In Thailand
ชาวกระสังสำนึกส่งเสริมอาชีพเลี้ยงไหม พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
บุรีรัมย์-อำเภอกระสัง//ชาวบ้านสมาชิกส่งเสริมอาชีพกลุ่มศิลปาชีพ ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคณสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่เคยส่งส่งเสริมอาชีพเลี้ยงหม่อนทอไหมมานานกว่า 30 ปีจนชาวบ้านลืมตาอ้าปากได้
วันที่ 27 ต.ค.68 ชาวบ้านโครงการส่งเสริมศิลปาชีพ อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ หลังทราบข่าวสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้สวรรคต
ซึ่งโครงการส่งเสริมศิลปาชีพอำเภอกระสัง ครั้งนั้นประมาณ 42 ปีที่ผ่านมาพระองค์ทรงมีการส่งเสริมเกษตรกรที่ยากจนหันมาปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเป็นรายได้เสริม จนกระทั่งโครงการโตและเกษตรกรมีรายได้เสริมมาเท่าทุกวันนี้

นางพันนี นะเรืองรัมย์ อายุ54 ปี สมาชิกโครงการส่งเสริมศิลปาชีพ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เล่าว่า ตอนนั้นพระองค์เสด็จครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2536 ที่หมู่บ้านยากจนของพวกตนที่ ต.บ้านยาง อ.กระสัง
จากนั้นพระองค์ทรงให้ตั้งกลุ่มปลูกหม่อนเลี้ยงไหม มีสมาชิกในตอนนั้นกว่า 300 คน ต่อมาวันที่ 7 พ.ย.2546 พระองค์เสด็จมาอีกครั้ง ชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่ยากจนต่างดีใจที่ได้มีอาชีพเสริมจากการทำนาโดยเฉลี่ยปีละกว่า 45,000 บาท ยอมรับว่าใจหายหลังทราบข่าวร้าย หลังจากนี้จะยังสานต่อโครงการของพระองค์ท่านส่งต่อลูกหลานต่อไป

สำหรับศูลศิลปาชีพอำเภอกระสัง มีเนื้อที่ 117 ไร่ ผลิตใบหม่อนได้ ปีละมากกว่า 70,000กิโลกรัม และเลี้ยงไหมแล้วนำมาผลิตเป็นเส้นไหมได้ ประมาณ 1,000 กิโลกรัม สมาชิกกลุ่มทอผ้าไหมในโครงการสามารถทอผ้าไหมลายโบราณและลายที่ออกแบบขึ้นใหม่ ซึ่งมีความซับซ้อนสวยงาม โดยเฉพาะลาย “หางกระรอกคู่ตีนแดง” ที่เป็นลายประจำจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อนำไปจำหน่ายผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่ให้การสนับสนุนส่งเสริม ได้ช่วยสร้างรายได้ให้ราษฎรในชุมชนมีกำลังในการพัฒนาตนเอง ตลอดจนได้สืบทอดศิลปวัฒนธรรมประจำถิ่น รวมไปถึงการร่วมกันอนุรักษ์สภาพแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติไว้ได้สมดังพระราชปณิธาน ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง จ.บุรีรัมย์ รายงาน
