Biz news
NERจับมือกยท.ลงนามเอ็มโอยูบริหาร ยางพารา2แสนตันต่อปียกระดับเกษตรกร

กรุงเทพฯ-บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ NER ร่วมกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.)ลงนามบันทึกความเข้าใจ(MOU)ข้อตกลงร่วมมือด้านการบริหารจัดการผลผลิตยางพาราเพื่อสร้างความสมดุลในการจัดการผลผลิตยางพารา ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศต่อยอดสู่การสร้างเสถียรภาพราคายางและรองรับผลผลิตอย่างเหมาะสมเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจและรายได้ที่มั่นคงให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางโดยมีเป้าหมายรวบรวมผลผลิตยางพาราจำนวน200,000 ตันต่อปี สัญญามีผลบังคับใช้ 5ปี และพิจารณาระยะเวลาต่อได้
นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NERผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่าย ยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง ยางผสม และสินค้าปลายน้ำแผ่นยางพาราปูพื้นคุณภาพสูง เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในประเทศและต่างประเทศเปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU)กับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เพื่อความร่วมมือด้านการบริหารจัดการผลผลิตยางพาราโดยมีนายเพิก เลิศวังพงรักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทยร่วมลงนามเพื่อร่วมกันสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและรายได้ที่มั่นคงให้เกษตรกรไทยในระยะยาว พร้อมสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราอย่างยั่งยืน ณ การยางแห่งประเทศไทย (สำนักงานใหญ่) กรุงเทพมหานคร
สำหรับวัตถุประสงค์ของความร่วมมือครั้งนี้ คือ การบริหารจัดการผลผลิตยางพาราให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด พร้อมส่งเสริมการรวมตัวของเกษตรกร สถาบันเกษตรกร การยางแห่งประเทศไทย และผู้ประกอบการ เพื่อใช้เป็นกลไกในการบริหารจัดการผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ความร่วมมือต้องอยู่บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดี โดยมุ่งสร้างเครือข่ายเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทั้งสองฝ่าย รวมไปถึงเกษตรกรชาวสวนยางผู้มีส่วนได้เสียในอุตสาหกรรมยางสังคมและประเทศชาติโดยการดำเนินงานทั้งหมดอยู่ภายใต้กรอบของพระราชบัญญัติ กฎ ระเบียบ และนโยบายที่เกี่ยวข้อง โดยทั้งสองฝ่ายมีเจตนาร่วมกันในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรค เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามข้อตกลงอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ทั้งนี้ในส่วนของความรับผิดชอบต่อความร่วมมือในครั้งนี้ของบริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ NER เช่นส่งเสริมและรวบรวมผลผลิตยางพารา ที่จัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศสนับสนุนให้เกษตรกรชาวสวนยางและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางและผู้ประกอบกิจการยางมีแหล่งรองรับผลผลิตยางพาราที่เป็นธรรมตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐานที่เป็นธรรม และได้รับการยอมรับ รวมถึงปฏิบัติตามกฎระเบียบของการยางแห่งประเทศไทย
“ขณะที่ในส่วนการยางแห่งประเทศไทยเองจะมีหน้าที่และรับผิดชอบคือ ต้องรวบรวมผลผลิตยางพาราอย่างน้อย จำนวน 200,000ตันต่อปี จากตลาดกลางยางพาราจังหวัดและตลาดเครือข่ายของตลาดกลางยางพาราจังหวัดของการยางแห่งประเทศไทยตรวจสอบแหล่งผลิต ประเมินความเสี่ยง ตามมาตรการ EUDR(ถ้ามี) และออกเอกสารข้อมูลการซื้อขายยาง ให้แก่ผู้ซื้ออย่างครบถ้วน หรือมาตรฐานอื่นมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับคุณสมบัติยางผู้อำนวยการสำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดจะเป็นผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท หากเกิดกรณีพิพาทการลงนามทำบันทึกความเข้าใจ (MOU)ในครั้งนี้ เพื่อความร่วมมือทางด้านการบริหารจัดการผลผลิตยางพาราจะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 5ปีนับถัดจากวันที่ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามร่วมกัน เมื่อครบกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ทั้งสองฝ่ายอาจตกลงกันเพื่อขยายระยะเวลาต่อไป” นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ กล่าวในท้ายสุด