EDU Research & Innovation
ม.เซนต์จอร์จเน้นการตรวจคัดกรองมะเร็ง ต่อมลูกหมากป้องกันสำหรับผู้ชาย
กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 25พฤศจิกายน 2568:กรมการแพทย์ระบุว่า มะเร็งต่อมลูกหมากเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 4 ในประเทศไทย โดยมีผู้ป่วยรายใหม่เฉลี่ยปีละกว่า 3,700 ราย เนื่องในเดือนแห่งการตระหนักรู้สุขภาพผู้ชาย (Men’s Health Awareness Month) คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ (St. George’s University: SGU) ประเทศเกรนาดา หมู่เกาะเวสต์อินดิส ขอแนะนำแนวทางสำคัญที่ผู้ชายไทยควรรู้เพื่อป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากและดูแลสุขภาพให้แข็งแรง
1) ตรวจคัดกรองตั้งแต่เนิ่น ๆ
ผู้ชายไทยอายุ 40 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ควรเข้ารับการตรวจจากแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการรักษาให้ได้ผลดีที่สุดหากพบความผิดปกติ
องค์กร Zero Prostate Cancerแนะนำให้ผู้ชายอายุ 45 ปีขึ้นไป (หรือ 40 ปีในกลุ่มเสี่ยงสูง) ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก เช่น การตรวจหาค่าพีเอสเอในเลือด (Prostate-Specific Antigen: PSA) และการตรวจทางทวารหนัก (Digital Rectal Exam: DRE) เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
2) ทำความเข้าใจกับทางเลือกในการตรวจคัดกรอง
มีการทดสอบหลายรูปแบบที่สามารถช่วยวินิจฉัยมะเร็งต่อมลูกหมากได้ การตรวจระดับพีเอสเอ (PSA) ในเลือดช่วยบ่งชี้ความผิดปกติของต่อมลูกหมากในระยะเริ่มต้น ซึ่งอาจเกิดจากมะเร็งหรือภาวะอื่น เช่น การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรือการโตของต่อมลูกหมากที่ไม่ใช่มะเร็ง ส่วนการตรวจทางทวารหนัก (DRE) เป็นอีกวิธีที่สามารถใช้ตรวจหาความผิดปกติของต่อมลูกหมากได้อย่างรวดเร็ว
3) ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น เดินเร็ว ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมากในระยะลุกลาม ผู้ชายควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที เพื่อรักษาความแข็งแรง ควบคุมน้ำหนัก และปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย
4) รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
ข้อมูลจากThai Prostate Cancerระบุว่า การงดสูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์ และรับประทานอาหารที่อุดมด้วยไลโคปีน (Lycopene) และซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) สามารถช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมากในระยะยาวได้อย่างมีนัยสำคัญ ควรรับประทานผัก ผลไม้ มะเขือเทศ ถั่วเหลือง และปลาให้มากขึ้นเพื่อช่วยป้องกันมะเร็งชนิดนี้
การตระหนักรู้เรื่องมะเร็งต่อมลูกหมากไม่ใช่เพียงเรื่องของการตรวจพบเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการป้องกันด้วย ในเดือนแห่งการตระหนักรู้สุขภาพผู้ชายนี้ มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จขอย้ำถึงความสำคัญของการตรวจคัดกรองตั้งแต่เนิ่น ๆ และการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและสร้างสุขภาพระยะยาวที่ดีสำหรับผู้ชายทุกคน
