Authority & Harm

ชาวนาชายแดนบุรีรัมย์ขอเกี่ยวข้าวก่อน ใช้หนีธกส.ก่อนค่อยถล่มเขมรแสบ



บุรีรัมย์-อำเภอบ้านกรวด//ชาวนาแนวชายแดน วอนทหารอย่าเพิ่งมีการปะทะเพราะข้าวกำลังเก็บเกี่ยว ถ้าเกี่ยวข้าวเสร็จไม่เกิน 1 เดือน ได้ใช้หนี้ ธกส.ยิงได้เลยแต่ต้องเอาให้เบ็ดเสร็จ หากกลัวทหารขาขาดช่วงนี้ขอให้หยุดเดินก่อน

วันที่ 12 พ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจาก จ.ส.อ.เทิดศักดิ์ สมาพงษ์ เหยียบกับระเบิดบริเวณพื้นที่ห้วยตามาเรีย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทำให้ขาขวาขาด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 พ.ย.เวลาประมาณ 09.30 น.ถือเป็นรายที่ 7 ที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขาขาด ทำให้สถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดขึ้นมาทันที รวมถึงเสียงเรียกร้องของประชาชนว่า”ทหารทำอะไรอยู่”

ในเวลาต่อมานายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ที่ฐานปฏิบัติการอินทุมาน (ภูมะเขือ) อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ว่า ประเทศไทยเป็นของเรา ที่ที่เรายืนอยู่คือประเทศไทย ใครจะมาแอบอ้างอธิปไตยเหนือดินแดนของไทยไม่ได้ แต่ว่าวันนี้การที่จะพูดเรื่องนี้ เราถือว่าสิ่งที่เราได้มีข้อตกลงกันไว้ เพื่อจะเดินไปสู่การมีสันติภาพ ”มันจบลงแล้ว“ จากนี้ไปรัฐบาลไทยก็จะดำเนินการในสิ่งที่เราเห็นว่าเป็นประโยชน์สำหรับประเทศไทย เป็นสิ่งที่ประเทศไทยจะทำโดยที่ไม่ต้องไปหารือ ไปปรึกษาหรือขออนุญาตใคร 

ยิ่งทำให้สถานการณ์ทั่วไปตามแนวชายแดนโดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ในแนวเขตพื้นที่สีแดง ต่างออกมาแสดงความวิตกกังวนเนื่องจากเป็นช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี

นางเกียรติ หกประโคน อายุ 70 ปี อาชีพทำนา บ้านเลขที่ 124 หมู่ 7 ตโนนเจริญ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาระบุว่า หลังทราบข่าวความตึงเครียดที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าไม่สบายใจ เพราะช่วงนี้เป็นฤดูการเกี่ยวข้าวนาปี

หากมีการปะทะกันในช่วงนี้นาข้าวซึ่งเป็นช่วงที่ทำยากเพราะมีฝนตกลงมาจะต้องเสียหายอย่างแน่นอน รถเกี่ยวข้าวจะไม่กล้าเกี่ยวเพราะกลัวอันตราย จึงอยากจะเรียกร้องให้ทหารชะลอการปะทะเอาไว้ก่อน

ขอเวลาอีกไม่เกิน 1 เดือน เมื่อข้าวเกี่ยวเสร็จขายเอาไปใช้หนี้ ธกส.เรียบร้อย หลังจากนั้นทหารจะทำอะไรก็ทำตนไม่ว่า แต่ขอให้ทำแบบเบ็ดเสร็จหน่อย ไม่ต้องมาคาราคาซังเหมือนตอนนี้

ส่วนทหารที่เหยียบกับระเบิด ช่วงเกี่ยวข้าวช่วงนี้ขอให้หยุดล่าตระเวนไปก่อน เพราะหากไปเหยียบกับระเบิดอีกกระแสก็จะแรงขึ้นมาอีก ขอเกี่ยวข้าวเสร็จก่อนเถิด”ทหาร”//////////////

ผู้สื่อข่าวจ.บุรีรัมย์รายงาน