In Thailand
ชาวไทยไหว้ขอ'พระนเรศวรฯ'ให้ไทยชนะ 'ปราสาทสด๊กก๊อกธม'กรมศิลป์สั่งปิดก่อน

ปราจีนบุรี-คนไทยห่วงไทยไหว้ขอพรศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชวอนให้ไทย-ทหารไทยมีชัยชนะเหนือละแวกเช่นอดีต ขณะปราสาทสด๊กก๊อกธม อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว อยู่ห่างจากชายแดนประเทศไทย - ประเทศกัมพูชา เป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ แต่เพื่อความปลอดภัยได้ปิดให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่จนกว่าจะได้รับคำสั่งจากกรมศิลปากร
เมื่อเวลา 14.35 วันนี้ 17 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรี เนื่องในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จากสถานการณ์ปะทะตามแนวชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาที่ จ.สุรินทร์ และ ตามแนวชายแดนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลุกลามมาในภาคตะวันออก จ.สระแก้ว จ.ตราด ที่ผ่านมาแม้จะมีการเจรจาต่าง ๆ แต่ยังเป็นที่กังวลในสถานการณ์ของคนไทยที่ทางฝ่ายกัมพูชายังยั่วยวนไทย-ก่อกวนด้วยวิธีการต่าง ๆ ตลอดจนแพร่ข่าวปลอมทุกวันให้ชาวโลกหลงเชื่อ
พบที่อนุสาวรีย์ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตั้งอยู่ที่สี่แยกเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งศาลนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชัยชนะแก่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งเคยเสด็จมาหยุดพักทัพ ณ บริเวณนี้ ระหว่างการเดินทางไปปราบศัตรูที่เมืองละแวกประเทศกัมพูชา ภายในศาลมี พระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรในท่าประทับยืน (องค์กลาง) ผู้คนนิยมผู้คนนิยมมาสักการะขอพร และถวายรูปปั้นไก่ชนซึ่งเป็นสัตว์ที่พระองค์ทรงโปรด
พบตลอดวัน ประชาชนใกล้-ไกลพากันเดินทางมาสักการะขอพร- แก้บนพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยเฉพาะ ขอพรชัยชนะแก่ประเทศไทยและความปลอดภัยเหล่าทหาร ตำรวจ ตชด. ทหารพราน ชัยชนะด้านการต่างประเทศ-ข่าวสารเหนือกัมพูชา
พบนายก๊อง เซียนพระ วัดเอี่ยมประดิษฐ์ ตำบลพรหมณี อำเภอเมืองนครนายก กล่าวว่า เป็นเซียนพระ ชาว จ.นครนายกเดินทางมาพร้อมหลวงพี่ที่วัดฯ วัดเอี่ยมประดิษฐ์ อธิษฐานขอให้สมเด็จพระนเรศวรมหาราชคุ้มครองประเทศไทยและทหารไทยให้มีแต่ความปลอดภัย นายก๊องกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไป ได้สอบถาม นางสาววัชรี ชมภู ผอ.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรีถึงปราสาทสด๊กก๊อกธม ตั้งอยู่บ้านหนองหญ้าแก้ว หมู่ที่ 9 ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว อยู่ห่างจากชายแดนประเทศไทย - ประเทศกัมพูชา เป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร
นางสาววัชรี กล่าวว่า ปราสาทสด๊กก๊อก ขึ้นเป็นอุทยานประวัติศาสตร์แห่งที่ 11เป็นปราสาทหินขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกของประเทศไทย ไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ แต่เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวได้ปิดให้บริการอยู่จนกว่าจะได้รับคำสั่งจากกรมศิลปากร นางสาววัชรี กล่าว
และกล่าวต่อไปว่า “ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานปราสาทสด๊กก๊อกธมครั้งแรก ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 52 วันที่ 8 มีนาคม 2478 ต่อมาได้กำหนดเขตพื้นที่โบราณสถานประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 114 ตอนพิเศษ 81 ง วันที่ 15 กันยายน 2540 รวมพื้นที่โบราณสถาน 641 ไร่ 2 งาน 82 ตารางวา
กรมศิลปากรได้อนุรักษ์ปราสาทสด๊กก๊อกธม ตั้งแต่ พุทธศักราช 2536 - 2557 ตามหลักการอนุรักษ์และบูรณะโดยวิธีอนัสติโลซิส บนพื้นฐานของงานโบราณคดี ดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์เบื้องต้น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว โดยมีลานจอดรถ ห้องสุขา ซุ้มจำหน่ายของที่ระลึก ระบบน้ำ ระบบไฟ และดูแลความสะอาดภายในบริเวณปราสาท
สำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี ได้ดำเนินการประสานจังหวัดสระแก้วตั้งคณะกรรมการพัฒนาเพิ่มศักยภาพโบราณสถานปราสาทสด๊กก๊อกธมให้เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมสู่อาเซียน เพื่อเตรียมรายละเอียดในการจัดทำแผนแม่บท แผนปฏิบัติการ บริหารจัดการและปรับภูมิทัศน์เป็นอุทยานประวัติศาสตร์แห่งใหม่ ซึ่งมีมติที่ประชุมแล้ว เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2559 และ สำนักศิลปากรที่ 5ปราจีนบุรี ได้รับอนุมัติงบประมาณจากกรมศิลปากรเพื่อปรับสภาพภูมิทัศน์ในปีงบประมาณ พุทธศักราช 2560 จำนวน 10 ล้านบาท”
มานิตย์ สนับบุญ-ข่าว /ณัฐนันท์-ภาพ/ปราจีนบุรี