มูลนิธิสัมมาชีพเปิดชื่อ3ปราชญ์ชาวบ้าน จัดรับรางวัลต้นแบบสัมมาชีพ18พ.ย.นี้

วันที่ 14 ตุลาคม 2568 - 18:26 น.

กรุงเทพฯ-มูลนิธิสัมมาชีพประกาศผลการคัดเลือก “ปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพ” ประจำปี 2568 จำนวน 3 ราย เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติและเป็นต้นแบบ เผยผลงานเด่น มีความเชี่ยวชาญ สร้างเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมรับรางวัลเชิดชูเกียรติในวันที่ 18 พ.ย. นี้

นายมงคล ลีลาธรรม ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิสัมมาชีพ กล่าวว่า คณะกรรมการมูลนิธิสัมมาชีพได้พิจารณาคัดเลือกปราชญ์ชาวบ้าน 3 ราย เพื่อเข้ารับรางวัลปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพ ประจำปี 2568 ประกอบด้วย นางเสงี่ยม แสวงลาภ มีผลงานด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยวชุมชน  นาวาตรีสถาพร สกลทัศน์ มีผลงานด้านนวัตกรรมสัมมาชีพกาแฟเพื่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนและนายปิยณัฏฐ์ อิสสระสงคราม มีผลงานด้าน “หัตถศิลป์ดิ้นโบราณบาบ๋า-ยาหยา”โดยรางวัลปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อยกย่องเชิดชูผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในแขนงต่างๆ และได้ริเริ่มสร้างสรรค์พัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน สังคม บนหลักสัมมาชีพ เพื่อส่งต่อความรู้ของปราชญ์ต้นแบบเหล่านี้ให้เกิดการขยายผลต่อไป

“ในปีนี้ ปราชญ์แต่ละท่าน มีผลงานโดดเด่นหลากหลาย ทั้งด้านการท่องเที่ยวชุมชน นวัตกรรมอาชีพเพื่อสิ่งแวดล้อม และการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นผ่านธุรกิจสร้างสรรค์ทั้งสามท่านคือตัวอย่างของปราชญ์ผู้ลงมือปฏิบัติจริง มีความเชี่ยวชาญ ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างสร้างสรรค์ จนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในชุมชน และส่งแรงบันดาลใจสู่สังคมในวงกว้างได้”นายมงคลกล่าว

'เสงี่ยม'พัฒนาท่องเที่ยวชุมชนนาต้นจั่นโมเดล

สำหรับผลงานของนางเสงี่ยม แสวงลาภ จาก อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย มีผลงานจากการเป็นผู้นำชุมชนที่พัฒนา “บ้านนาต้นจั่น” จากหมู่บ้านเกษตรกรรมเล็ก ๆ ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน โดยนำความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาพัฒนาและขยายสู่ธุรกิจต่างๆเชื่อมโยงในชุมชนเช่น กลุ่มโฮมสเตย์ กลุ่มหัตถกรรม กลุ่มการแสดง กลุ่มมัคคุเทศก์น้อย กลุ่มรถอีแต๊ก จนสร้างรายได้ให้คนในชุมชนประมาณ 15 ล้านบาทต่อปี นอกเหนือจากรายได้ภาคเกษตร ช่วยสร้างอาชีพรองรับคนรุ่นใหม่คืนถิ่น แก้ปัญหาการบุกรุกป่า นอกจากนี้นางเสงี่ยมยังพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนจนได้มาตรฐานระดับประเทศและนานาชาติ ถือเป็นต้นแบบการพัฒนาท่องเที่ยวชุมชน

'สถาพร'นวัตกรรมสัมมาชีพ เพื่อสิ่งแวดล้อมและเยาวชนบนพื้นที่สูง

นาวาตรีสถาพร สกลทัศน์ จาก ต.บ้านกาด อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่มีผลงานจากการริเริ่มร้านกาแฟเพื่อสิ่งแวดล้อม “มาลากาแฟ” เนื่องจากมีเป้าหมายให้ชาวไทยภูเขามีสัมมาชีพกาแฟเพื่อดูแลป่า โดยการให้ความรู้เยาวชนบนภูเขาถึงกระบวนการทํากาแฟ บริหารจัดการร้านกาแฟตั้งแต่ต้นจนครบถ้วน เป็นผู้ริเริ่มพัฒนาร้านกาแฟต้นทุนต่ำ ใช้กระบวนการธรรมชาติในการผลิตกาแฟและต่อยอดภูมิปัญญาการคั่วกาแฟแบบล้านนา จึงสามารถสร้างอาชีพและรายได้แก่คนรุ่นใหม่บนภูเขา เปลี่ยนพื้นที่ไร่ข้าวโพดเป็นไร่กาแฟอินทรีย์ รวมถึงช่วยลดปัญหายาเสพติดและการย้ายถิ่นเข้าเมืองของเยาวชนในพื้นที่สูงได้

'ปิยณัฏฐ์'ฟื้นหัตถศิลป์บาบ๋า-ยาหยา สู่นานาชาติ

นายปิยณัฏฐ์ อิสสระสงคราม จากต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง เป็นผู้สืบทอดพัฒนา “หัตถศิลป์ดิ้นโบราณบาบ๋า-ยาหยา” ที่สุ่มเสี่ยงต่อการสูญหายให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ด้วยการประยุกต์ให้ร่วมสมัย คิดค้นเทคนิคใหม่ๆ และนำอัตลักษณ์ วัตถุดิบของชุมชนมาร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมแฟชั่นจนออกแบบเป็นสินค้าได้หลากหลาย ทั้งงานศิลปะการพันดิ้น เครื่องประดับเจ้าสาว เครื่องตกแต่งเสื้อผ้า งานศิลปะ ของที่ระลึก ผลิตภัณฑ์จากผ้าปาเต๊ะ สร้างรายได้ให้ชุมชนแม่บ้าน ผู้สูงอายุ และเยาวชน และสามารถเผยแพร่งานหัตถศิลป์ดังกล่าวสู่ต่างประเทศ นอกจากนี้ยังจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ถ่ายทอดทักษะความรู้ ขยายสู่การศึกษาในระบบและแพลทฟอร์มออนไลน์ ทำให้มรดกภูมิปัญญาท้องถิ่นนี้ยังคงอยู่ ถือเป็นแบบอย่างของการนำทุนวัฒนธรรมท้องถิ่นต่อยอดเป็นธุรกิจเชิงพาณิชย์

สำหรับปี 2568นี้ มูลนิธิสัมมาชีพได้คัดเลือกปราชญ์ชาวบ้านผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมแก่การเป็นต้นแบบสัมมาชีพที่สุด 3 คน จากการเสนอรายชื่อเข้าร่วมทั้งสิ้น 132คนโดยกระบวนการคัดเลือกนั้น ทางมูลนิธิสัมมาชีพได้แต่งตั้งคณะที่ปรึกษา และคณะกรรมการสรรหารางวัลปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา สื่อมวลชน และองค์กรพัฒนาเอกชน โดยคณะกรรมการสรรหาฯ ได้กลั่นกรองข้อมูลจนเหลือ 8 คน จากนั้นจึงลงพื้นที่เพื่อสอบทานข้อมูลเชิงประจักษ์อีกครั้ง และนำเสนอข้อมูลผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมต่อคณะกรรมการตัดสินรางวัล

ทั้งนี้ พิธีมอบรางวัลปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพจะมีขึ้นในวันที่ 18 พฤศจิกายน นี้ ณ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพฯ โดยปราชญ์ชาวบ้านทั้ง 3  คนจะได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศและเงินสดคนละ 50,000 บาท พร้อมการพัฒนาร่วมกับเครือข่ายภาคีของมูลนิธิต่อไป

สำหรับรางวัลปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพ เริ่มดำเนินการมาตั้งปี 2565 ขณะนี้ได้ดำเนินมาเป็นปี ที่ 4 แล้ว มีผู้ที่ได้รับรางวัลปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพทั้งสิ้น 15คน