In Bangkok

กทม.สั่งลุยแผนเชิงรุกจัดการน้ำครบวงจร พัฒนาโครงข่ายจุดเสี่ยงรัชดาฯ-สุขุมวิท



กรุงเทพฯ-นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวกรณีมีข้อวิจารณ์ฝนตกหนักช่วงเช้ามืดวันที่ 13 พ.ย. 68 ที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำท่วมถนนรัชดาภิเษก บริเวณหน้าศาลาอาญารัชดา และถนนสุขุมวิทว่า จากการตรวจวัดปริมาณฝนตามจุดต่าง ๆ พบว่า จุดวัด ปตร.คลองอรชร เขตปทุมวัน ปริมาณฝน 111.5 มิลลิเมตร (มม.) จุดวัดบึงมักกะสัน เขตราชเทวี ปริมาณฝน 96.5 มม. จุดวัด ส.คลองมอญ เขตบางกอกน้อย ปริมาณฝน 91.0 มม. จุดวัดสำนักงานเขตห้วยขวาง ปริมาณฝน 81.5 มม. และจุดวัดสำนักงานเขตพญาไท ปริมาณฝน 80.0 มม. ซึ่งก่อนเกิดฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพฯ สนน. ได้ลดระดับน้ำในคูคลองต่าง ๆ เพื่อรองรับปริมาณฝน และขณะฝนตกได้เร่งการระบายน้ำในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนัก โดยในถนนรัชดาภิเษกได้สูบน้ำจากฝั่งขาออกผ่านบ่อสูบน้ำบริเวณรัชดาภิเษกอัตรา 3 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที ลงสู่คลองด่วน และสูบน้ำจากบ่อสูบน้ำไนท์บาร์ซ่า อัตรา 4.50 ลบ.ม./วินาที ลงคลองน้ำแก้วเชื่อมต่อลงสู่คลองลาดพร้าว สำหรับถนนรัชดาภิเษกฝั่งขาเข้าเร่งระบายผ่านบ่อสูบน้ำซอยรัชดาภิเษก 32 อัตรา 5 ลบ.ม./วินาที เพื่อผันน้ำลงสู่คลองลาดพร้าวต่อไป

สำหรับถนนสุขุมวิทขาเข้าบริเวณรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีเพลินจิต พบปริมาณฝนตกสะสมสูงถึง 120.5 มม. ประกอบกับระดับน้ำในคลองมีปริมาณสูงส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขัง สนน.ได้ผันน้ำจากถนนสุขุมวิทลงถนนวิทยุไปสู่คลองไผ่สิงโตและอุโมงค์พระราม 4 เพื่อระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนบริเวณสุขุมวิท 24 ได้เร่งผันน้ำลงสู่ถนนสุขุมวิทและระบายผ่านบ่อสูบน้ำสุขุมวิท 26 ลงสู่คลองหัวลำโพง ขณะที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำถนนรัชดาภิเษกอยู่ระหว่างก่อสร้างระบบระบายน้ำใหม่จากบริเวณหน้าธนาคารกรุงเทพถึงศาลอาญารัชดา โดยมีอัตราสูบ 3.50 ลบ.ม./วินาที คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ก.พ. 69 ขณะที่ถนนสุขุมวิทมีการปรับปรุงบ่อสูบน้ำใต้สะพานพระโขนง และก่อสร้างบ่อสูบน้ำถนนสุขุมวิท 71 ตอนลงคลองตัน เพื่อเสริมศักยภาพการระบายน้ำ

สำหรับมาตรการเชิงรุกการเตรียมความพร้อมแผนฉุกเฉินรองรับสถานการณ์เกิดฝนตกหนัก กทม. ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซึ่งตั้งอยู่ภายในสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมสนับสนุนเครื่องมือ รถยก รถดับเพลิง อุปกรณ์กู้ภัย และเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมสูง รวมถึงประสานการไฟฟ้านครหลวงในกรณีไฟฟ้าขัดข้อง เพื่อให้สถานีสูบน้ำและอุโมงค์ระบายน้ำทำงานได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ได้ประสานกรมทางหลวง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่มีการก่อสร้างให้เปิดจุดปิดกั้นระบบระบายน้ำ รวมทั้งประสานกรมชลประทานในการบริหารจัดการน้ำตามแนวเขตรอยต่อระหว่างกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด