In Thailand
รมช.มหาดไทยลงพื้นที่ศรีสะเกษรุดเยี่ยม ผู้ประสบภัยชายแดนย้ำรัฐฯไม่ทอดทิ้ง

ศรีสะเกษ-วันที่ 17 สิงหาคม 2568 เวลา 13.00 น. นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประสบภัยจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา
จุดแรก รมช.มหาดไทย ได้ลงพื้นที่ บ้านโศกขามป้อม ตำบลภูผาหมอก ตรวจเยี่ยมบ้านของ นายทองสุข คำแก้ว อาสาสมัครชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน (ชรบ.) และ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ ซึ่งบ้านพักได้รับความเสียหายจากแรงสะเก็ดระเบิด รวมถึงรถกระบะแคปที่จอดอข้างบ้านในวันเกิดเหตุก็ได้รับความเสียหายด้วย ซึ่งได้รับบ้านน็อคดาวน์ 2 หลังที่จัดทำขึ้นเพื่อเยียวยาครอบครัวผู้ประสบภัย
รมช.มหาดไทย ได้กล่าวให้กำลังใจแก่ ชรบ.ภูผาหมอก ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง แม้อยู่แนวชายแดน โดยกล่าวว่า ขอขอบคุณพี่น้องชรบ.ทุกคนที่เสียสละเวลาส่วนตัว เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับชุมชนในช่วงสถานการณ์ที่ยากลำบาก ดูแลประชาชนอย่างเต็มกำลัง
นายทองสุข เล่าย้อนเหตุการณ์ว่า วันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตนเองออกไปตรวจสอบพื้นที่เพื่อดูแลบ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้อพยพตามคำสั่ง ออกไปก่อนหน้าแล้ว ขณะเดียวกัน ภรรยาโชคดีที่อยู่ด้านนอกบ้าน จึงปลอดภัยจากแรงระเบิด แม้บ้านพักและรถกระบะจะเสียหาย แต่ครอบครัวยังรอดพ้นจากอันตราย
จากนั้น รมช.ธีรรัตน์ ได้เดินทางต่อไปยัง บ้านภูมิซรอล หมู่ที่ 2 ตำบลเสาธงชัย ตรวจเยี่ยมบ้านเรือนราษฎร ที่ได้รับความเสียหาย พร้อมพบปะจิตอาสาและชาวบ้านที่ร่วมแรงซ่อมแซมบ้านเรือนให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ ซึ่งบ้านภูมิซรอลจุดนี้ถือเป็นจุดกระสุนตกที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด
ต่อมาเวลา 16.00 น. รมช.พร้อมคณะได้เข้าเยี่ยมดูบ้านของ นายนารี ผาหอม ซึ่งได้รับความเสียหายทั้งหลังจากจรวด BM-21 เหตุเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม รมช.กล่าวว่า จะฝากสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการสร้างบ้านคืนเพื่อเยียวยา พร้อมให้ความช่วยเหลือครอบครัวกลับมามีชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบายเช่นเดิม
รมช.ธีรรัตน์ กล่าวด้วยความห่วงใยว่า รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยจะเร่งรัดมาตรการเยียวยา ฟื้นฟูบ้านเรือน และดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้กลับมามีชีวิตความเป็นอยู่ที่มั่นคงโดยเร็วที่สุด พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลไม่ทอดทิ้งพี่น้องประชาชนแม้แต่ครอบครัวเดียว.
ลักขณา กงแก้ว ผุ้สื่อข่าว จ.ศรีสะเกษ/รายงาน