In News

ภาวะเศรษฐกิจการคลังภูมิภาคในต.ค.68 ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นทุกภาค



กรุงเทพฯ-เศรษฐกิจภูมิภาคเดือนตุลาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน โดยเฉพาะ ภาคตะวันออก ภาคใต้ และ กทม. และปริมณฑล อีกทั้งการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ในภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้

เศรษฐกิจภูมิภาคเดือนตุลาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน โดยเฉพาะ ภาคตะวันออก ภาคใต้ และ กทม. และปริมณฑล อีกทั้งการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ในภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นในทุกภูมิภาค ปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เช่น สถานการณ์น้ำท่วม สถานการณ์การค้าชายแดน เป็นต้น

นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนตุลาคม 2568 ว่า “เศรษฐกิจภูมิภาคเดือนตุลาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน โดยเฉพาะ ภาคตะวันออก ภาคใต้ และ กทม. และปริมณฑล อีกทั้งการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ในภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นในทุกภูมิภาคปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เช่น สถานการณ์น้ำท่วม สถานการณ์การค้าชายแดน เป็นต้น” โดยมีรายละเอียดดังนี้

เศรษฐกิจภาคใต้ในเดือนตุลาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการ และการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ร้อยละ 3.5 และ 9.2 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -29.5 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 7.6 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม รายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -13.4 ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 51.3 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 50.0 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -26.4 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 2.6 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ขณะที่จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -21.6 ต่อปี ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวที่ร้อยละ 33.7 ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตภาชนะบรรจุ ชิ้นส่วนประกอบสำหรับอาคารสำเร็จรูป และวัสดุมุงหลังคาจากโลหะในจังหวัดสงขลา เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 81.5 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 82.5 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 0.5 และ 0.5 ต่อปี ตามลำดับ

เศรษฐกิจภาคเหนือในเดือนตุลาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค และการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ร้อยละ 2.3 และ 7.6 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -25.6 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 2.0 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม รายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -21.4 ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 52.5 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 51.4 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -43.7 และ -52.2 ต่อปี ตามลำดับ แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 5.6 และ 11.7 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ตามลำดับ ขณะที่เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 85.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 82.4 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 4.8 และ 5.3 ต่อปี ตามลำดับ

เศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑลในเดือนตุลาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนและเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการที่ขยายตัวได้ อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ร้อยละ 10.2 และ 17.9 ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -2.0 และ -20.9 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 50.7 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 49.5 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -20.7 และ -44.6 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวที่ร้อยละ 138.8 ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานคลังสินค้า สำนักงาน ศูนย์กระจายสินค้า และห้องเย็น ในจังหวัดสมุทรปราการเป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 95.0 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 96.1 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 2.4 ต่อปี ขณะที่รายได้จากผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ร้อยละ -1.4 ต่อปี

เศรษฐกิจภาคตะวันออกในเดือนตุลาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวได้ อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ร้อยละ 13.6 8.7 และ 1.0 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่รายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -9.1 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 54.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 53.1 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -43.2 และ -64.6 ต่อปี ตามลำดับ เช่นเดียวกับเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการที่หดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 88.2 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 89.0 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ร้อยละ -3.0 และ -5.4 ต่อปี ตามลำดับ

เศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือในเดือนตุลาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการที่ขยายตัวได้ อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ร้อยละ 7.0 และ 0.7 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -22.6 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 6.5 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม รายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -12.5 ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 54.8 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 53.8 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -50.5 และ -67.3 ต่อปี ตามลำดับ แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 1.3 และ 6.4 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ตามลำดับ อีกทั้งเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวที่ร้อยละ 53.0 ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำในจังหวัดนครราชสีมา เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 68.7 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 65.9 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ร้อยละ -1.5 และ -2.0 ต่อปี ตามลำดับ

เศรษฐกิจภาคกลางในเดือนตุลาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภคและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวที่ร้อยละ 7.8 ต่อปี ขณะที่จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -12.3 -5.3 และ -13.0 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 51.0 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 49.9 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการที่หดตัว เช่นเดียวกับจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -63.2 และ -51.5 ต่อปี ตามลำดับ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 95.0 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 96.1 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ร้อยละ -3.0 และ -2.2 ต่อปี ตามลำดับ

เศรษฐกิจภาคตะวันตกในเดือนตุลาคม 2568 การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนภาคเอกชนหดตัว อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวยังขยายตัวได้ อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -15.4 -16.7 -15.2 และ -12.7 ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 51.0 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 49.9 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ จำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 95.0 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 96.1 อย่างไรก็ตาม เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 1.5 และ 3.4 ต่อปี ตามลำดับ