In News

'พิพัฒน์'ยัน1ธ.ค.นี้ใช้บัตรเหมาจ่ายรายวัน 'รถไฟฟ้าสีแดง-ม่วง'ตั๋วรวม40บ.ทั้งระบบ



กรุงเทพฯ-“พิพัฒน์” เดินหน้าลดค่าครองชีพประชาชน เปิดแนวคิดใหม่ “บัตรเหมาจ่ายรายวัน” รถไฟฟ้าสายสีแดง - สีม่วง คาดเริ่ม 1 ธันวาคมนี้ เชื่อมระบบตั๋วร่วมสู่ค่าโดยสารเดียวทั้งระบบ

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 เวลา 14.30 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินนโยบายการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าเพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ครั้งที่ 1/2568 โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวทางการ “บัตรโดยสารเหมาจ่ายรายวัน” สำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วง เพื่อให้ประชาชนเดินทางได้สะดวก คุ้มค่า และต่อเนื่องภายใต้นโยบาย “ลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน” ของรัฐบาลนำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โดยมี ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมหน่วยงานภาครัฐ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย ผู้แทนสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ คณะกรรมการกฤษฎีกา การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

กระทรวงคมนาคม เตรียมเปิดใช้ “บัตรโดยสารเหมาจ่ายรายวัน” ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2568 - 30 พฤศจิกายน 2569 เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน สำหรับบุคคลทั่วไป เดินทางไม่จำกัดเที่ยวในวันเดียวเพียง 40 บาท/วัน นักเรียน - นักศึกษา จ่ายเพียง 30 บาท/วัน ผู้สูงอายุ ครึ่งราคา ผู้พิการและเด็ก ฟรี และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ใช้วงเงินในบัตร 750 บาท/เดือน ได้ตามสิทธิ บัตรเหมาจ่ายดังกล่าวจะใช้ได้ทั้ง รถไฟชานเมืองสายสีแดง และรถไฟฟ้ามหานครสายสีม่วง ด้วยระบบ EMV Contactless MRT EMV Mangmoom EMV ซึ่งจะเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างสองสายได้อย่างไร้รอยต่อ ช่วยให้ผู้โดยสารที่ต้องเดินทางหลายเที่ยวต่อวันสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ชัดเจนและคุ้มค่ามากขึ้น นอกจากลดภาระค่าครองชีพแล้ว มาตรการนี้ยังช่วยกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้ระบบรางมากขึ้น ลดปัญหารถติด และลดมลพิษในเมืองใหญ่ โดยเป็นแนวทางที่ปรับปรุงเพิ่มเติมของนโยบาย “20 บาทตลอดสาย” ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากประชาชนตลอดสองปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายภาครัฐ รัฐอุดหนุนงบประมาณเฉพาะกลุ่ม และสร้างแรงจูงใจในการใช้ระบบขนส่งสาธารณะของพี่น้องประชาชน นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบแนวทางรวมศูนย์การบริหารจัดการระบบรถไฟฟ้าแบบองค์รวม หรือ “Single Ownership” โดยมอบหมายให้ รฟม. เป็นหน่วยงานหลักในการบริหารนโยบาย ค่าโดยสาร และระบบตั๋วร่วมของประเทศ เพื่อให้ทุกโครงการรถไฟฟ้าอยู่ภายใต้นโยบายเดียวกันอย่างมีเอกภาพ

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า แนวคิดดังกล่าวสอดคล้องกับพระราชบัญญัติการบริการจัดการระบบตั๋วร่วม (Common Ticket Act) ที่อยู่ระหว่างขั้นตอนประกาศใช้ ซึ่งเมื่อมีผลบังคับแล้วจะเป็น “โครงสร้างหลัก” ของระบบค่าโดยสารร่วม (Common Fare) และการเดินทางแบบไร้รอยต่อในอนาคต ซึ่งสิ่งที่เรากำลังทำไม่ได้เป็นเพียงการลดค่าครองชีพในวันนี้ แต่คือการสร้างระบบขนส่งที่ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงได้จริง เดินทางได้ในราคาที่เหมาะสมและเชื่อมต่อกันทั้งระบบ การมีบัตรเหมาจ่ายรายวันและตั๋วร่วมจะทำให้การเดินทางของคนกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหนึ่งเดียว สะดวก และคุ้มค่ากว่าเดิม พร้อมย้ำว่ากระทรวงคมนาคม และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนทุกมาตรการเพื่อลดภาระประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในมิติของค่าโดยสารบริการ คุณภาพชีวิต โดยเฉพาะการเชื่อมโยงระบบรางกับระบบขนส่งอื่น (Feeder) เพื่อให้ทุกการเดินทางของคนไทย “สะดวกตรงเวลา ปลอดภัย และราคาเหมาะสม”