EDU Research & Innovation

เปิดเลนส์การเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุดของไทย ในช่วง2ทศวรรษผ่าน'ทีเค พาร์ค'



สองทศวรรษที่ผ่านมา สังคมไทยยังคงเผชิญโจทย์ใหญ่ที่การเรียนรู้ติดอยู่ในกรอบห้องเรียนและตำรา รัฐบาลในยุคนั้นจึงมีวิสัยทัศน์สร้างพื้นที่เรียนรู้รูปแบบใหม่ที่ไม่เพียงเป็นแค่ห้องสมุด แต่เป็น “ห้องสมุดมีชีวิต” ที่มีชีวิตชีวา เปิดกว้าง และเข้าถึงผู้คนทุกวัย ก่อเกิดเป็น “สถาบันอุทยานการเรียนรู้” หรือ “TK Park” ภายใต้สังกัดสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) เพื่อปลุกวัฒนธรรมการอ่าน จุดประกายการเรียนรู้ และวางรากฐานสังคมไทยสู่การเป็นสังคมแห่ง lifelong learning อย่างแท้จริง

จากก้าวแรกจนถึงวันนี้ TK Park มิได้จำกัดบทบาทอยู่เพียงการให้บริการหนังสือ แต่มุ่งสู่การเป็น "ศูนย์กลาง” และ “ต้นแบบ” การเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์" ที่เชื่อมโยงผู้คนและองค์ความรู้เข้าด้วยกัน พร้อมสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเรียนรู้อย่างครบวงจร เพื่อขับเคลื่อนสังคมไทยก้าวไปสู่การเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยในวันนี้เราจะพาไปดูกันว่าในช่วงที่ TK Park เป็นส่วนสำคัญในไลฟ์สไตล์ของการเรียนรู้ของเรานั้น อะไรได้เกิดขึ้นและสร้างการเปลี่ยนแปลงไปแล้วบ้าง

“เป็น” ศูนย์กลางขององค์ความรู้สมัยใหม่

นอกจากเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้แล้ว TK Park ยังมีบทบาทในการสร้างองค์ความรู้ทั้งการศึกษาวิจัย เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ เช่น การศึกษาวิจัยมาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานห้องสมุดมีชีวิต รูปแบบอุทยานการเรียนรู้ การศึกษาวิจัยนโยบายส่งเสริมการอ่านของไทยเปรียบเทียบกับต่างประเทศการศึกษาวิจัยดัชนีการอ่านและสถานการณ์การอ่านของไทย (TK Reading Index) และการรวบรวมองค์ความรู้และภูมิปัญญาที่กระจัดกระจายหรือเข้าถึงยากมาดัดแปลง ปรับแต่ง เพื่อย่อยให้เข้าใจง่าย ผ่านสื่อการเรียนรู้ที่ทันสมัยและกิจกรรมสร้างสรรค์รูปแบบใหม่ๆ ที่กระตุ้นให้เกิดความอยากเรียนรู้ เช่น ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำองค์ความรู้ด้านภูมิปัญญาไทยให้มีความดึงดูด น่าสนใจ ภายใต้แนวคิด “รากไทย ใบสากล” เช่น โครงการขุมทรัพย์ของแผ่นดิน วัตถุเล่าเรื่อง สารานุกรมดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ และเว็บไซต์เพลงพระราชนิพนธ์ “คีตมหาราช” รวมถึง โครงการจากงานวิจัยสู่อุทยานการเรียนรู้ โดยนำผลงานวิจัยมาจัดเป็นนิทรรศการ และกิจกรรมให้เยาวชนได้เรียนรู้และทดลองปฏิบัติจริง พร้อมพัฒนาเป็นนิทรรศการเคลื่อนที่เผยแพร่ไปยังแหล่งเรียนรู้ทั่วประเทศ 

TK Park ยังคงทำหน้าที่สำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำทางการเรียนรู้ ด้วยการจัดการและเผยแพร่องค์ความรู้อย่างสร้างสรรค์ ให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายและเท่าเทียม ผ่านหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ เว็บไซต์ สื่อออนไลน์ รวมถึงการนำองค์ความรู้จาก TK Forum เวทีแลกเปลี่ยนความคิดระดับนานาชาติ มาถ่ายทอดและต่อยอดสู่สาธารณะ ตลอดจนเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มสื่อร่วมสมัยอย่าง thekommon.co เพื่อให้กลายเป็นคลังความรู้ร่วมสมัยที่มีชีวิต สร้างแรงบันดาลใจและพร้อมต่อยอดสู่การปฏิบัติจริง

“เป็น” ผู้ปลุกการลดการเรียนรู้ที่เหลื่อมล้ำ

เพราะการเรียนรู้ไม่ควรถูกปิดกั้นด้วยความเหลื่อมล้ำ ไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่ที่ไหน ทุกคนควรมีสิทธิ์เข้าถึงโอกาสในการเรียนรู้ได้อย่างเท่าเทียม TK Park จึงมุ่งลดช่องว่างทางการเรียนรู้ด้วยการพัฒนาและขยายเครือข่ายการเรียนรู้ให้ครอบคลุมทั่วถึงทุกภูมิภาค เข้าถึงทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น การขยายเครือข่ายอุทยานการเรียนรู้ไปทั่วประเทศ ปัจจุบันมี  27 แห่งใน 24 จังหวัด และตั้งเป้าขยายเพิ่มอีก 3 แห่งภายในปี 2569 การร่วมมือกับท้องถิ่นพัฒนาเครือข่ายห้องสมุดมีชีวิตในระดับชุมชน และเครือข่ายขนาดเล็กที่ร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ อีกกว่า 300 แห่ง โครงการ TK Mobile Library ห้องสมุดมีชีวิตเคลื่อนที่เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนทุกช่วงวัยที่ต้องการเปิดประสบการณ์การเรียนรู้ใหม่ๆ นอกสถานที่ รวมถึงการทำสื่อสำหรับกลุ่มเปราะบาง เช่น โครงการ “ปันเสียง” ที่อบรมอาสาสมัครผลิตหนังสือเสียงเพื่อมอบให้ห้องสมุดสำหรับผู้พิการทางสายตา

“เป็น” ศูนย์กลางปั้นคนที่พร้อมให้โอกาสทางการเรียนรู้

TK Park ยังมีการมุ่ง “พัฒนาคน” เพื่อขับเคลื่อนการเรียนรู้ในระดับต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบรรณารักษ์ ครู ผู้ดูแลศูนย์เด็กเล็ก อาสาสมัคร ผู้นำชุมชน และเยาวชนให้สามารถ “ส่งต่อความรู้” ตามบทบาทและบริบทของตนเอง ทั้งการจัดหลักสูตรฝึกอบรม เวิร์กช็อป และกิจกรรมเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง เช่น  โครงการอบรมและประกวดห้องสมุดมีชีวิต (TK Park Living Library Award) ที่มุ่งพัฒนาศักยภาพบรรณารักษ์รุ่นใหม่ให้มีแนวคิดและทักษะใหม่ ๆในการบริหารห้องสมุดอย่างมีประสิทธิภาพ มีทิศทาง และเป็น “นักสร้างสรรค์กิจกรรม” ที่สามารถออกแบบประสบการณ์การเรียนรู้ให้สอดคล้องกับบริบทของชุมชนและตอบโจทย์ผู้ใช้บริการทุกที่ นอกจากนี้ ยังมีการปั้น “ผู้นำการเรียนรู้ท้องถิ่น” ผ่านโครงการความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาสังคม ให้สามารถสร้างพื้นที่การเรียนรู้ของตนเองได้อย่างยั่งยืน

“เป็น” ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมการเรียนรู้ไทยให้ทันโลก

เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล TK Park ได้ปรับตัวอย่างรวดเร็วด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมมาเพิ่มประสิทธิภาพและตอบโจทย์พฤติกรรมการเข้าถึงความรู้ของผู้คนที่เปลี่ยนไป นับตั้งแต่ปี 2555 ที่ TK Park คือผู้ริเริ่มบุกเบิกพัฒนา TK Application” ในช่วงเวลาที่คนในสังคมไทยส่วนใหญ่ยังไม่คุ้นชินกับการใช้แอปพลิเคชันในชีวิตประจำวันอย่างเช่นทุกวันนี้ และในปีถัดมาก็เริ่มพัฒนา  TK Public Online Library” ห้องสมุดสาธารณะออนไลน์ซึ่งเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปี 2558 ให้บริการอีบุ๊กกว่า 10,000 รายการ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แอปพลิเคชัน MyTK ที่รวมบริการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของสมาชิกรวมถึงการติดตามกิจกรรมและข่าวสารต่างๆ ไว้อย่างครบครัน ควบคู่กับบริการ Book Delivery ที่ส่งและคืนหนังสือได้ตลอดเวลา TK Read แอปห้องสมุดดิจิทัล ภายใต้โครงการ TK Park Online Library ที่สามารถใช้อ่านอีบุ๊ก นิตยสาร ฟังหนังสือเสียง หรือเรียนคอร์สออนไลน์ได้อย่างสะดวกด้วยฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ นับเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิทัลที่ทำให้การเรียนรู้เกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา ตอกย้ำพันธกิจการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตได้อย่างแท้จริง

20 ปีที่ “เป็นผู้นำ” การเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้ให้สังคม

ในโอกาสครบรอบ 20 ปี ในปี 2568 TK Park ยังได้จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองภายใต้แนวคิด “The Catalyst of Change : สร้างการเปลี่ยนแปลง” โดยแต่ละกิจกรรมล้วนสะท้อนบทบาทการสร้างการเปลี่ยนแปลงใน 3 มิติหลัก คือ เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้ และ เปลี่ยนสังคม เพื่อตอกย้ำพันธกิจในการผลักดันประเทศไทยสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยมีกิจกรรมที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น

การมอบรางวัล TK Park Awards เพื่อยกย่องและเชิดชูบุคคล องค์กร และห้องสมุด ที่มีบทบาทโดดเด่น ในการส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีรางวัลไฮไลต์สำคัญ คือ รางวัลเกียรติยศ “Lifetime Achievement Award” ที่มอบแด่บุคคลที่อุทิศตนและทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อการส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้

เทศกาลการเรียนรู้ Learning Fest 2025 จัดขึ้นทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดนครราชสีมา ภายใต้แนวคิดที่สะท้อนอัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ โดยที่กรุงเทพฯ มาในแนวคิด Givetopia: อุดมการ(ณ์)ให้” เพื่อจุดประกายให้สังคมตระหนักถึงคุณค่าและพลังของ “การให้” ไม่ว่าจะเป็นความรู้ ประสบการณ์ หรือแรงบันดาลใจ ซึ่งล้วนเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนส่วนที่จังหวัดนครราชสีมา จัดภายใต้แนวคิด Korat Cat 361 องศา – มองโคราชอย่างแมวมอง” โดยใช้ “แมวโคราช” หรือ “แมวสีสวาด” อันเป็นสัญลักษณ์สำคัญและ Soft Power ของท้องถิ่น มาเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงกิจกรรมด้านการเรียนรู้ วัฒนธรรม และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อเปิดโอกาสให้ชุมชนได้ต่อยอดความรู้ พัฒนาอาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างความภาคภูมิใจในท้องถิ่น

READ FEST: EXERCISE IDEAS ออกกำลังกายสมอง เทศกาลหนังสือแนวใหม่ที่เปลี่ยนภาพจำการอ่านจากกิจกรรมที่นิ่งๆ เงียบๆ ให้กลายเป็นการเรียนรู้แบบ Active Learning ที่ทั้งสนุกและสร้างสรรค์ โดยเปลี่ยนสนามกีฬาแห่งชาติให้กลายเป็น “สนามออกกำลังสมอง” ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เล่นกับความรู้ สนุกกับการคิด และตื่นเต้นกับการลงมือทำ และค้นพบศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวเอง ผ่านกิจกรรมหลากหลายทั้งอ่าน พูด คิด เขียน ถ่ายทอดจินตนาการ พร้อมฝึกทักษะแห่งอนาคตที่ทุกคนจำเป็นต้องมี เพื่อให้พร้อมรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

แคมเปญ "อ่านแล้ว อ่านอีก" ที่ชวนคนไทยมาร่วมกันมอบโอกาสการเรียนรู้ให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชนด้วยการบริจาคหนังสือ 1 ล้านเล่ม เพื่อส่งต่อไปยังห้องสมุดโรงเรียน ห้องสมุดชุมชน ศูนย์การเรียนรู้ และศูนย์เด็กเล็ก โดยเฉพาะในพื้นที่ขาดแคลน ห่างไกล และทุรกันดาร รวม 2,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงหนังสือดี ๆ ได้ อย่างเท่าเทียม

“เป็น” ผู้พร้อมนำคนไทยให้ก้าวไปอีกขั้นกับทศวรรษที่ 3 ขององค์กร

ในช่วงก้าวสู่ทศวรรษที่สาม TK Park ยังคงยืนหยัดเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่เปิดกว้างสู่ทุกโอกาส เติมเต็มแรงบันดาลใจให้ทุกการเติบโต และตอบสนองต่อความต้องการของสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเรียนรู้อย่างครบวงจรเพื่อเป้าหมายใหญ่ คือ ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ “สังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต” ที่ทุกคนสามารถเรียนรู้และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ภายใต้บทบาท Changemaker โดยเน้นการดำเนินงานใน 3 มิติหลัก

1. สร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ เพื่อมุ่งสู่การเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning Hub) สร้างพื้นที่และเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ที่หลากหลาย เชื่อมโยงกันทั้งในโลกออนไลน์-ออฟไลน์ เพื่อให้ทุกคน ทุกเพศวัย สามารถเข้าถึงความรู้ได้อย่างเท่าเทียม พร้อมออกแบบกิจกรรมและบริการที่กระตุ้นความสนใจ สร้างแรงบันดาลใจ และสอดคล้องกับความต้องการของคนทุกกลุ่ม รวมถึงขยายเครือข่ายอุทยานการเรียนรู้ และแนวคิดห้องสมุดมีชีวิตให้ครอบคลุม เข้าถึงทุกพื้นที่มากยิ่งขึ้น เพื่อให้การเรียนรู้เกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา และกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตอย่างแท้จริง

2. เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการอ่านและสื่อสร้างสรรค์ (Creative Reading & Media Innovation Leader) มุ่งคิดค้น ยกระดับ และพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ พร้อมสร้างคอนเทนต์สร้างสรรค์ร่วมสมัย ที่ดึงดูด น่าสนใจ เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

3. สร้างเครือข่ายการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงและเข้าถึงได้ทั่วประเทศ มุ่งมั่นเป็น “แพลตฟอร์มกลาง” ที่รวบรวมองค์ความรู้ ทรัพยากร และผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายวงการ พร้อมเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งจากภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา และภาคประชาสังคมให้เกิดเครือข่ายการเรียนรู้ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน เชื่อมโยงกันทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ ไปจนถึงระดับนานาชาติเพื่อร่วมกันสร้างวัฒนธรรม การเรียนรู้ให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน สร้างแรงจูงใจให้เกิดการเรียนรู้ทุกช่วงวัย และปลูกฝังแนวคิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต

การเดินทาง 20 ปีของ TK Park ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราวของห้องสมุด แต่คือการบุกเบิกวัฒนธรรมการเรียนรู้รูปแบบใหม่ให้สังคมไทย สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ จากห้องสมุดแห่งหนึ่งในใจกลางกรุงเทพฯ สู่เครือข่ายการเรียนรู้ที่แผ่ขยายครอบคลุมทั่วประเทศ จากการให้บริการหนังสือ สู่การเป็นผู้นำในการสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ที่ยั่งยืน แต่นี่ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้น เพราะการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็นภารกิจที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องและยาวนาน แต่ด้วยรากฐานที่แข็งแกร่งและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน TK Park พร้อมที่จะก้าวต่อไปสู่ทศวรรษใหม่ด้วยจิตวิญญาณของผู้นำการเปลี่ยนแปลง เพราะเราเชื่อว่าการเรียนรู้คือรากฐานสำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลง และทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมนำไปสู่อนาคตที่ดีกว่าสำหรับทุกคน” นายวัฒนชัย วินิจจะกูล ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันอุทยานการเรียนรู้ กล่าวปิดท้าย