Biz news
ท็อปส์-มูลนิธิสโกลารส์ออฟซัสทีแนนซ์ สานต่อโครงกาอาหารปันสุขปีที่6

กรุงเทพฯ, 21 ตุลาคม 2568 – ท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เร่งสปีดแผนงานด้านความยั่งยืน จับมือมูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (SOS Thailand) จัดกิจกรรม “Food for Good Deed (อาหารปันสุข)” สานต่อภารกิจ “Zero Food Waste” การลดปริมาณขยะอาหารให้เหลือน้อยที่สุดหรือเป็นศูนย์ผ่านการเปลี่ยนอาหารส่วนเกินให้กลายเป็นเมนูอิ่มท้องที่สะอาด ปลอดภัย และอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ เพื่อส่งต่อสู่ชุมชนอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 โดยสามารถส่งมอบอาหารส่วนเกินจากซูเปอร์มาร์เก็ตสู่ชุมชนรวมแล้วกว่า 6.7 ล้านมื้อ ในปีนี้ ท็อปส์ได้ขยายจำนวนสาขาที่เข้าร่วมโครงการให้ครอบคลุมทั้งในเขตเมืองและภูมิภาคอีกกว่า 44 สาขา รวมทั้งสิ้น 106 สาขาทั่วประเทศ ตอกย้ำความมุ่งมั่นเชิงกลยุทธ์ของท็อปส์ในการจัดการอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ ลดอาหารที่อาจกลายเป็นขยะ (Food Waste) ที่ส่งผลต่อปัญหาโลกร้อน พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและสร้างความยั่งยืนให้แก่ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยตั้งเป้าลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากขยะอาหารกว่า 4,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ภายในปี 2569
นายจักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด, ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “ปัจจุบันปัญหาขยะอาหารได้กลายเป็นหนึ่งในความท้าทายระดับโลก และสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และคุณภาพชีวิตอย่างต่อเนื่อง โดยจากรายงานล่าสุดของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ในปี 2567 ที่ผ่านมาระบุว่า ปริมาณขยะอาหารทั่วโลกเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 74 กิโลกรัมต่อคนต่อปี เป็น 79 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ขณะที่ประเทศไทยกลับมีตัวเลขสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก โดยอยู่ที่ 86 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ซึ่งสูงกว่าหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียนอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนถึงความท้าทายที่ไทยจำเป็นต้องเร่งหามาตรการจัดการปัญหานี้อย่างจริงจังและยั่งยืน ท็อปส์ ในฐานะผู้นำฟู้ดค้าปลีกมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาดังกล่าวฯ จึงได้ร่วมมือกับมูลนิธิ SOS Thailand จัดกิจกรรม “Food for Good Deed (อาหารปันสุข)” เพื่อให้อาหารที่ยังทานได้ไม่ถูกทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ และผลักดันภารกิจ ‘Zero Food Waste’ อย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 6 ปี ตั้งแต่ปี 2562 ในการส่งมอบอาหารส่วนเกินที่คงคุณภาพจากซูเปอร์มาร์เก็ตสู่ชุมชนขาดแคลนในเขตกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด รวมแล้วกว่า 6.7 ล้านมื้อ ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากขยะอาหารได้มากถึง 3,570 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
และในปีนี้ เราได้ขยายความร่วมมือภายใต้โครงการให้ครอบคลุมสาขาท็อปส์อีกกว่า 44 แห่งทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 106 สาขา เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าอาหารที่ยังสามารถบริโภคได้จะถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งโครงการดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในแนวทางการปฏิบัติของท็อปส์เพื่อลด Food Waste ในห่วงโซ่ค้าปลีกตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยเริ่มต้นตั้งแต่ต้นน้ำด้วยการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์และคาดการณ์ปริมาณการผลิตและจำหน่ายสินค้าได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น เพื่อลดปริมาณอาหารเหลือทิ้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดไปจนถึงปลายน้ำด้วยการสร้างจิตสำนึกในการช่วยลด Food Waste ด้วยการชวนผู้บริโภคมาร่วมเป็นฮีโร่เปลี่ยนมุมมองใหม่ในการซื้อสินค้า ที่ใกล้หมดอายุ แต่ยังคงคุณภาพดี ในราคาลดพิเศษ เพื่อลดการเหลือทิ้งสินค้าใกล้หมดอายุโดยเปล่าประโยชน์ ภายใต้แคมเปญ “Food Hero, Taste not Waste” ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของท็อปส์ ในการบริหารจัดการอาหารอย่างมีความรับผิดชอบพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนแนวทางความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง”
ล่าสุดได้มีการลงพื้นที่จัดกิจกรรม “Food for Good Deed (อาหารปันสุข)” ณ ชุมชนริมคลองหลักสี่ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ร่วมกับเหล่าเพื่อนพนักงานชาวท็อปสเตอร์ เพื่อนำวัตถุดิบคุณภาพจากท็อปส์ อาทิ ผักและเนื้อสัตว์ มาปรุงเป็นมื้ออาหารร้อนที่สะอาด ปลอดภัย และอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ไม่ว่าจะเป็นเมนูส้มตำ, หมูสามชั้นลวกจิ้ม, ไก่ทอด, ยำไก่แซ่บ, ต้มยำแซลมอน และอื่นๆ เพื่อแจกจ่ายให้กับคนในพื้นที่และชุมชนใกล้เคียง โดยนอกจากการมอบอาหารแล้วยังมีการจัดกิจกรรมพูดคุยและรับฟังความต้องการด้านอาหารของชุมชนอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ความช่วยเหลือที่ตอบโจทย์และตรงกับความต้องการ กิจกรรมครั้งนี้ยังมีนักศึกษาวิทยาลัยดุสิตธานี มาร่วมสาธิตและแลกเปลี่ยนความรู้กับชุมชน ทั้งเทคนิคการประกอบอาหาร ความสร้างสรรค์ในเมนูอาหาร และร่วมลงมือปรุงอาหารในครัวชุมชนควบคู่กับชาวท็อปสเตอร์ นับเป็นการเสริมสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างพนักงานกับชุมชน (Employee–Community Engagement) ซึ่งสะท้อนถึงความรับผิดชอบร่วมกันขององค์กรและสังคมโดยรอบ ภายใต้กลยุทธ์ ‘12 Missions to Sustainable Retail’ และตอกย้ำความเชื่อมั่นว่าความยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้จากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนตามแนวคิด ‘Small Acts Together’ และปรัชญา CRC Care ของเซ็นทรัล รีเทล
“นอกจากนี้ ท็อปส์ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจพร้อมสร้างคุณค่าในทุกมิติทั้งสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ อีกมากมาย อาทิ การใช้รถขนส่งพลังงานไฟฟ้า (EV Truck) การเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เบียร์จากขวดแก้วเป็นกระป๋องอะลูมิเนียมบนเกาะพะงัน ตลอดจนการอัปไซเคิลป้ายไวนิลเก่าใช้แล้วจากร้านท็อปส์ เดลี่ สู่กระเป๋าช้อปปิ้งใบใหม่ในแคมเปญ Pretty Ugly Bag เพื่อหนุนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า” นายจักรกฤษณ์ กล่าวสรุป