Authority & Harm

ญาติรับร่างเหยื่อสงครามฮามาสกลับถึง บ้านหนองบัวลำภูหลังเฝ้ารอคอยกว่า2ปี 



หนองบัวลำภู-วันที่ 24 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าร่าง ของนายสนธยา อัครศรี อายุ 33 ปี แรงงานไทยในอิสราเอล ที่ถูกกลุ่มฮามาส จับไปเป็นตัวประกัน เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 และหายสาบสูญไม่ทราบข่าวกว่า 2 ปี จนกระทั่งเมื่อวันที่ 19 ที่ผ่านมา กลุ่มฮามาสได้ นำร่างตัวประกัน มามอบให้ฝ่ายอิสราเอล หลังจากการพิสูจน์อัตลักษณ์จึงพบว่า หนึ่งในนั้น คือนายสนธยา อัครศรี จึงได้ทำการส่งมอบจนกลับมาถึงประเทสไทย โดยรถส่งศพเดินทางมาถึงที่ บ้านโคกม่วย ม.3 ต.บ้านพร้าว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู เวลา 23.50 น.วันที่ 23 ตุลาคม 2568 ได้จุดธูปบอกกล่าวดวงวิญญาณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในบ้านขออนุญาตนำร่าง ของผู้ตายเข้าไปที่ตั้ง จากนั้น นายนิพนธ์ฯ พ่อพร้อมด้วยญาติ ได้ยกโรงบรรจุศพออกจากรถ เข้าไปใส่ในโลงเย็นที่จัดเตรียมไว้ โดยมีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแรงงาน ถือพวงหรีดที่ นำติดรถมาเข้าไปประดับตกแต่ง บริเวณสถานที่ตั้งศพ

โดยมีนายนิพนธ์ นางอมร อัครศรี พ่อกับแม่ ของผู้ตาย นายวีระชาติ อัครศรี น้องชาย และน้องไข่มุก ลูกสาวคนเดียวของนายสนธยาฯ รวมทั้งญาติ ที่เฝ้ารอรับร่าง  โดยนางอมรฯ แม่ ให้สัมภาษณ์ว่า ทำใจได้บ้างแล้ว ที่ลูกชายกลับมาถึงบ้านเสียที เพราะหลังจากที่รู้ข่าวว่าถูกจับ ก็ทนทุกข์ทรมานด้วยความเป็นห่วง ด้วยความลำบากของครอบครัว จึงให้นายสนธยาเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ ก็ได้ส่งเงินมาให้ มากถึงเดือนละ 30,000 ถึง 50,000 บาท บาท ทุกเดือนไม่ได้ขาด ซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัว ลูกชายเดินทางไปทำงาน โดยมีสัญญาระยะเวลา 5 ปีกับ 3 เดือน วันเกิดเหตุนั้น เป็นเดือนสุดท้ายที่สิ้นสุดสัญญา โดยกำหนดว่า จะเดินทางกลับในวันที่ 20 ตุลาคม ปี 2566 แต่ก็มาโดนจับไปเสียก่อน

ทางด้านนายสมศักดิ์ เพลงธรรม แรงงานจังหวัดหนองบัวลำภู ได้กล่าวว่าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน มาเพื่ออำนวยความสะดวกในการรับศพ และดูแลการจัดงานพิธีต่างๆ  เรื่องสวัสดิการต่างๆของนายสนธยา ฯส่วนใหญ่ ได้ไปทั้งหมดแล้ว เหลือบางส่วนที่นางอมรฯ จะต้องไปดำเนินการตามเรื่อง ได้แก่เรื่องของการชดเชย ค่าจ้าง ซึ่งนางอมรฯ ยังมีความหวังว่าลูกชาย จะยังมีชีวิตอยู่ จึงไม่ได้ไปยื่นเรื่อง ทั้งที่ทางกระทรวงแรงงานได้ แจ้งมาหลายครั้งแล้ว ทางตนจึงจะได้เข้าไปดำเนินการส่วนนี้ ให้เสร็จสิ้นต่อไป งานบำเพ็ญกุศล สวดพระอภิธรรมจำนวน 3 คืน และจะทำการฌาปนกิจศพ ที่ป่าช้าใกล้บ้าน ในวันที่ 27 ตุลาคม 2568 แล้วจะทำบุญตักบาตร ให้เสร็จไปในคราวเดียวกัน.