Biz news
บี.กริมเพาเวอร์-GC Estateเซ็นสัญญา เช่าที่ดินระยะยาวก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย

กรุงเทพฯ-บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIMหนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศร่วมลงนามในสัญญาเช่าที่ดินเป็นเวลา22 ปี7 เดือน ก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย (Remote Substation) ที่บริษัท จีซี เอสเตท จำกัด (GC Estate)ธุรกิจในกลุ่มบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน) หรือ GC ผู้ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์และสาธารณูปโภคโดยมีนายดอน ทยาทาน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานวิศวกรรมเทคโนโลยีและพัฒนาโครงการ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด(มหาชน) และนางสุนัฏฐา สุขไทย กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีซี เอสเตท จำกัด เป็นผู้ลงนามเพื่อขยายระบบจำหน่ายไฟฟ้าแรงดัน 22กิโลวัตต์ ในพื้นที่GC Estateรองรับความต้องการของลูกค้าใหม่และความเติบโตของพื้นที่อุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายดอน ทยาทาน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานวิศวกรรมเทคโนโลยีและพัฒนาโครงการ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมลงนามกับ GC Estate เช่าที่ดินขนาด 3 ไร่20 ตารางวาก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย (Remote Substation) ขนาดหม้อแปลงพิกัด 40 MVA จำนวน 2 เครื่อง พร้อมระบบจำหน่ายแรงดันไฟฟ้า 22 kVเพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าในพื้นที่อุตสาหกรรมGC Estate ซึ่งมีความต้องการใช้ไฟฟ้าประมาณ 30เมกะวัตต์และสามารถรองรับปริมาณความต้องการไฟฟ้าในอนาคตได้ถึง 60 เมกะวัตต์ ที่ N-1ทั้งเพิ่มศักยภาพในการดึงดูดลูกค้าอุตสาหกรรมรายใหม่ ตลอดจนสร้างความพร้อมสำหรับโครงการและสัญญาที่จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี2569 โดยปัจจุบันหนึ่งในลูกค้าของ บี.กริม เพาเวอร์คือ Wansheng International Co., Ltd ได้เซ็นสัญญาซื้อไฟฟ้าแล้วและมีกำหนดจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์(COD) ในวันที่ 31 เมษายน2569
สำหรับลูกค้าอุตสาหกรรมถือเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของ บี.กริม เพาเวอร์ ที่เติบโตต่อเนื่อง ทั้งจำนวนลูกค้าใหม่ และปริมาณไฟฟ้าที่ขายแก่ลูกค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น โดยในปี 2568 บี.กริม เพาเวอร์ ตั้งเป้าเพิ่มลูกค้าอุตสาหกรรมรายใหม่ เชื่อมเข้าระบบรวม 40-50 เมกะวัตต์ ส่วนเป้าหมายระยะยาว บี.กริม เพาเวอร์ฯ ตั้งเป้าหมายสู่การเป็นผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลกและบรรลุเป้าหมายการก้าวสู่องค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Carbon Emissions) ภายในปี 2593 และตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิตเป็น 10,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573