EDU Research & Innovation
มจธ.จัดงานใหญ่KMUTT ACTS 2025 สร้างแนวคิดผปก.และยั่งยืนให้นักศึกษา

กรุงเทพฯ-จากภูมิปัญญา 65 ปี สู่วิถีความยั่งยืน มจธ. จัดงาน KMUTT ACTS 2025 เพื่อเสริมสร้างแนวคิดความเป็นผู้ประกอบการและความยั่งยืนให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)
เมื่อเร็วๆ นี้ ณ อาคารการเรียนรู้พหุวิทยาการ (Learning Exchange : LX) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) รศ. ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี มจธ.เป็นประธานเปิดงาน KMUTT ACTS 2025 ภายใต้แนวคิด “Crafting Sustainable Futures คิด สร้างสรรค์ ลงมือทำจริง สู้จนสำเร็จ สร้างผลกระทบที่มีความหมาย” ร่วมจัดโดยงานส่งเสริมนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ (KMUTT Entrepreneurship – Hatch) และสำนักงานกิจการนักศึกษา เพื่อเสริมสร้างแนวคิดความเป็นผู้ประกอบการและความยั่งยืนให้กับนักศึกษา โดยมี ผศ.ดร.ทัศนีย์วรรณ ลักษณะโสภิณ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและความเป็นผู้ประกอบการ กล่าวต้อนรับผู้ร่วมงาน
อธิการบดี มจธ. กล่าวว่า “จากภูมิปัญญา 65 ปี สู่วิถีความยั่งยืน ในโอกาสที่ มจธ. ครบรอบ 65 ปี มหาวิทยาลัยได้มีการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ที่ 13 ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนานักศึกษาและบุคลากรมหาวิทยาลัยให้ก้าวสู่ Sustainable Entrepreneurial University ดังนั้น มจธ.จึงไม่ได้เป็นเพียงสถาบันที่ผลิตบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศทางด้านเทคโนโลยี แต่ยังเป็นมหาวิยาลัยผู้สร้างผู้นําการเปลี่ยนแปลง (Change agent) รุ่นใหม่ ที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความยั่งยืนผ่านการสร้างนวัตกรรมที่คำนึงถึงความสมดุลทั้งในมิติของสังคม สิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ แต่การสร้าง Sustainable Entrepreneurial University ไม่ได้เพียงแค่เกิดจากการเรียนการสอนในห้องเรียนเท่านั้น แต่ต้องอาศัยการสร้างประสบการณ์จริง การเชื่อมต่อกับภาคอุตสาหกรรม และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่ง
กิจกรรมที่จัดขึ้น เปรียบเสมือนการปล่อยของ ที่นักศึกษาและบุคลากรมหาวิทยาลัยได้มานำเสนอผลงานนวัตกรรม แนวคิดไอเดียธุรกิจ (Business Idea), ผลงาน Startup / Spin-off และผลงานทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งสะท้อนความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาและสร้างการเปลี่ยนแปลงจากองค์ความรู้ อีกทั้งเป็นเวทีในการฝึกและพัฒนาการเป็นผู้ประกอบการ กิจกรรมนี้ยังเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการนำภูมิปัญญาและศักยภาพของ มจธ. มาต่อยอดสู่วิถีแห่งความยั่งยืน ผ่านการปลูกฝังจิตสำนึกเสมือนเป็นผู้ประกอบการที่มุ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม
“ในอดีตการพัฒนาทักษะเราเน้นเพียงแค่ “คิดเป็น ทำได้” แต่ปัจจุบันเราจะต้อง “รู้จริง ทำได้ และขายเป็น” ที่นอกจากจะรู้ลึกในเชิงทฤษฎีและลงมือทำจริงแล้ว จะต้องเข้าใจตลาด สามารถเอาผลิตภัณฑ์ไปขายได้ Entrepreneurial Mindset เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการอยู่รอดในโลกอนาคตที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และผู้ที่มีแนวคิดนี้จะต้องคำนึงถึง "ความคุ้มค่าเสมอ" ไม่ว่าจะเป็นความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ สังคม หรือมิติอื่นๆ ในการคิดและทำงาน ซึ่งนักศึกษาจะได้ประโยชน์ ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์การเป็นผู้ประกอบการได้ในอนาคต และเชื่อมั่นว่า กิจกรรมวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะขับเคลื่อนให้ มจธ.ก้าวไปสู่ Sustainable Entrepreneurial University อย่างแท้จริง และเป็นการสร้างเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งเพื่อการพัฒนาประเทศในอนาคต”
ภายในงานประกอบไปด้วย การเสวนา Talk : จากห้องแล็บสู่ตลาดจริง มุมมองโอกาส โดย รศ. ดร.รพิชญ์ พรหมอุปถัมภ์ CTO บริษัท ออสซีโอแล็บส์ จำกัด, Talk: The Startup Journey บทเรียนจากศิษย์เก่าสู่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ โดย คุณนารีรัตน์ แซ่เตียว CEO & Co-Founder บริษัท อินไซต์เอรา จำกัด และคุณณัฐนภัส รชตะวิวรรธน์ CEO & Co-Founder บริษัท เบลนเดต้า จำกัด, Talk: From Ideas to Actions ผลงานโครงการ Innovation for KMUTT Sustainability โดย คุณพิพัฒนพงศ์ ชูช่วย กับ ถูกถัง : Behavior Shift for Sustainable Impact และคุณดิษกร รัสมี กับ การปรับปรุงระบบการกำจัดขยะตั้งแต่ต้นทาง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมหลากหลายที่ส่งเสริมให้มีแนวคิดความเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurial Mindset) และให้ความสำคัญกับเรื่องของความยั่งยืน (Sustainability) จากภาคส่วนต่างๆ ของ มจธ. และหน่วยงานพันธมิตรภาคเอกชน
รศ. ดร.พชรพิชญ์ พรหมอุปถัมภ์ CTO ออสซีโอแล็บส์ บริษัท spin-off มจธ. กล่าวถึงมุมมองโอกาสจากห้องแล็บสู่ตลาดจริงว่า การเปลี่ยนจากงานวิจัยเทคโนโลยีให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างผลกระทบในตลาดได้จริงนั้น จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนมุมมองและกระบวนการพัฒนา เริ่มด้วยการออกจากห้องแล็บไปหากลุ่มผู้ที่น่าจะใช้งานเทคโนโลยีของเรา (User) โดยพิจารณาทุกอุตสาหกรรมไม่ใช่แค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะผู้ใช้งานคือผู้ที่สามารถบอกได้ว่าสิ่งที่เราทำขึ้นมานั้นเป็นของที่เขาต้องการและยอมที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อหรือไม่
“การเข้าไปพูดคุยกับผู้ใช้งานอย่างใกล้ชิดจะทำให้เทคโนโลยีกลายเป็นสิ่งที่แก้ไขปัญหาให้พวกเขาได้จริง "Pain Killer" และการตลาดแบบบอกต่อ (Organic Marketing) โดยเฉพาะกับผู้ใช้เทคโนโลยีของเรากลุ่มแรกสำคัญมาก ดังนั้นนอกจากคำว่า “Product-Market fit”แล้ว นักพัฒนายังต้องเข้าใจแนวคิด "Technology-Product-Market Fit" ซึ่งหมายถึงการมองหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตลาด นี่คือสามเหลี่ยมที่นักพัฒนานวัตกรรมควรทำความเข้าใจ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ว่าเทคโนโลยีของเราเจ๋ง ได้ตีพิมพ์ในวารสารระดับดี แต่ผู้ใช้งานกลับไม่ตื่นเต้นด้วย เพราะเป้าหมายที่แท้จริงคือ การนำงานวิจัยออกไปสร้าง Impact การขายผลิตภัณฑ์จะเกิดขึ้นเอง หากสิ่งที่เราทำสร้างผลกระทบได้จริง”
นอกจากนี้ภายในงานยังมีการนำเสนอผลงานวัตกรรม (Innovation Pitching) 11 ผลงาน และการนำเสนอไอเดียธุรกิจ (Business Idea Pitching) 5 ผลงาน โดยมีผลงานที่ได้รับรางวัล ดังนี้ รางวัลนวัตกรรมโดดเด่น (Promising Innovation Award) : ทีม DoFarm - เว็บแอปพลิเคชันระบบจัดการฟาร์มสัตว์น้ำ (มุ่งเน้นกุ้ง) แบบดิจิทัล, รางวัลนวัตกรรมเพื่อสังคมยั่งยืน (Sustainable Impact Innovation Award) : ทีม WasteHub – แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ช่วยเชื่อมโยงและจัดการขยะอุตสาหกรรมแบบครบวงจร, รางวัลธุรกิจที่มีศักยภาพเพื่อการเติบโต (Scale-up Ready Award) : ทีม Aquasense - ระบบตรวจสอบคุณภาพน้ำในฟาร์มปลาแบบอัตโนมัติ โดยใช้เซนเซอร์ IoT และพลังงานแสงอาทิตย์, รางวัลขวัญใจนักลงทุน (Investor's Choice Award) : ทีม Open-Microchannel Heat Sink - การออกแบบโครงสร้างภายในแบตเตอรี่ เพื่อช่วยระบายความร้อนได้รวดเร็ว และรางวัลขวัญใจศิษย์เก่า (Alumni's Choice Award) : ทีม ViaBoon - แพลตฟอร์มที่เป็นตัวกลางในการให้ข้อมูลที่ชัดเจน และโปร่งใสของหน่วยงานรับบริจาคแก่ผู้ที่ต้องการบริจาค โดยทีมที่ได้รับรางวัลจะได้รับโล่ และโอกาสในการเข้าร่วมโครงการบ่มเพาะธุรกิจของมหาวิทยาลัย ได้รับคำปรึกษาด้านทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงมีโอกาสพบปะสร้างเครือข่ายกับนักลงทุน และได้รับการสนับสนุนต่อยอดผลงานร่วมกับพันธมิตรธุรกิจ.