้สร้างความแตกแยกในสังคมไทยในอนาคตอันใกล้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ผมขอให้ข้อเท็จจริงที่ สส.กทม. พรรคประชาชน ไม่ทราบ ว่าบุคลากรในโรงเรียนพระปริยัติแผนกสามัญศึกษา 408 โรง มีความหนักแน่นในอุดมการณ์ของตนเอง อุดมการณ์ที่อุทิศตน เพื่อส่วนรวม สร้างคุณประโยชน์ให้กับสังคม มีความซื่อสัตย์สุจริต และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้งมากกว่าประโยชน์ส่วนตน ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ดำรงอยู่ในสมณะธรรม สมควรแก่สภาวะ สามารถธำรงและสานต่อพระพุทธศาสนาให้มีความเจริญต่อไปได้เป็นอย่างดี บุคลากรเหล่านั้น ไม่ได้รับสิทธิตามกฎหมาย นับเป็น เวลา 6 ปี
เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง เงินวิทยฐานะ เงินค่าตอบแทน ค่าจ้าง สวัสดิการ และสิทธิประโยชน์อื่นไม่ได้รับจากงบประมาณของรัฐ นี้คือความผิดพลาด ของการบริหารงบประมาณแผ่นดิน รัฐบาลทอดทิ้ง หมดคุณค่าในวิชาชีพครูโรงเรียนพระปริยัติฯ บุคลากรรับค่าตอบแทน ต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ ภาระงานที่มอบหมายให้รับผิดชอบเท่ากับบุคลากรครูสังกัดหน่วยราชการอื่นๆ กลับไม่ได้รับการดูแลเอาใส่ใจ หมดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ บนรากฐานของความยั่งยืน และความเท่าเทียมของสังคมไทย แม้จะมีพระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.๒๕๖๒ มาตรา ๑๘
โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา มิได้มุ่งสอนทางด้านวิชาการสามัญเพียงอย่างเดียว แต่ยังมุ่งเน้นทางด้านวิชาธรรม และยังทำหน้าที่เป็น “ที่พึ่งทางใจ ทางการศึกษา” ให้กับเยาวชนทุกคน โดยเฉพาะเด็กที่ขาดโอกาส เด็กยากจน และเด็กที่มาจากครอบครัวที่แตกแยก โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา เป็นสถานที่ “ที่ทุกชีวิตมีค่า ทุกคนมีโอกาส” ไม่ว่าฐานะหรือครอบครัวจะเป็นอย่างไร ที่นี่คือบ้านอีกหลังที่พร้อมโอบอุ้ม ดูแล และมอบความรักให้เยาวชนเติบโตอย่างมีศักดิ์ศรี คือทางรอดของสังคมเพื่อคนทั้งมวล โรงเรียนที่มุ่งสร้างศีลธรรมยุวชน เพื่อสันติภาพของโลก ประสานภาคีเครือข่ายและผู้มีจิตศรัทธา เพื่อสนับสนุนทุนการศึกษา อุปกรณ์การเรียน และค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เนื่องจากเด็กที่เข้ามาบวชเรียนที่นี่จะได้เรียนฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในชีวิตประจำวันอีกด้วย เช่น ค่าภัตตาหาร ค่าหนังสือ ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าผ้าไตรจีวร ค่าของใช้ส่วนตัว บริการหอพักสามเณร มีประกันภัยอุบัติเหตุ ตลอดจนค่ายานพาหนะในการมาโรงเรียนสำหรับกรณีที่สามเณรไม่ได้จำวัดที่โรงเรียน แต่จำวัดอยู่ที่
วัดใกล้บ้านก็สามารถไปกลับโรงเรียนเล่าเรียนได้เช่นกัน การบริหารงานงบประมาณทั้งหมดได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล จัดสรรมาในลักษณะเงินอุดหนุนรายหัวจากสำนักงานการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไม่มีงบประมาณบริหารสถานศึกษา ค่าสาธารณูปโภค ค่าจำเป็นอื่นๆ จะได้รับการช่วยเหลือจากภาคีเครือข่าย และการบริจาคของผู้มีจิตศรัทธา บ้านแห่งโอกาสและการดูแลจากเส้นทางที่เต็มไปด้วยความท้าทาย สามเณรหลายรูปเลือกก้าวเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ณ โรงเรียนพระปริยัติธรรม มิใช่เพียงเพราะขาดโอกาส แต่ด้วยความตั้งใจที่จะศึกษาและเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ ที่นี่ทุกรูปได้รับการหล่อเลี้ยงทั้งกาย ใจ และสติปัญญา พลิกฟื้นชีวิตจากความยากไร้ สู่การมีอนาคตที่เปี่ยมด้วยคุณค่า พร้อมเป็นกำลังสำคัญของสังคมอย่างยั่งยืน