Biz news

SCGJWDชูศักยภาพโลจิสติกส์ครบวงจร ในLogiMAT&LogiFOOD Southeast Asia2025



กรุงเทพฯ- SCGJWD ตอกย้ำผู้นำโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระดับภูมิภาค ชู 3 ไฮไลต์นวัตกรรม “Climate Action – AI Transformation – Logistics Academy” ยกระดับการบริหารจัดการ พร้อมร่วมเวทีเสวนา Thailand Cold Chain: Empowering ASEAN’s Next Growth Potential เจาะลึกโซลูชัน End-to-End ในงาน LogiMAT & LogiFOOD Southeast Asia 2025 วันที่ 15-17 ตุลาคมนี้ ที่ไบเทค กรุงเทพฯ งานใหญ่แห่งปี! ที่ถูกยกให้เป็น      คอมมูนิตี้โลจิสติกส์แห่งอนาคต ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านและพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน

นายณัฐภูมิ เปาวรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการค้า พัฒนาธุรกิจ และการลงทุน บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGJWD และนายกสมาคมธุรกิจคลังสินค้าไซโลและห้องเย็น เปิดเผยว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมโลจิสติกส์กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ยุคโลจิสติกส์อัจฉริยะ (Smart Logistics) อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในทุกขั้นตอนของการดำเนินงาน ตั้งแต่การใช้ระบบ IoT เพื่อติดตามสถานะสินค้าแบบเรียลไทม์และควบคุมอุณหภูมิระหว่างการขนส่ง ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย Big Data และ AI เพื่อการวางแผนและคาดการณ์ความต้องการอย่างแม่นยำ ตลอดจนการนำระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และลดข้อผิดพลาดในการปฏิบัติงาน

SCGJWD ในฐานะผู้นำด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระดับภูมิภาค ได้เดินหน้าพัฒนาโซลูชันและบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการที่ซับซ้อนและหลากหลายของลูกค้าในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ สินค้ารีเทล รวมถึงสินค้าที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain) ด้วยบริการโลจิสติกส์ครบวงจรที่เชื่อมโยงทุกขั้นตอนแบบไร้รอยต่อ ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง (End-to-End) พร้อมเครือข่ายครอบคลุม 9 ประเทศในอาเซียนและจีนตอนใต้ โดยอาศัยโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งและเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง AI และระบบอัตโนมัติ     ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้แม่นยำ รวดเร็ว ปลอดภัย และคุ้มค่า ตอบโจทย์ธุรกิจยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายณัฐภูมิ กล่าวว่า ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ต้องติดตามและอัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาบริหารจัดการซัพพลายเชนและโลจิสติกส์จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งงาน LogiMAT & LogiFOOD Southeast Asia 2025 ถือเป็นงานมหกรรมระดับภูมิภาคที่รวบรวมเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนไว้ด้วยกัน โดย SCGJWD ได้เข้าร่วมออกบูธจัดแสดงโซลูชันและนวัตกรรม 3 ไฮไลต์ ได้แก่

  • Climate Action Roadmap – แสดงเจตนารมณ์สู่เป้าหมาย Net Zero ปี 2050 พร้อมแนวทางและกิจกรรมที่ขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
  • AI Transformation – โชว์เคสการยกระดับการดำเนินงานด้วยเทคโนโลยีและ AI ทั้งในระบบหลังบ้าน เช่น การจัดการเอกสารอัตโนมัติ และการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า พร้อมต่อยอดสู่การเพิ่มประสิทธิภาพในอนาคต
  • Logistics Academy by SCGJWD – การจำลองนวัตกรรมฝึกอบรมผ่านเครื่อง Driving Simulator มุมมอง 180 องศา ยกระดับความรู้ ความสามารถ และมาตรฐานแรงงานในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์

นอกจากนี้ ผู้บริหารและทีมงาน SCGJWD ยังร่วมเป็นวิทยากรในเวทีเสวนา “Thailand Cold Chain: Empowering ASEAN’s Next Growth Potential – อนาคตการขนส่งเย็นของไทย: เปิดประตูการเติบโตใหม่สู่อาเซียน” โดยแบ่งเนื้อหาเป็น 3 ส่วน ได้แก่ Empowering the Cold Chain Future – เปิดโลกอนาคตตลาด Cold Chain, Driving Forward: Cold Chain Growth and Hub Development in ASEAN – ขับเคลื่อนอนาคตโคลด์เชนและการพัฒนาฮับในอาเซียน และ Solutions in Action – บทพิสูจน์จริง End to End Cold Chain Logistics Solution in ASEAN

Cold Chain ถือเป็นคลัสเตอร์เชิงยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญไม่แพ้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว เกษตร และอาหาร โดยเวทีเสวนาจะเจาะลึกภาพรวมอุตสาหกรรมโคลด์เชนในไทยและอาเซียน ทั้งมุมมองจากเรียลเซกเตอร์ เช่น โรงงานแปรรูปอาหาร ฟู้ดเซอร์วิสอินดัสตรี และผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้อง เน้นจุดแข็ง จุดอ่อน กลยุทธ์การขยายธุรกิจ และกรณีศึกษาจากประเทศต่าง ๆ เพื่อแสดงภาพการประยุกต์ใช้โซลูชัน Cold Chain แบบ End-to-End อย่างชัดเจน ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับประโยชน์จากมุมมองที่หลากหลาย ทั้งในเชิงอุตสาหกรรมและบริการโลจิสติกส์ ช่วยเปิดมุมคิดและต่อยอดธุรกิจได้อย่างรอบด้าน ซึ่ง SCGJWD คาดหวังโอกาสสร้างเครือข่ายธุรกิจใหม่ ๆ ผ่าน Business Matching และขยายพันธมิตรทางธุรกิจ โดยเฉพาะการเป็นคอมมูนิตี้โลจิสติกส์ ที่เป็นศูนย์รวมทั้งผู้ให้บริการ โรงงาน ภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการและขับเคลื่อนวงการโลจิสติกส์ให้พัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืน” นายณัฐภูมิ กล่าวในตอนท้าย