Biz news

Marketbuzzz เผยคนไทยเลือก'กลิ่น' เฉพาะสินค้า/ชี้ช่องแบรนด์ใช้ชิงตลาด



ประเทศไทย, 14 ตุลาคม 2568 – ประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของคนไทยอย่างน่าทึ่ง ตั้งแต่กลิ่นหอมของตลาดอาหารริมทางที่คึกคัก ไปจนถึงกลิ่นสมุนไพรที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยมักพกติดตัวอยู่เสมอ

ผลการศึกษาล่าสุดโดยมาร์เก็ตบัซซ ในหัวข้อ ‘ความชื่นชอบกลิ่นหอมในประเทศไทย’ เผยถึงบทบาทของประสาทสัมผัสที่มีต่อพฤติกรรมการซื้อและความชอบกลิ่นที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเภทผลิตภัณฑ์ จากการสำรวจคนไทย 500 คน พบว่าคนไทยให้ความสำคัญอย่างมากกับสิ่งเร้าทางประสาทสัมผัส โดยเฉพาะ “กลิ่น” และ “สี” ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดการเลือกซื้อสินค้าในแต่ละประเภท

ผู้หญิงคือกลุ่มหลักที่ตัดสินใจซื้อสินค้าที่มีกลิ่นหอม

ผลการวิจัยชี้ว่า สินค้าหลายประเภทที่มีกลิ่นเป็นส่วนสำคัญ เช่น ผลิตภัณฑ์อาบน้ำและดูแลเรือนร่าง มีผู้หญิงเป็นผู้ซื้อหลัก โดยแบ่งตามหมวดหมู่ได้ดังนี้

  • ผลิตภัณฑ์อาบน้ำและดูแลเรือนร่าง: 84%
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม: 76%
  • ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว: 73%
  • ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน: 71%

การที่ผู้หญิงเป็นกลุ่มผู้ซื้อหลักนี้ สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการจับจ่ายโดยรวม และเป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดประเภทและกลิ่นของผลิตภัณฑ์ในตลาด

กลิ่นดอกไม้ครองใจคนไทยมากที่สุด

ผลการสำรวจพบว่า คนไทยมีความนิยมกลิ่นหอม 5 อันดับแรก ได้แก่ "กลิ่นดอกไม้" เป็นอันดับหนึ่งด้วยคะแนน 45% ตามมาด้วย "กลิ่นมัสก์" (38%) ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น และ "กลิ่นหวาน" (37%) ที่สร้างความรู้สึกสบาย นอกจากนี้ ยังมี "กลิ่นสดชื่นและกลิ่นธรรมชาติ" (35%) และ "กลิ่นซิตรัส" (32%)

ความชอบกลิ่นแตกต่างตามประเภทสินค้า

แม้กลิ่นดอกไม้จะได้รับความนิยมสูงสุด แต่ผลการศึกษาพบว่าคนไทยมีความชอบที่แตกต่างกันตามประเภทสินค้า ซึ่งเผยให้เห็นถึงการตัดสินใจที่ซับซ้อน

·ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล: ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (Skincare) มีแนวโน้มชอบกลิ่นหวาน ขณะที่ผลิตภัณฑ์อาบน้ำเน้นกลิ่นดอกไม้เป็นหลัก ส่วนน้ำหอมจะขึ้นอยู่กับเพศ โดยรวมแล้วกลิ่นมัสก์ได้รับความนิยมมากที่สุด

·ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน: ผลิตภัณฑ์ซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่ม กลิ่นดอกไม้ได้รับความนิยมสูงถึง 64% ขณะที่ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนทั่วไปจะเป็นกลิ่นผลไม้ (51%) และกลิ่นดอกไม้ (50%) ส่วนผลิตภัณฑ์ปรับอากาศในรถยนต์นิยมกลิ่นซิตรัส (49%)

ความหลากหลายของกลิ่นที่เลือกใช้ในแต่ละประเภทสินค้าแสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจที่ซับซ้อน โดยเชื่อมโยงกับลักษณะการใช้งานและบริบทของผลิตภัณฑ์

กลิ่นสร้างความผูกพันทางอารมณ์และสีช่วยเสริมประสบการณ์

นอกเหนือจากเพียงแค่กลิ่น กลิ่นหอมยังกระตุ้นความรู้สึกที่แตกต่างกัน ข้อมูลชี้ว่าคนไทยเชื่อมโยงกลิ่นเฉพาะบางอย่างเข้ากับความรู้สึกผ่อนคลาย ความสดชื่น หรือความสบายใจ ซึ่งสร้างประสบการณ์ที่มากกว่าแค่การสูดดม กลิ่นจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทรงพลังต่อพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค

นอกจากนี้ สีก็มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสบการณ์ของผู้บริโภค โดยมีการเชื่อมโยงสีให้สอดคล้องกับกลิ่น เช่น สีส้มสำหรับกลิ่นซิตรัส สีชมพูสำหรับกลิ่นดอกไม้และกลิ่นหวาน และสีเขียวสำหรับกลิ่นสมุนไพร ซึ่งช่วยเสริมอารมณ์และข้อความที่ต้องการสื่อผ่านกลิ่นได้อย่างสมบูรณ์

โอกาสทางการตลาดผ่านการตลาดเชิงประสาทสัมผัส

คุณเอวา เกรซ ที่ปรึกษาการวิจัยหลักในการศึกษาครั้งนี้ เน้นย้ำว่า "พฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยนั้นมีความละเอียดอ่อนกว่าที่คิด ความชอบที่แตกต่างกันในแต่ละหมวดหมู่สินค้าสะท้อนให้เห็นว่าคนไทยตัดสินใจเลือกจากประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสที่เชื่อมโยงกับการใช้งานผลิตภัณฑ์จริง" และเสริมว่าแม้กลิ่นหลักจะยังคงได้รับความนิยม แต่มีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับเปลี่ยนตามเวลา เนื่องจากความชอบในการซื้อของผู้บริโภคมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลง

ด้วยเหตุนี้ นักการตลาดจึงสามารถยกระดับและใช้ประโยชน์จากประสาทสัมผัสทั้งหมด ทั้งกลิ่น สี และการเชื่อมโยงทางอารมณ์ เพื่อเพิ่มศักยภาพสูงสุดในตลาดไทย

คุณแกรนท์ บาร์โทลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มาร์เก็ตบัซซ กล่าวสรุปว่า "การทำความเข้าใจความชอบทางประสาทสัมผัสและความผูกพันทางอารมณ์ที่คนไทยมีต่อกลิ่น จึงเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ แบรนด์ที่ใช้ทุกจุดสัมผัสในกลยุทธ์การตลาดอย่างสร้างสรรค์ จะสามารถดึงดูดความสนใจและส่งผลต่ออัตราการซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้มากขึ้น"