In News
ดีอีเตือน'ลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล1หมื่นบ. เป็นข่าวปลอมเสร้างความสับสน-อย่าแชร์
กรุงเทพฯ-กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ ที่ประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “เปิดลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นเงินสด ถึงวันที่ 30 พ.ย. 68” รองลงมาคือเรื่อง “เริ่มแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต วันที่ 10 - 14 พ.ย. 68” เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด สับสน ตื่นตระหนก และวิตกกังวลในสังคม รวมทั้งอาจทำให้สูญเสียทรัพย์สิน และข้อมูลส่วนบุคคล ขอให้เลือกเชื่อ เลือกแชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
นางสาวสุชาดา ซาง แทนทรัพย์ โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย (AFNC) ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยความมั่นคงและภัยทางสังคมของนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ที่ต้องการให้มีการบูรณาการข้อมูลของหน่วยงานเพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับประชาชน โดยยกระดับความสำคัญเรื่องการสร้างความตระหนักรู้เท่าทันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ข่าวปลอม และข้อมูลบิดเบือน
ทั้งนี้ในระหว่างวันที่ 7 – 13 พฤศจิกายน 2568 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 998,165 ข้อความข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 1,186 ข้อความ สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 1,157 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 26 ข้อความ และช่องทาง Facebook จำนวน 3 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 249 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 97 เรื่อง
กระทรวงดีอี ได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 : นโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคงภายในประเทศ จำนวน 153 เรื่อง
กลุ่มที่ 2 : ผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมายจำนวน 40เรื่อง
กลุ่มที่ 3 : ภัยพิบัติ จำนวน 10 เรื่อง
กลุ่มที่ 4 : เศรษฐกิจ จำนวน 3 เรื่อง
กลุ่มที่ 5 : กลุ่มอาชญากรรมออนไลน์ จำนวน 43 เรื่อง

นางสาวสุชาดา กล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจในลำดับต้นๆ ในสัปดาห์นี้ส่วนใหญ่เป็นข่าวเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะ “โครงการเงินดิจิทัล” ข่าวการให้บริการของหน่วยงานรัฐ ข่าวภัยพิบัติ และข่าวที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ซึ่งทั้งหมดมีผลกระทบต่อสังคมส่วนใหญ่ อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด สับสน ตื่นตระหนก และวิตกกังวลได้ รวมทั้งอาจทำให้สูญเสียทรัพย์สิน หรือ ข้อมูลส่วนบุคคล โดยข่าวที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่
อันดับที่ 1 : เรื่อง เปิดลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นเงินสด ถึงวันที่ 30 พ.ย. 68
อันดับที่ 2 : เรื่อง เริ่มแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต วันที่ 10 - 14 พ.ย. 68
อันดับที่ 3 : เรื่อง เตือน 11-13 พ.ย. 68 พายุ ฟงวอง เข้าไทย เฝ้าระวังภาคเหนือ-อีสาน-กลาง
อันดับที่ 4 : เรื่อง โครงการคนละครึ่งพลัส ดึงงบประมาณมาจาก สปสช. และ กยศ.
อันดับที่ 5 : เรื่อง นมธัญพืช Glusure ลดน้ำตาลในเลือด จัดการเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อันดับที่ 6 : เรื่อง รัฐบาลประกาศเริ่มโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 แล้ว
อันดับที่ 7 : เรื่อง ชาวยิวในประเทศไทยเป็นทหารรับจ้างฆ่าเด็กและสตรี
อันดับที่ 8 : เรื่อง เตรียมประกาศลดบำนาญในปีงบประมาณ 2571
อันดับที่ 9 : เรื่อง ไทยผลักดัน “หมอลำคอนสวรรค์ ลำตั่งหวาย ลำภูไท” ขึ้นทะเบียนยูเนสโก ทั้งที่เป็นศิลปะลาวโดยกำเนิด
อันดับที่ 10 : เรื่อง พบเมฆเตือนภัยรูปเครื่องบิน ให้เฝ้าระวังเครื่องบินตก 4 - 30 พ.ย. 68
สำหรับอันดับ 1 เรื่อง “เปิดลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นเงินสด ถึงวันที่ 30 พ.ย. 68” กระทรวงดีอี ประสานงานร่วมกับกลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง ตรวจสอบพบว่า ไม่เป็นความจริง โดยขอชี้แจงว่าในขณะนี้ยังไม่มีโครงการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท แต่อย่างใด ดังนั้น การให้ข้อมูลดังกล่าว จึงเป็นการให้ข้อมูลเท็จที่อาจสร้างความเข้าใจผิดแก่ประชาชน โดยขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ และมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อการรับข้อมูลที่ถูกต้องและขออย่าส่งต่อข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง เพราะอาจสร้างความสับสนและทำให้ผู้อื่นได้รับข้อมูลที่ผิดได้
เช่นเดียวกับข่าวปลอมอันดับ 2 เรื่อง “เริ่มแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต วันที่ 10 - 14 พ.ย. 68” ซึ่งได้รับการตรวจสอบจากกลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง แล้วพบว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งรัฐบาลชุดปัจจุบันยังไม่มีโครงการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทะเบียนเงินดิจิทัลวอลเล็ต ดังนั้นข้อมูลดังกล่าวจึงเป็นข้อมูลเท็จ
อย่างไรก็ตาม ดีอี มีความห่วงใยประชาชน เรื่องความตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์ โซเชียล ซึ่งหากขาดความรู้เท่าทัน และส่งต่อข้อมูลข่าวปลอม ทำให้เกิดการหลงเชื่อ สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เกิดความวิตกกังวล หรืออาจสร้างความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน หรือข้อมูลส่วนบุคคล และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวหรือลิงก์เว็บไซต์ให้แน่ชัด
หากประชาชน พบข่าวน่าสงสัย ข้อมูลบิดเบือน สามารถแจ้งเบาะแส และตรวจสอบข่าวปลอมได้ที่ โทรสายด่วน 1111 ต่อ 87 (24 ชม.) หรือที่| เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com| Line ID: @antifakenewscenter| Facebook : Anti-Fake News Center Thailand| X : @AFNCThailand| TikTok : @antifakenewscenter| IG : afnc_thailand/
