In News

ครม.อนุมัติให้สพพ.ออกพันธบัตรกู้ยืมเงิน ปรับโครงสร้างหนี้1พันล้านช่วยสปป.ลาว



กรุงเทพฯ-​ครม. มีมติให้ความเห็นชอบให้ สพพ. ดำเนินการกู้ยืมเงินโดยการออกพันธบัตรเพื่อสังคมเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของ สพพ. วงเงิน 1,000 ล้านบาท

วันนี้ (วันอังคารที่ 19 สิงหาคม 2568) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) ดำเนินการกู้ยืมเงินโดยการออกพันธบัตรเพื่อสังคมเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของ สพพ. วงเงิน 1,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ 

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กค. รายงานว่า ที่ผ่านมา สพพ. ได้ดำเนินการกู้เงินจากสถาบันการเงินภายในประเทศเพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ สปป. ลาว เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับ(1.) โครงการพัฒนาถนนหมายเลข 11 (R11) ช่วงครกข้าวดอ-บ้านโนนสะหวัน-สานะคาม-บ้านวัง-บ้านน้ำสัง และ (2.) โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) โดยปัจจุบันอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลมีแนวโน้มที่จะมีการปรับลดลง กค. โดย สพพ. จึงเห็นควรให้มีการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ระยะสั้นของ สพพ. โดยการออกพันธบัตรเพื่อสังคม (Social Bond) เพื่อให้ สพพ. ได้รับต้นทุนที่เหมาะสม รวมถึงเพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากความไม่สอดคล้องของอายุเงินที่ สพพ. กู้และอายุเงินที่ สพพ. ปล่อยกู้ให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนเป็นการลดความผันผวนของต้นทุนในระยะยาว โดย สพพ. เตรียมการที่จะออกพันธบัตรเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2569

คณะกรรมการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (คพพ.) ในคราวประชุมครั้งที่ 2/2567 มีมติเห็นชอบแผนการออกพันธบัตรเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของ สพพ. ประเภทสังคม สำหรับโครงการพัฒนาถนนหมายเลข 11 (R11) ช่วงครกข้าวดอ-บ้านโนนสะหวัน-สานะคาม-บ้านวัง-บ้านน้ำสัง สปป.ลาว จำนวน 913.25 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) สปป.ลาว จำนวน 690.03 ล้านบาท รวมวงเงิน 1,603.28 ล้านบาท โดยจะออกพันธบัตรเพื่อสังคม ภายใต้กรอบวงเงิน 1,000 ล้านบาท และใช้เงินสะสมของ สพพ. ชำระคืนก่อนกำหนดกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) จำนวน 603.28 บาท โดยในการออกพันธบัตรมีเงื่อนไขการดำเนินการ ดังนี้

- วงเงิน 1,000 ล้านบาท
- วัตถุประสงค์ เพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ระยะสั้นของ สพพ. โดยการออกพันธบัตรเพื่อสังคม
- อายุ สอดคล้องกับอายุโครงการที่เหลือและเป็นไปตามสภาวะตลาด (10 ปี)
- อัตราดอกเบี้ย คงที่ (ร้อยละต่อปี) คาดว่าประมาณ Government Bond Yield Curve 10 ปี บวก Spread ประมาณ บวก 90 bps
- กลุ่มนักลงทุน นักลงทุนสถาบัน เช่น สถาบันการเงิน กองทุนรัฐบาล บริษัทประกัน เป็นต้น
- การจัดจำหน่าย แบบเฉพาะเจาะจงให้กับกลุ่มนักลงทุนสถาบันไม่เกิน 10 ราย (Private Placement 10: PP10)
- การออกตราสารหนี้ ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 

การพิจารณาออก Social Bond เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของ สพพ. เป็นแนวทางในการบริหารจัดการหนี้ของ สพพ. สำหรับทั้งสองโครงการข้างต้นให้มีอายุเงินกู้ยาวขึ้นและอัตราดอกเบี้ยเหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนทางการเงินของ สพพ. และเป็นนวัตกรรมทางการเงินของ สพพ. ที่สนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ส่งเสริมภาพลักษณ์ของ สพพ. และยกระดับมาตรฐานโครงการให้ความช่วยเหลือต่างๆ ของ สพพ. ให้เป็นที่ยอมรับ ทั้งนี้ อาจมีขั้นตอนการดำเนินการในการออกพันธบัตร การสอบถาม และการรายงานต่างๆ ที่มากกว่าการออกพันธบัตรทั่วไป 

อัตราผลตอบแทนของ Social Bond ของ สพพ. จะขึ้นอยู่กับอัตราตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ขึ้นกับหลายปัจจัย ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของ Social Bond สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยที่ สพพ. กู้ ธสน. ในอัตราร้อยละ 2.65 ต่อปี ดังนั้น หาก สพพ. ดำเนินการออกพันธบัตรไม่สำเร็จหรือมีต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการออก Social Bond ไม่คุ้มค่า สพพ. อาจพิจารณาดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในรูปแบบอื่นแทน