In News

รมช.คมนาคมฝาก2นโยบายกับขบ.เร่งมือ เข้มความปลอดภัย/รุกศูนย์ขนส่งชายแดน



กรุงเทพฯ-“มัลลิกา” มอบนโยบายกรมการขนส่งทางบก ชูนโยบาย Quick Win - Big Win มุ่งยกระดับการคมนาคมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี สำหรับประชาชนทุกคน

วันนี้ (17 ตุลาคม 2568) เวลา 09.00 น. นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มอบนโยบายดำเนินการงานและแนวทางการขับเคลื่อนภารกิจสำคัญของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) พร้อมตรวจเยี่ยมศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS โดยมี นายปัญญา ชูพานิช รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายจิระพงศ์ เทพพิทักษ์ และนายผดุงศักดิ์ สรุจิกำจรวัฒนะ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม โดย นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดี ขบ. และผู้บริหารของ ขบ. รับมอบนโยบาย ณ ขบ.

นางสาวมัลลิกา เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมภายใต้การนำของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีนโยบายสำคัญในการพัฒนาและยกระดับการคมนาคมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี สำหรับประชาชนทุกคน ซึ่ง ขบ. เป็นหน่วยงานในสังกัดที่มีความสำคัญในการกำกับดูแล ให้ระบบการขนส่งทางถนนมีความปลอดภัย โดยได้มอบนโยบายการดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนตามภารกิจ ขบ. ให้สอดคล้องกับนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลและนโยบายกระทรวงคมนาคม โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้

1. นโยบายเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน (Quick Win) ได้แก่ 1) อำนวยความสะดวกในการเดินทาง ให้มีความปลอดภัย ตรงต่อเวลา ราคาสมเหตุสมผล โดยพัฒนา Digital Taxi Meter เพื่อสร้างมาตรฐานค่าโดยสารที่เป็นธรรม โปร่งใส และพัฒนา DLT One APP เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้บริการแอปฯ ของ ขบ. 2) ให้ความสำคัญสูงสุดกับมาตรฐานความปลอดภัย และการให้บริการเป็นไปตามมาตรฐาน โดยยกระดับ การกำกับดูแล ผู้ขับขี่และผู้ประกอบการอย่างจริงจัง ยกระดับ GPS TWO-WAY เพื่อกำกับพฤติกรรมการขับขี่ ยกระดับการควบคุมและป้องกันอุบัติเหตุ พัฒนาการใช้ใบรับรองแพทย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Medical Certificate) เพื่อยกระดับการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ขับขี่ และจัดอบรมผู้ขับขี่รถขนาดใหญ่ “ฟรี 10,000 คน” ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เพื่อผลิตผู้ขับขี่รถบรรทุกที่มีคุณภาพ 3) ดูแลคุณภาพของยานพาหนะในระบบขนส่งสาธารณะให้มีความสมบูรณ์ พร้อมให้บริการประชาชน โดยพัฒนาระบบกำกับดูแลสถานตรวจสภาพรถด้วยเทคโนโลยี CCTV และ AI ทั่วประเทศ เพื่อให้การตรวจสภาพรถถูกต้องแม่นยำ 100% และ 4) ลดภาระค่าโดยสาร โดยพิจารณาอัตราที่เป็นธรรมทั้งกับประชาชนและผู้ให้บริการ ต้องไม่เป็นภาระทางการเงินต่อรัฐบาล ด้วยการศึกษาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการที่มีคุณภาพเข้าสู่ระบบ เพื่อให้เกิดการแข่งขันด้านบริการที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน นอกจากนี้ ยังมีนโยบายผลักดันโครงการ Quick Win ให้เร่งรัดโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างให้สามารถเปิดให้บริการได้โดยเร็ว เช่น ศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม และศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย รวมทั้งเร่งรัดเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติโครงการ เช่น สถานีขนส่งสินค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อสนับสนุนระบบโลจิสติกส์ของประเทศ

2. การวางรากฐานด้านคมนาคมสำหรับอนาคต (Big Win) ได้แก่ 1) ขับเคลื่อนการลงทุน และกำกับดูแลการก่อสร้าง ให้ส่งเสริมการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) เพื่อลดภาระของภาครัฐและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ เช่น ศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม และศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย 2) พัฒนาระบบ Feeder เชื่อมต่อระบบคมนาคมอย่างไร้รอยต่อ และยกระดับบริการขนส่งสาธารณะ เร่งยกระดับบริการขนส่งสาธารณะทั้งระบบ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยว พัฒนาสถานีขนส่งผู้โดยสารให้ยั่งยืนและจัดทำข้อมูลการเดินรถโดยสารประจำทางในส่วนภูมิภาค เพื่อให้สามารถวางแผนการเดินทางและเชื่อมต่อกับระบบรางและสนามบินได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3) ทบทวนกฎหมายของตนเองให้มีความทันสมัย ยืดหยุ่น รองรับเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ให้ปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งให้ทันสมัย เช่น การออกประกาศเพื่อรองรับเทคโนโลยี GPS 2-WAY และการพัฒนาระบบงานตรวจการขนส่งดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายให้รวดเร็วและโปร่งใส 4) สนับสนุนส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมของประเทศ เพิ่มขีดความสามารถทางการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน โครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งสินค้าจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเชื่อมโยงการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน ควบคู่ไปกับการยกระดับมาตรฐานผู้ประกอบการขนส่งสินค้าด้วยมาตรฐานคุณภาพบริการขนส่งด้วยรถบรรทุก (Q Mark) เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระดับสากล 5) ตอกย้ำและสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัย โดยให้พิจารณาการจัดตั้ง National Transport Safety Board สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยอย่างยั่งยืน โดยพิจารณาแนวทางการจัดตั้งองค์กรกลางด้านความปลอดภัย ควบคู่ไปกับการดำเนินโครงการด้านความปลอดภัย ผ่านเงินกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) และ 6) ศึกษาอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม เป็นธรรมทั้งกับผู้ให้บริการและพี่น้องประชาชน ให้ศึกษาอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม โดยเฉพาะการพิจารณาโครงสร้างราคาสำหรับรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าที่จะเข้ามาให้บริการทดแทนรถร้อน เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไม่สร้างภาระให้แก่ประชาชน

นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้เร่งยกระดับบริการขนส่งสาธารณะทั้งระบบ จัดให้มีระบบขนส่งสาธารณะในเมืองใหญ่ในภูมิภาค สำหรับเมืองท่องเที่ยวให้พิจารณาระบบขนส่งสาธารณะเชื่อมต่อกับสนามบินและแหล่งท่องเที่ยว โดยพิจารณาอัตราค่าโดยสารให้มีความเหมาะสมและเป็นธรรม รวมถึงนำรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า (EV) ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ มาให้บริการทดแทนรถร้อนทั้งหมดด้วย ทั้งนี้ การเร่งรัดดำเนินการ Quick Win จะให้เห็นผลได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรมได้ภายใน 4 เดือน เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในระยะเร่งด่วน พร้อมทั้งวางรากฐานด้านคมนาคมสำหรับอนาคตที่เป็น Big Win ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างและวางรากฐานระบบคมนาคมของประเทศให้ยั่งยืนต่อไป

ด้าน นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดี ขบ. เปิดเผยว่า ขบ. มีภารกิจในการกำกับ ดูแล ตรวจสอบ ตรวจตราให้มีการปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงการวางแผนให้มีการเชื่อมต่อการขนส่งรูปแบบอื่น เพื่อให้ระบบขนส่งสาธารณะเกิดความคล่องตัว สะดวก รวดเร็วและปลอดภัยในราคาสมเหตุสมผล โดย ขบ. ได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 84 ปี และยังคงมุ่งมั่นพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง และจัดระเบียบการขนส่งทางบกในทุกด้าน ทุกพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มมีความสุขในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และความปลอดภัย รวมถึงการให้บริการที่เป็นมาตรฐานสากล และการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางนโยบายรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม ทั้งนี้ ขบ. จะนำนโยบายของท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ไปพัฒนาการดำเนินงานเพื่ออำนวยความสะดวก ตอบสนองความต้องการและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนต่อไป