Biz news

 DHLGlobalConnectednessTracker เผยไทยมีบทบาทเพิ่มในตลาดค้าโลก



กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 28 ตุลาคม 2025: ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการขับเคลื่อนความยืดหยุ่นของการค้าโลก แม้ว่าการเคลื่อนตัวของการค้าระหว่างประเทศจะเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย DHL และโรงเรียนธุรกิจสเติร์น มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ได้ร่วมกันเผยแพร่รายงานพิเศษ “DHL Global Connectedness Tracker” เพื่อประเมินสถานการณ์การค้าโลกอย่างเป็นระบบครั้งแรก โดยศึกษาว่าการค้าระหว่างประเทศและการลงทุนด้านธุรกิจระหว่างประเทศตอบสนองอย่างไรต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าของสหรัฐอเมริกาในช่วงวาระที่สองของประธานาธิบดีทรัมป์

“ผลการดำเนินงานของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกโดดเด่นเนื่องจากความสามารถในการปรับตัวและการวางกลยุทธ์ และข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าความร่วมมือภายในภูมิภาคกำลังพัฒนาอย่างเข้มข้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นทั่วโลก” คุณเคน ลี ซีอีโอของ DHL Express ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว “จากบทบาทที่เพิ่มขึ้นของอาเซียนในการเปิดรับเส้นทางการค้าเข้าสู่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สร้างความร่วมมือกับประเทศรอบข้างอย่างแข็งขัน กิจกรรมด้านธุรกิจในภูมิภาคของเรากำลังแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความคล่องตัวและวิสัยทัศน์ของการเติบโตในอนาคต DHL มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนธุรกิจของลูกค้าให้ปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการค้าใหม่ที่จะเกิด และเราจะพัฒนาคุณภาพและศักยภาพในการให้บริการเพื่อให้ลูกค้าขยายธุรกิจในเส้นทางการค้าที่ต้องการได้อย่างต่อเนื่อง”

การค้าโลกยังไปต่อ แม้สถานการณ์ด้านภาษีที่ท้าทาย โดยมีเอเชียเป็นผู้นำการเติบโตของเส้นทางการค้า

รายงาน DHL Global Connectedness Tracker เปิดเผยว่า ในครึ่งแรกของปี 2025 การค้าระหว่างประเทศเติบโตในอัตราที่เร็วที่สุด นับตั้งแต่ปี 2010 โดยไม่รวมช่วงฟื้นตัวจากวิกฤตโรคระบาด การนำเข้าสินค้าสู่สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในต้นปี 2025 เนื่องจากผู้ซื้อเร่งซื้อสินค้าก่อนการขึ้นภาษีนำเข้าจะมีผลบังคับใช้ ถึงแม้การเร่งนำเข้าสินค้าสู่สหรัฐฯ จะชะลอตัว แต่ปริมาณการค้าโลกยังอยู่ในระดับสูงกว่าปีที่ผ่านมา

เมื่อวิเคราะห์ต่อถึงเส้นทางการค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก 100 เส้นทาง พบว่า 6 ใน 10 เส้นทางการค้าที่เติบโตเร็วที่สุดคือการส่งออกจากเศรษฐกิจเอเชีย เน้นย้ำบทบาทสำคัญของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ขับเคลื่อนโมเมนตัมการค้าโลก นอกจากนี้ ในบรรดาประเทศการค้าที่ใหญ่ที่สุด 50 ประเทศ พบว่าฮ่องกง ไทย มาเลเซีย และเวียดนาม ติด 10 อันดับสูงสุดของตลาดที่มีมูลค่าการค้าเติบโตรวดเร็วที่สุด บ่งชี้ว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีอิทธิพลและความยืดหยุ่นมากขึ้นในด้านเครือข่ายซัพพลายเชน

“นอกจากการเร่งส่งออกสินค้า โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เรายังสังเกตเห็นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเข้าสู่ประเทศไทยชัดเจนมากในครึ่งแรกของปี 2025 แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีความพร้อมที่จะคว้าโอกาสสำคัญในตลาดการค้าโลก ในฐานะผู้ให้ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เรามีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งและเครือข่ายซัพพลายเชนที่ครอบคลุม พร้อมสนับสนุนธุรกิจให้ปรับตัวสู่รูปแบบการค้าโลกที่เปลี่ยนไป เพื่อร่วมขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยและเป็นผู้เล่นสำคัญด้านการส่งออกและนำเข้าระหว่างประเทศ” คุณเฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ DHL Express Thailand และหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน กล่าว

ระยะทางการค้าที่สั้นลงบ่งชี้ว่ากิจกรรมการค้าระหว่างเอเชียเพิ่มขึ้น

การค้าระหว่างเอเชียสู่เอเชียแสดงให้เห็นถึงสัญญาณของการบูรณาการอย่างต่อเนื่องและการเชื่อมถึงกันมากขึ้น โดยส่วนแบ่งการค้าระหว่างภูมิภาคของเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกเพิ่มขึ้นจาก 55% เป็น 56% ในบรรดาประเทศการค้าที่ใหญ่ที่สุด 50 ประเทศ พบว่าประเทศที่มีระยะทางการค้าลดลงมากที่สุด คือ ไทย (ลดลง 79 กม.) จีน (ลดลง 76 กม.) สิงคโปร์ (ลดลง 71 กม.) และฮ่องกง (ลดลง 61 กม.) แปลว่ากลุ่มเศรษฐกิจเอเชียมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการค้าไปยังพันธมิตรในภูมิภาคมากขึ้นเพื่อรักษาการเติบโต นอกจากนี้ยังเป็นสัญญาณที่บอกถึงความพยายามของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมต่อระหว่างประเทศ ทำให้ดึงดูดกิจกรรมการค้าข้ามพรมแดนมากขึ้น

อาเซียน จุดหมายปลายทางหลักสำหรับการส่งออกของจีน

แม้ว่าจีนจะส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ ลดลง 15% ในช่วงแปดเดือนแรกของปี 2025 แต่จีนได้ชดเชยตัวเลขที่ลดลงนี้ด้วยการส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียนเพิ่มขึ้น 15% ในความเป็นจริง อาเซียนได้กลายเป็นภูมิภาคที่เติบโตสำหรับการส่งออกของจีน ทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในพอร์ตการค้าของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวียดนาม ไทย และอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่จีนขยายส่วนแบ่งการส่งออกเพิ่มขึ้นมากที่สุด ขณะที่สหรัฐฯ รัสเซีย เกาหลี บราซิล และเม็กซิโกเป็นตลาดที่จีนส่งออกลดลง

“เท่าที่เห็นแนวโน้มการค้าระหว่างประเทศและการลงทุนทางธุรกิจระหว่างประเทศจนถึงตอนนี้ในปี 2025 ไม่สอดคล้องกับมุมมองที่ว่าโลกาภิวัตน์กำลังถอยหลังกลับ” ศาสตราจารย์สตีเวน เอ. อัลท์แมน ผู้อำนวยการประจำโครงการของ DHL ในด้านโลกาภิวัฒน์ ประจำ NYU Stern’s Center for the Future of Management กล่าว “เรายังต้องจับตามองว่านโยบายการค้าปัจจุบันจะส่งผลกระทบต่อโลกาภิวัตน์อย่างไรต่อไป แต่แนวโน้มที่เราเห็นตอนนี้คือบริษัทต่างๆ ไม่ได้ถอนตัวออกจากตลาดระหว่างประเทศ เราเห็นการค้าระหว่างประเทศมีระยะทางโดยเฉลี่ยยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ และความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์การเมืองที่เกิดขึ้นได้เปลี่ยนแปลงกิจกรรมระหว่างประเทศทั่วโลกเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ข้อมูลล่าสุดยังแสดงให้เห็นว่าบริษัทต่างๆ กำลังบริหารความเสี่ยงและโอกาสที่เกิดขึ้นในโลกที่เชื่อมถึงกันมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ใช่แค่การค้าภายในประเทศหรือภายในภูมิภาค”