EDU Research & Innovation
จุฬาฯตั้งบ.Spin-offชูนวัตกรรมสู่สังคม ชื่อ'CU Engineering Enterprise'

กรุงเทพฯ-คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากจะเป็นสถาบันการศึกษาสำหรับนิสิตแล้ว ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างค่านิยมในการ เรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) เพราะเชื่อมั่นว่า “บุคคล” คือทรัพยากรที่ทรงพลังที่สุด และบุคคลที่มีคุณภาพ จะมีศักยภาพในการเป็น “นวัตกร” ที่สามารถสร้างนวัตกรรม เพื่อโลก เพื่อสังคมที่ดีขึ้นต่อไปได้ โดยมีการจัดตั้ง “CU Engineering Enterprise” บริษัท Spin-off ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมสู่สังคมได้อย่างแท้จริง และวันนี้เป็นการพิสูจน์ถึงผลลัพธ์ดังกล่าว ผ่าน 2 สตาร์ทอัพ “MUTHA” นวัตกรรมขาเทียมเพื่อผู้พิการ ที่มีการผลิตเท้าเทียม ไดนามิค เพื่อผู้พิการไปแล้วกว่า 600 เท้า และมีความร่วมมือกับทาง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อส่งมอบเท้าเทียมให้กับทหารที่บาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดจากการลาดตระเวน และ“METICULY” นวัตกรรมกระดูกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล โดยเป็นกระดูกเทียมนวัตกรรมไทยเพื่อการผ่าตัดกะโหลกศีรษะและกระดูกใบหน้าเฉพาะบุคคลผลิตด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ และมีความร่วมมือกับทาง กระทรวงพาณิชย์และกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อส่งมอบกระดูกเทียมไทเทเนี่ยมเฉพาะบุคคลให้กับทหารที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม
รศ. ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผย ในยุคสมัยแห่งการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด การพัฒนาบุคคลไม่เพียงจำกัดอยู่แต่ในด้านวิชาการความรู้ แต่การปลูกฝังค่านิยมในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เท่าทันกับปัจจุบันที่มีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ที่สามารถเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนในสังคมได้ตลอดเวลา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ถือว่าเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศที่ช่วยพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพ นอกจากนั้น ยังเปิดกว้างเรื่องการพัฒนา ที่ไม่จำกัดอยู่เพียงภายในสถาบันการศึกษา แต่เล็งเห็นถึงการขับเคลื่อนนวัตกรรมสู่สังคมให้เกิดผลขึ้นจริง โดยนวัตกรรมถูกใช้และเป็นประโยชน์ต่อคนไทยอย่างแท้จริง ทั้งนี้มีการจัดตั้ง บริษัท Spin-off ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โดยมีบทบาทในการสนับสนุนบุคลากรภายในให้สามารถนำความรู้ความสามารถที่มีต่อยอดต่อไปสู่สังคม ในปัจจุบันมีบริษัทที่อยู่ภายใต้ CU Engineering Enterprise มากมาย และมีผลงานที่ออกสู่ท้องตลาดเพื่อยกระดับการใช้ชีวิต และแก้ปัญหาให้แก่สังคมไทย และสังคมโลกอย่างมากมาย อาทิ Meticuly (เมติคูลี่) ผู้ผลิตกระดูกเทียมไทเทเนียมที่สามารถใช้ทดแทนกระดูกที่เสียหายได้อย่างดี และ MUTHA (มุทา) ผู้ผลิตเท้าเทียม Dynamic sPace ที่ช่วยสนับสนุนผู้พิการที่เสียเท้าให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เกือบปกติ
ด้าน คุณศุภชัย ชุติกุศล ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร CU Engineering Enterprise กล่าวว่า "การเดินทางของวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กว่า 112 ปี เราคอยเป็นแรงผลักดันในการพัฒนาประเทศและสังคมไทยมาโดยตลอด ผ่านการบ่มเพาะบุคลากรที่มีคุณภาพผ่านระบบการศึกษาที่เข้มข้นและมีคุณภาพเสมอมา ด้วยพระราชดำริของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อพ.ศ. 2556 ที่มีพระราชประสงค์ให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย "นำงานวิจัยจากหิ้งไปสู่ห้าง" จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงตอบสนองพระประสงค์ด้วยการจัดตั้ง CU Enterprise เพื่อทำหน้าที่เป็นบริษัทเพื่อการต่อยอดจากงานวิจัยสู่ผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้จริง ทางด้านคณะวิศวกรรมศาสตร์เองก็ได้มีการจัดตั้ง CU Engineering Enterprise ขึ้นในทำนองเดียวกัน เพื่อการต่อยอดงานวิจัยและนวัตกรรมให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยเหลือ และแก้ปัญหาของสังคม สอดคล้องกับปณิธานของคณะ ฯ ที่ต้องการสร้างค่านิยมในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองตลอดชีวิต (Lifelong Learning) และเป็นพื้นที่บ่มเพาะ "นวัตกร" ให้สามารถเติบโตได้อย่างมีคุณค่า พร้อมช่วยเหลือพัฒนาสังคมไทยอย่างยั่งยืน"
Meticuly ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ. 2560 โดย ผศ. ดร.เชษฐา พันธ์เครือบุตร และ รศ. ดร.บุญรัตน์ โล่ห์วงศ์วัฒน คณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากภาควิชาวิศวกรรมโลหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คิดค้นการผลิตกระดูเทียมไทเทเนียม ที่ต่อยอดมาจากผลงานวิจัย ที่มีเป้าหมายในการยกระดับความรู้และความเชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรมให้สามารถแก้ปัญหาทางการแพทย์ที่ไม่สามารถใช้กระดูกเทียมแบบมาตรฐานในการช่วยเหลือผู้ป่วยได้ในทุกกรณี
ผศ. ดร.เชษฐา พันธ์เครือบุตร กล่าวว่า “จุดเริ่มต้นของเมติคูลี่เป็นการผสมผสานศาสตร์ของวิศวกรรมในการช่วยแก้ปัญหาให้กับทางการแพทย์ โดยใช้เทคโนโลยีการพิมพ์โลหะ 3 มิติ (Metal 3D Printing) ในการออกแบบและผลิตกระดูกเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคล (Patient-specific implant) เพราะผู้ป่วยแต่ละเคสมีสรีระร่างกายที่แตกต่างกัน เทคโนโลยีนี้ช่วยให้สามารถพัฒนากระบวนการรักษาจากแบบ "การปรับผู้ป่วยให้เข้ากับกระดูกเทียม" ไปสู่ "การสร้างกระดูกเทียมเฉพาะบุคคลที่พอดีกับผู้ป่วยแต่ละราย" โดยใช้ข้อมูลการสแกนภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) ของผู้ป่วยเป็นข้อมูลในการออกแบบ”
ทั้งนี้ Meticuly มีการผลิตกระดูกเทียมไทเทเนียมและมีผู้ใช้งานแล้วกว่า 2,400 เคส ทั้งไทยและต่างประเทศ และมุ่งเป้าในการพัฒนาเทคโนโลยีด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ให้เข้ามามีบทบาทในทุกขั้นตอนของกระบวนการทำงานอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการออกแบบและผลิตชิ้นส่วนกระดูกเทียมเฉพาะบุคคล เทคโนโลยี AI จะช่วยลดเวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลภาพ CT Scan ของผู้ป่วย และสร้างแบบจำลองที่มีความซับซ้อนได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายงานการวิจัยและผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับความต้องการทางด้านการแพทย์ในสาขาอื่น ๆ เช่น ทันตกรรม, ศัลยกรรมช่องปาก, และศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า ในอนาคตต่อไป และยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจและเจาะตลาดในต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ โดยมุ่งเน้นในตลาดที่มีศักยภาพสูงอย่างสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป และสิงคโปร์
ด้าน MUTHA นวัตกรรมขาเทียมเพื่อผู้พิการ ที่มีการผลิตเท้าเทียมไดนามิก ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ. 2563 โดย รศ. ดร.ไพรัช ตั้งพรประเสริฐ และ รศ. ดร.ชัญญาพันธ์ วิรุฬห์ศรี คณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีประวัติการศึกษาจากประเทศญี่ปุ่นซึ่งทำงานในห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยทางด้านการแพทย์ เช่น หุ่นยนต์ผ่าตัด การออกแบบและการผลิตหัวสะโพกเทียม เป็นต้น เมื่อกลับมาประเทศไทยจึงนำองค์ความรู้ที่เชี่ยวชาญมาต่อยอด จากการศึกษาพบว่าประเทศไทยยังมีความต้องการเรื่องอวัยวะเทียมที่สามารถชดเชยให้ผู้พิการได้กลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด ในราคาที่จับต้องได้ จึงเป็นที่มาของ MUTHA
รศ. ดร.ไพรัช ตั้งพรประเสริฐ กล่าวว่า “ผมเชื่อมั่นว่านวัตกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นมาจะสามารถช่วยฟื้นฟูสังคมได้ ไม่ใช่แค่เพียงแก้ปัญหาให้สังคม แต่ยังช่วยฟื้นฟูจิตใจ ให้ความหวัง และเป็นพลังให้กับผู้คนได้อีกมากมาย ดังนั้น MUTHA คือความภูมิใจของเราชาววิศวฯ จุฬาฯ ที่ได้ใช้ความรู้ความสามารถในการสร้างความหวังให้กับผู้คนได้ โดยเริ่มจาก เท้าเทียม Dynamic sPace ที่ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้พิการเท้าได้กลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติแล้ว แต่ยังเป็นการมอบกำลังใจให้เขาเหล่านั้นมีพลังที่จะเดินต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน”
MUTHA ได้รับการสนับสนุนจากการประกวดผลงานประดิษฐ์คิดค้น ซึ่งจัดขึ้นในปีพ.ศ.2566 โดย สำนักงานวิจัยแห่งชาติ (วช.) ซึ่งมองเห็นศักยภาพของผลิตภัณฑ์ จึงมอบงบประมาณในการพัฒนาเพื่อนำไปแจกแก่ผู้พิการทั่วประเทศกว่า 40 โรงพยาบาล และได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี จึงสนับสนุนต่อเนื่องในปีพ.ศ. 2567 เป็นปีที่สอง รวมกว่า 600 ขา นอกจากนี้ MUTHA มีโอกาสในการร่วมโครงการเฉลิมพระเกียรติ “ก้าวใหม่ด้วยวิจัยและนวัตกรรม” เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก มอบเท้าเทียม Dynamic sPace แก่โรงพยาบาล 9 แห่ง จำนวน 67 ขา อีกทั้งยังได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือทหารผ่านศึกที่สูญเสียขาในการปฏิบัติหน้าที่ และประชาชาชนผู้พิการ ทำให้ MUTHA ได้ช่วยเหลือผู้พิการเท้ามาแล้วกว่า 700 ขา ทั่วประเทศ
คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีความเชื่อมั่นในการสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น CU Engineering Enterprise, หลักสูตร Lifelong Learning ที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเรียนรู้ทักษะ Soft Skill ที่จำเป็นและทันต่อบริบทสังคมปัจจุบัน, การสนับสนุนนิสิตในการเปิดกว้างการเรียนรู้ข้ามสาขา ร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อยกระดับการศึกษา เพราะ คณะฯ เชื่อว่าการพัฒนาบุคคล (People) คือการสร้าง “นวัตกร” ที่ยั่งยืน สร้างหลักสูตรให้ตรงใจ ตรงไทย ตรงโลก ที่ช่วยยกระดับนวัตกรรมสำหรับสังคมไทยและสังคมโลก