In News
'สวนดุสิตโพล'เผยคนไทยรู้มีแข่ง'ซีเกมส์' ฝากรัฐใส่ใจความปลอดภัย-เป็นมืออาชีพ
กรุงเทพฯ-สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็น คนไทยกับซีเกมส์ครั้งที่33 พบ 82.67% ทราบว่าไทยเป็นเจ้าภาพ โดยคาดหวังว่าจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในประเทศ 68.85% ฝากถึงรัฐบาลเรื่องความเรียบร้อยภายในงาน 66.98%
"สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง "คนไทยกับซีเกมส์ ครั้งที่ 33" กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,281 คน ระหว่างวันที่ 11-14 พฤศจิกายน 2568 สรุปผลได้ ดังนี้
1. ประชาชนทราบหรือไม่ว่าประเทศไทยเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568
อันดับ 1 ร้อยละ 82.67 ระบุว่า ทราบ
อันดับ 2 ร้อยละ 17.33 ระบุว่า ไม่ทราบ
2. สิ่งที่ประชาชนคาดหวังจากการที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดซีเกมส์ครั้งนี้
อันดับ 1 ร้อยละ 68.85 ระบุ ส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภายในประเทศ
อันดับ 2 ร้อยละ 61.12 ระบุ สร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ
อันดับ 3 ร้อยละ 60.66 ระบุ การพัฒนาสนามกีฬาและโครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬา
3. ประชาชนคิดว่าทีมไทยจะสามารถคว้าเหรียญทองจากกีฬาชนิดใดได้บ้าง
อันดับ 1 ร้อยละ 22.25 ระบุ กรีฑา
อันดับ 2 ร้อยละ 12.18 ระบุ มวยไทย
อันดับ 3 ร้อยละ 11.01 ระบุ เซปัก ตะกร้อ
อันดับ 4 ร้อยละ 10.07 ระบุ วอลเลย์บอล
อันดับ 5 ร้อยละ 8.90 ระบุ เทควันโด
4. สิ่งที่ประชาชนอยากฝากบอกรัฐบาลในการจัดซีเกมส์ครั้งนี้
อันดับ 1 ร้อยละ 66.98 ระบุ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเรียบร้อยภายในงาน
อันดับ 2 ร้อยละ 61.59 ระบุ อำนวยความสะดวกให้นักกีฬา เช่น ที่พัก การเดินทาง การฝึกซ้อม
อันดับ 3 ร้อยละ 58.78 ระบุ สนับสนุนงบประมาณให้นักกีฬาไทยอย่างเต็มที่
5. จากกระแสฟุตบอล "หมอนทองฟีเวอร์" ทำให้ประชาชนสนใจกีฬาซีเกมส์มากขึ้นหรือไม่
อันดับ 1 ร้อยละ 35.83 ระบุ สนใจเฉพาะกีฬาฟุตบอลมากขึ้น
อันดับ 2 ร้อยละ 31.15 ระบุ สนใจกีฬาอื่นๆ มากขึ้น
อันดับ 3 ร้อยละ 27.17 ระบุ สนใจเหมือนดิม
อันดับ 4 ร้อยละ 5.85 ระบุ ไม่สนใจ
สรุปวิเคราะห์ผลโพล "คนไทยกับซีเกมส์ ครั้งที่ 33" พบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 82.67 ทราบว่าประเทศไทยเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 33 โดยคาดหวังว่าจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภายในประเทศ ร้อยละ 68.85 กีฬาที่คิดว่าทีมไทยจะคว้าเหรียญทองมาได้ คือ กรีฑา ร้อยละ 22.25 รองลงมาคือ มวยไทย ร้อยละ 12.18 สิ่งที่อยากฝากบอกรัฐบาลในการจัดซีเกมส์ คือ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเรียบร้อยภายในงาน ร้อยละ 66.98 จากกระแสฟุตบอล "หมอนทองฟีเวอร์" ส่วนหนึ่งทำให้สนใจซีเกมส์มากขึ้น โดยเฉพาะในกีฬาฟุตบอล ร้อยละ 35.83 และกีฬาอื่นๆ ร้อยละ 31.15
ดร.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ผลโพลครั้งนี้สะท้อนว่า ประชาชนคาดหวังให้ไทยใช้เวทีซีเกมส์เป็นโอกาสขับเคลื่อนเศรษฐกิจและยกระดับภาพลักษณ์ประเทศ พร้อมจัดงานให้ได้มาตรฐานทุกด้าน ขณะเดียวกัน กระแส "หมอทองฟีเวอร์" ยังช่วยขยายความสนใจของสังคมไทยต่อการแข่งขันมากขึ้น นับเป็นจังหวะสำคัญที่รัฐบาลจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นและแสดงศักยภาพของประเทศบนเวทีกีฬาอาเซียน
ขณะที่ ผศ.ดร.รุ่งนภา เลิศพัชรพงศ์ ประธานหลักสูตรการจัดการงานบริการ หลักสูตรนานาชาติ โรงเรียนการท่องเที่ยวและการบริการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิเคราะห์ว่า ผลสำรวจนี้สะท้อนความคาดหวังทางเศรษฐกิจและสังคมที่ชัดเจน โดยประชาชนมองซีเกมส์ในฐานะ "เครื่องมือทางเศรษฐกิจ" มากกว่ามหกรรมกีฬา ด้วยปัจจัย 3 ประการ คือ 1) การรับรู้ของประชาชนที่สูงเปรียบเสมือนทุนทางสังคม (Social Capital) ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของบรรยากาศการต้อนรับ (Hospitality) ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ความคาดหวังหลักมุ่งไปที่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยมหกรรม สะท้อนความเชื่อมั่นในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก 2) การให้ความสำคัญกับ "ความปลอดภัย" มากที่สุด หรือ "ปัจจัยสุขอนามัย" (Hygiene Factor) ซึ่งไม่ใช่แค่ความต้องการ แต่เป็นเงื่อนไขชี้ขาดความสำเร็นทางเศรษฐกิจ และ 3) ในมิติของโอกาส "หมอนทองฟีเวอร์" และ "มวยไทย" คือตัวอย่างของเศรษฐศาสตร์เชิงเรื่องเล่า และการใช้ Soft Power สร้างผลกระทบเชิงบวก ซึ่งสามารถต่อยอดสู่การท่องเที่ยวเชิงกีฬาที่ยั่งยืน ดังนั้น ความท้าทายของภาครัฐคือ การบริหารจัดการความปลอดภัยซึ่งเป็นตัวแปรควบคุมความเสี่ยง และการสร้างมูลค่าจากกระแส Soft Power เพื่อแปลงความคาดหวังของประชาชนให้เป็น "มรดก" (Legacy) ทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ไม่ใช่เพียงรายรับชั่วคราว
