EDU Research & Innovation
‘Rooted Currents’การออกแบบเมือง ของนักศึกษามจธ.คว้าชัยชนะบนเวทีโลก
ท่ามกลางภาวะโลกที่ร้อนขึ้นและน้ำทะเลที่สูงขึ้นทุกปี หลายเมืองทั่วโลกกำลังถูกทดสอบและต้องหาคำตอบให้ได้ว่า “เมืองจะอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างไรให้ยั่งยืน” นี่คือคำถามที่ทีมนักศึกษาชั้นปีที่สี่ 12 คนจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ลงมือค้นหาจนได้คำตอบเป็นผลงาน “Rooted Currents” ที่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศระดับนานาชาติ Climate Resilience Urban Design Excellence Award จากเวที Designing Resilience Globally (DRG) 2025 ณ เมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ด้วยแนวคิดอันแตกต่างที่ไม่ได้เข้าไปจัดการธรรมชาติแต่ “อยู่ร่วมกับกระแสน้ำและรากฐานวัฒนธรรม” จนนำไปสู่การสร้างผังเมืองที่มีชีวิต และอยู่ได้อย่างมั่นคงในโลกปัจจุบัน

“Rooted Currents”เป็นผลงานที่เกิดจากการรวมตัวกันทำงานของอาจารย์ Assoc. Prof. Dr. Martin Schoch และ นักศึกษา 12 คน ประกอบด้วย ภัณฑิรา อาจารีพิพัฒน์, อมรพงศ์ อัศวพงษ์พูลกิจ, ปราญชลี อัชฌาสุทธิคุณ, Mia Clarisse Ignacio, May Thet Khaing, สราภัทร คุ้มคง, นิรชา ลิ้มสิริสกุล, กอไผ่ นนทเปารยะ, Ei Thandar Oo, ณัฏฐภพ วิลาวัณย์วจี, ภาณุรัสมิ์ วงษ์ตรี และ พฤกษ์ณพล ทองใบ ที่ร่วมกันนำโจทย์จริงของเมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน มาออกแบบผังเมืองใหม่ที่อยู่ร่วมกับน้ำได้อย่างสมดุล
“เราเชื่อว่าเมืองที่ดี ไม่ใช่เมืองที่แข็งแกร่งที่สุด แต่คือเมืองที่ยืดหยุ่นและเรียนรู้จากธรรมชาติได้ ทีมจึงตั้งใจออกแบบให้เมืองเติบโตไปพร้อมระบบนิเวศและวิถีผู้คน ไม่ใช่เติบโตทวนกระแสธรรมชาติ” ภัณฑิรา เล่าถึงจุดตั้งต้นของไอเดีย “Rooted Currents”
หัวใจของโครงการคือการเชื่อม “คน–วัฒนธรรม–น้ำ” ให้ทำงานเป็นระบบเดียวกัน ซึ่งเป็นแนวคิดที่แตกต่างจากทีมอื่น ๆ จนคณะกรรมการมอบรางวัลชนะเลิศให้ แนวคิดนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยสามกลยุทธ์หลักที่ทำให้เกิด “ความยืดหยุ่นของเมือง (Urban Resilience)” ได้ครบมิติ
กลยุทธ์แรก คือ “Sustained Living การใช้ชีวิตที่ยั่งยืน” คือการจัดวางผังเมืองแบบย่านเดินได้ในระยะ 15 นาที ลดการใช้รถส่วนตัวและเพิ่มการเข้าถึงบริการสาธารณะ “จุดมุ่งหมายคือให้คนทุกวัยใช้ชีวิตได้เต็มคุณภาพ โดยการเชื่อมที่อยู่อาศัย การเรียนรู้ สุขภาพ และพื้นที่สีเขียวเข้าด้วยกัน”ณัฏฐภพ อธิบายก่อนเสริมว่า การออกแบบโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมที่เหมาะสมทำให้เมือง “กระชับแต่ไม่แออัด” และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว
กลยุทธ์ที่สอง “Embraced Heritage มรดกที่ถูกโอบกอด” มองวัฒนธรรมดั้งเดิมเป็นระบบที่มีชีวิต ไม่ใช่อนุสาวรีย์ที่หยุดนิ่ง “เราอยากให้คนรุ่นใหม่สัมผัสประวัติศาสตร์ด้วยร่างกายและความรู้สึก ไม่ใช่แค่อ่านป้ายเราเชื่อว่าเมื่ออดีตหายใจได้ เมืองก็มีจิตวิญญาณ” ปราญชลีเล่าวิธีคืนชีพพื้นที่ประวัติศาสตร์ผ่านเส้นทางเล่าเรื่อง เทศกาลตามฤดูกาล และการใช้สถาปัตยกรรมเดิมแบบปรับตัว (adaptive reuse) ให้ร่วมสมัย
กลยุทธ์สุดท้าย “Protected Cycles วงจรที่ได้รับการปกป้อง” คือ การมองเรื่องน้ำจาก “ภัย” เป็น “พลังฟื้นฟู” ด้วยโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว–สีน้ำเงิน เช่น พื้นที่ชะลอน้ำ สวนฝน และการฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำ ให้พื้นที่สาธารณะทำหน้าที่ดุจฟองน้ำ “เราออกแบบให้เมืองเรียนรู้จะไหลไปกับกระแสน้ำ มากกว่าพยายามกั้นมันไว้เสมอเมื่อยอมรับจังหวะของน้ำ เมืองก็ปลอดภัยขึ้น และยังได้คุณค่าทางนิเวศกลับคืนมาด้วย” Mia Clarisse Ignacio นักศึกษาชาวฟิลิปปินส์เล่าถึงกลยุทธ์การจัดการเมือง
ในการทำงานทีมต้องเชื่อมโยงข้อมูลสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการคมนาคมให้เป็นผังเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากและซับซ้อนจนเกิดปัญหาขึ้นหลายครั้ง “ถ้าแก้ปัญหาจุดหนึ่ง จะส่งกระทบไปอีกหลายจุด เมืองจะเสียสมดุล เราเลยต้องประชุมแบบพร้อมหน้ากันหลายครั้ง เพื่อเช็กความเข้าใจและทิศทางการทำงานร่วมกัน การกล้าที่จะพูดคุยแบบตรงไปตรงมา เมื่อเจอปัญหา จะช่วยกันแก้ไขเพื่อให้งานดำเนินต่อได้” ภาณุรัสมิ์ เล่าถึงหลักการสื่อสาร การทำงานกลุ่มที่เป็นการรวมทุกคนที่มีความสนใจหลากหลายรูปแบบ ภายใต้ข้อจำกัดของเวลา
ด้านกอไผ่ เล่าถึงมุมมองในการทำงานว่า “ทีมพยายามออกแบบจาก “สัดส่วนการใช้งานของมนุษย์” ก่อนเสมอให้ทุกคน ตั้งแต่ วัยเด็ก วัยทำงาน และผู้สูงอายุ รู้สึกว่าเมืองนี้ “เป็นพื้นที่ที่ได้รับการออกแบบสำหรับทุกคนอย่างแท้จริง” ขณะที่ สราภัทร เน้นว่า “ความยั่งยืนไม่ใช่เรื่องเทคโนโลยีแต่คือเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคนกับพื้นที่ เมื่อความสัมพันธ์ถูกออกแบบได้ดี เมืองจะยืดหยุ่นเองโดยธรรมชาติ”
ชัยชนะครั้งนี้นอกจากแนวคิดที่แตกต่างและการทำงานที่เข้มข้นของทีมนักศึกษาแล้ว สิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือบทบาทของอาจารย์ที่ปรึกษาโดย Assoc. Prof. Dr. Martin Schoch “ผมให้โจทย์ที่ท้าทายและเปิดพื้นที่ให้พวกเขาตัดสินใจ หน้าที่ของผมคือ ช่วยตั้งคำถามที่ถูกต้อง สร้างการเรียนรู้ที่หลากหลายมุมมอง แล้วพาพวกเขาไปเห็นทั้งโอกาสและข้อจำกัด ในโลกแห่งความจริง เมื่อนักศึกษาเข้าใจโลกตามจริง การออกแบบก็จะแก้ปัญหาได้จริงอย่ามองน้ำเป็นศัตรู เพราะเราไม่มีวันชนะธรรมชาติได้ ต้องเรียนรู้จังหวะของธรรมชาติ แล้วปรับจังหวะของเมือง ให้สอดคล้องกัน เพื่อเมืองที่จะปลอดภัยและน่าอยู่ขึ้นไปพร้อมกัน”

“Rooted Currents” ไม่ได้เป็นเพียงแบบผังเมืองบนกระดาษ แต่เป็นแนวคิดของการสร้างเมืองที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติและวัฒนธรรมของผู้คนอย่างกลมกลืน เหมือนเมืองที่มีรากที่มั่นคงและสามารถปรับตัวไปกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ เมืองในอนาคตจึงควรเติบโตอย่างสมดุล ทั้งด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม โดยมี “ชีวิตผู้คน” เป็นศูนย์กลาง
