Think In Truth

เกมเงินและอิสรภาพที่สูญหาย: มนุษย์กับ ระบบการเงินโลก  โดย: ฟอนต์ สีดำ



เงิน: ไม่เคยมีอยู่จริง แต่คุณกลับใช้ชีวิตเพื่อมัน

ตั้งแต่เด็กจนโต คนจำนวนมากถูกสอนให้ “ทำงานเพื่อเงิน” แต่แท้จริงแล้วเงินในโลกสมัยใหม่ไม่ใช่วัตถุที่จับต้องได้ แต่เป็น ตัวเลขและความเชื่อร่วม ที่ถูกสร้างขึ้นและควบคุมโดยธนาคารกลาง รัฐบาล และสถาบันการเงิน

ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าเงินเริ่มต้นจาก สิ่งมีค่าแท้จริง เช่น ทองคำ เงินโลหะ และธัญพืช (Davies, 2002) แต่เมื่อโลกเข้าสู่ยุค Fiat Money — เงินที่ไม่มีมูลค่าในตัวเอง — มูลค่าเงินเกิดจากความเชื่อร่วมระหว่างประชาชนและสถาบันที่บังคับให้เชื่อ

ดังนั้นตลอดชีวิตที่คุณวิ่งไล่ตามเงิน คุณไม่ได้ไล่ตามสิ่งที่เป็นของคุณ แต่ไล่ตาม เครื่องจักรของระบบการเงินโลก ที่ถูกตั้งค่าไว้เพื่อคงสถานะและอำนาจของผู้สร้างระบบ

หนี้: กับดักที่ออกแบบมาให้คุณไม่มีวันหลุด

หนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดของระบบการเงินโลกคือ หนี้ (Roubini & Mihm, 2010) ซึ่งไม่ได้เป็นแค่ข้อตกลงทางการเงิน แต่เป็น เครื่องมือควบคุมแรงงานและประชาชน

  • ผู้คนถูกมัดด้วยหนี้บ้าน รถ บัตรเครดิต หรือเงินกู้เพื่อการศึกษา
  • หนี้สร้างพันธะทางเวลา-คุณต้องแลกชีวิตของคุณกับตัวเลข
  • ระบบออกแบบมาให้คุณเชื่อว่าเป็นความผิดพลาดส่วนตัว ทั้งที่จริง ๆ หนี้ถูกสร้างมาเป็นเครื่องมือควบคุมพลังงานทางเศรษฐกิจ

ตัวอย่างที่เห็นชัดคือ วิกฤติการเงิน 2008-ผู้คนหลายล้านทำงานหนักเพื่อจ่ายหนี้ที่ถูกสร้างขึ้นจากการซื้อขายสินทรัพย์ที่เกินจริง แต่ธนาคารและนักลงทุนที่อยู่เบื้องหลังกลับได้รับการช่วยเหลือโดยรัฐ (Roubini & Mihm, 2010)

ธนาคารไม่เคยมีเงิน แล้วคุณกู้มาจากใคร?

ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าเงินกู้ที่ได้มาจากธนาคารคือ เงินที่ธนาคารมีอยู่แล้ว แต่ในความเป็นจริง เงินกู้ถูกสร้างขึ้นเมื่อคุณกู้ (Moore, 2017)

  • เมื่อคุณกู้ธนาคาร ระบบบัญชีจะสร้างตัวเลขขึ้นในบัญชีคุณทันที
  • ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมที่คุณจ่าย → กลายเป็นรายได้ของธนาคารโดยตรง
  • คุณคือผู้สร้างเงินผ่านการยอมรับหนี้และทำงานเพื่อชำระมัน

นี่คือความจริงที่ทำให้มนุษย์ส่วนใหญ่ทำงานหนักตลอดชีวิต แต่ ไม่เคยเป็นเจ้าของเงินเต็มที่

ระบบการศึกษา: สร้างแรงงาน ไม่ใช่เสรีชน

ระบบการศึกษาไม่ได้ออกแบบมาเพื่อสร้าง ผู้มีเสรีภาพทางปัญญา แต่เพื่อผลิต แรงงานที่ยอมรับหนี้ (Illich, 1971) เด็กถูกสอนให้เชื่อฟังกฎเกณฑ์มากกว่าการตั้งคำถาม จึงทำให้ความคิดเรื่องเงินถูกฝังเป็นข้อจำกัด ไม่ใช่เครื่องมือ ส่งผลต่อผลลัพธ์: ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่เข้าสู่โลกแรงงานพร้อมความเชื่อว่าเงินหายากและต้องทำงานหนักเพื่อความอยู่รอด  นี่คือ การปลูกฝังจิตใต้สำนึกทางการเงิน ที่ทำให้ประชาชนติดกับดักโดยไม่รู้ตัว

เงิน = พลังงานจิตที่ถูกขังในระบบตัวเลข

เงินไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็น พลังงานจิตที่สะท้อนความเชื่อ ความกลัว และความปรารถนาของมนุษย์ (Lipton, 2005)

  • ความเชื่อเดิม เช่น “เงินหายาก” หรือ “คนรวยไม่ดี” → ทำให้เงินไม่ไหลเข้าสู่ชีวิตคุณ
  • การปรับเปลี่ยนความเชื่อ → ปลดล็อกความอุดมสมบูรณ์ในจิตใต้สำนึก
  • ผลลัพธ์: เงินจะเริ่มไหลเข้ามาโดยไม่ต้องไล่ตาม

ตัวอย่างจากสังคมที่นำแนวคิดนี้ไปใช้ เช่น ชุมชนเศรษฐกิจพอเพียงในประเทศไทย และ ชุมชนที่ใช้สกุลเงินทางเลือก (Local Currencies, LETS) แสดงให้เห็นว่า การปรับเปลี่ยนวิธีคิดและความเชื่อ ส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของชุมชน

ใครบ้างที่ไม่ต้องจ่ายหนี้

กลุ่มที่ไม่ต้องจ่ายหนี้โดยตรงมักเป็นผู้สร้างระบบ ธนาคารและสถาบันการเงิน เป็นผู้ที่ไม่ต้องใช้หนี้ ถึงแม้จะดูเสมือนรับเงินฝากเข้ามาสู่ธนาคาร นั่นหมายถึง เมื่อมีคนเอาเงินไปฝากธนาคาร ผู้ฝากจะได้ตัวเลขไปใช้จ่าย ส่วนธนาคารจะได้เงินไปหมุนเวียนในระบบต่อ เมื่อคนกู ธนาคารก็จ่ายตัวเลขไปให้ผู้กู้ เพี่อให้ผู้กู้มาใช้เงินสดในการหมุนเวียนในระบบในรอบต่อไป หากจะพิจารณาเพียงแค่รอบเดียว จะมีเงินจริงๆ เพียงเงินของผู้ฝาก แต่จะมีเงินในระบบเกิดขึ้นถึงสามเท่า ผู้ที่ไม่ต้องจ่ายหนี้อีกกลุ่มหนึ่งคือรัฐบาลมหาอำนาจ เพราะสามารถพิมพ์เงินออกมาตามใจเอการใช้จ่ายแบบไม่จำกัด และกลุ่มผู้ถือครองสินทรัพย์แท้ เช่น ทองคำ ที่ดิน พลังงาน

ประชาชนส่วนใหญ่ทำงานเพื่อชำระดอกเบี้ยและหนี้ ในขณะที่กลุ่มเหล่านี้ ควบคุมโลกผ่านเครื่องพิมพ์ตัวเลขและนโยบายการเงิน (Piketty, 2014)

คุณไม่ได้ทำงานเพื่อเงิน แต่เพื่อเสถียรภาพของระบบ

ทุกนาทีที่คุณทำงาน คือการเลี้ยงระบบหนี้และอำนาจทางการเงินโลก เวลาของคุณคือสกุลเงินแท้ที่ถูกแลกกับเงินตัวเลข ยิ่งคุณให้ความสำคัญกับเงินมาก คุณค่าที่เกิดจากเวลาที่คุณทุ่มเทความรู้ ความสามารถ แรงงานและเงินทุนเพื่อการลงทุนทำงานของคุณ จะลดคุณค่าลงแต่เงินในระบบกับดักหนี้สินจะเข้ามาแทนที่ความสำคัญนั้นแทน คุณไม่สามารถครอบครองชีวิตเต็มที่ เพราะถูกพันธะด้วยหนี้  คนส่วนใหญ่เชื่อว่าทำงานเพื่อเงิน แต่จริง ๆ คือ การทำงานเพียงเพื่อรักษาเครื่องจักรการเงินให้เดินต่อไป

ปลดล็อกเงินในจิตใต้สำนึก: แก้เกมจากภายใน

การเปลี่ยนชีวิตการเงินเริ่มจาก จิตใต้สำนึกด้วยการสังเกตความเชื่อเกี่ยวกับเงิน เรียนรู้ถึงจุดประสงค์ของแผนการทางการเงินที่ถูกวางระบบกับดักหนี้สิน แล้วเปลี่ยนความสัมพันธ์กับเงินที่มองเงินเป็นเครื่องมือในการผลิต ไม่ใช่มองเงินเป็นเครื่องมือวัดสถานะความมั่งคั่ง สร้างสนามพลังอุดมสมบูรณ์ด้วยการฝึกสมาธิ , Visualisation, Affirmations ให้ตระหนักอยู่เสมอว่า “เงินไม่ใช่แก้วสารพัดนึก” ปรับชีวิตให้ลงทุนเวลาในการสร้างคุณค่าแทนการไล่ตามเงิน

จะพังระบบนี้ได้ ต้องเริ่มจากตัวคุณ

การเปลี่ยนโลกไม่ต้องประท้วงเสียงดัง เพียงแต่อาศัยพลังเงียบของคนที่กล้า กล้าที่จะปลดปล่อยตัวเองไม่ยอมเป็นทาสของเงินจนหลงเข้าไปอยู่ในกับดักแห่งหนี้สิน ไม่เล่นเกมเดิม เกมที่คุณไม่ได้รับรู้ถึงกติกา หรือไม่เข้าใจแม้แต่เงื่อนไขของการวางระบบแห่งการกดขี่ทาสที่เกิดจากกับดักหนี้สิน คือกลไกที่มีผลสะเทือนสูง เลิกเป็นผู้ป้อนพลังงานให้ระบบ นั่นคือการปฏิเสธต่อความเป็นผู้หลงเข้าสู่กับดักหนี้สิน ที่ต้องใช้เงินและเวลาของตัวเองอย่างตระหนักต่อความไม่ประมาทที่จะตกไปอยู่ในกับดักนั้น ด้วยพลังในสร้างโครงสร้างทางเลือก เช่น ชุมชน, สกุลเงินทางเลือก, การลงทุนในคุณค่าแท้จริง

บทสรุป

ระบบการเงินโลกถูกสร้างขึ้นจาก ความเชื่อและหนี้สินที่ทำให้คุณทำงานเพื่อเงินที่ไม่ใช่ของคุณ ที่ต้องทุ่มเททำงานด้วยแรงงาน กำลังกาย สติปัญญา และทุนทรัพย์ที่ต้องลงทุนเพื่อการทำงาน ที่ต้องแสดงความเป็นทาสในการชดใช้ระบบหนี้สินที่ถูกสร้างขึ้นให้คุณตกอยู่ในกับดักโดยที่คุณจะหลุดจากกับดักนั้นได้อยาก หรือแทบจะไม่มีโอกาสหลุดพ้น ซึ่งถูกสร้างระบบมาจากกลุ่มผู้มีอำนาจสร้างเงินจากอากาศและเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากความเป็นหนี้ของทาสที่อยู่ในแผนการชำระหนี้ในกับดักนั้น เราจะหลุดพ้นจากกับดักความเป็นทาสของหนี้สินนั้นได้  การเปลี่ยนชีวิตทางการเงินต้องเริ่มจาก จิตใต้สำนึกที่เห็นความสำคัญต่อตนเองที่ต้องมีอิสระทางการเงิน และความเชื่อที่มีต่อความสามารถของตนที่กล้าพอที่จะไม่เล่นเกมเดิมและสร้างสนามพลังของตัวเอง = พลังเงียบที่จะเปลี่ยนโลก

แหล่งอ้างอิง (APA)

Davies, G. (2002). A history of money: From ancient times to the present day. University of Wales Press.

Graeber, D. (2011). Debt: The first 5,000 years. Melville House.

Illich, I. (1971). Deschooling society. Harper & Row.

Lipton, B. H. (2005). The biology of belief: Unleashing the power of consciousness, matter & miracles. Hay House.

Moore, B. J. (2017). Endogenous money creation: Bank lending, debt, and the role of central banks. Journal of Economic Perspectives, 31(3), 123–144.

Piketty, T. (2014). Capital in the twenty-first century. Harvard University Press.

Roubini, N., & Mihm, S. (2010). Crisis economics: A crash course in the future of finance. Penguin Press.