EDU Research & Innovation

‘นักวิชาการมธ.’คนแรกไทย-อาเซียนเป็น ‘People of ACM’ใน‘วงการคอมฯโลก’



กรุงเทพฯ-“นักวิชาการธรรมศาสตร์” คนแรกในไทย - อาเซียนที่ได้รับเลือกให้เป็น “People of ACM” บุคคลผู้มีส่วนผลักดัน – ขับเคลื่อนอนาคต “วงการคอมพิวเตอร์โลก” หลังทำโครงการวิจัยพัฒนาศักยภาพ “ด้านประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูง” ในการใช้ “ซูเปอร์คอมพิวเตอร์” ให้ประชาชนกว่า 300 คน ในภาคเหนือ เชื่อมโยงขุมพลังเทคขั้นสูงสู่ท้องถิ่น เพื่อใช้สร้างนวัตกรรมแก้ไขปัญหาพื้นที่

ผศ. ดร.วรวรรณ ดีอัซ การ์บาโย (มะเริงสิทธิ์) อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์ลำปาง ได้รับคัดเลือกจากองค์กรวิชาชีพด้านคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Association for Computing Machinery (ACM) ให้เป็นหนึ่งใน People of ACM ประจำปี 2025 หรือบุคคลที่มีส่วนในการผลักดันและขับเคลื่อนอนาคตของวงการคอมพิวเตอร์ของโลก ซึ่งถือเป็นคนแรกของประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน

สำหรับผลงานของ ผศ. ดร.วรวรรณ ที่นำไปสู่การได้รับการคัดเลือก คือการขับเคลื่อนให้เกิดการใช้ประโยชน์ของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ จากโครงการวิจัยระบบนิเวศสำหรับการพัฒนากําลังคนทักษะเชี่ยวชาญด้านการคํานวณสมรรถนะสูงเพื่อเสริมความพร้อมรับความท้าทายท้องถิ่นด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีชั้นนำ หรือย่อว่า HPC Ignite ซึ่งเป็นการพัฒนาศักยภาพด้านการประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูง (High Performance Computing: HPC) ให้กับประชาชนทั่วไป 373 คนใน 4 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ ลำปาง เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และลำพูน เพื่อสนับสนุนให้เกิดการนำทักษะที่ได้ไปพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการ หรือแก้ไขปัญหาของพื้นที่ โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานวิจัยแห่งชาติ (วช.) ศูนย์ทรัพยากรคอมพิวเตอร์เพื่อการคำนวณขั้นสูง (ThaiSC) และ มธ.

ผศ. ดร.วรวรรณ กล่าวว่า การมีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ คือการเสริมอำนาจการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศ เพราะซูเปอร์คอมพิวเตอร์จะช่วยให้คำนวณหลายสิ่งอย่างได้เร็วขึ้น นำไปสู่การสร้างผลิตภัณฑ์เร็วขึ้น หรือเกิดผลได้เร็วขึ้น ตัวเช่น Google Deepmind ที่ใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ค้นหาองค์ความรู้ซึ่งเทียบเท่ากับการใช้เวลาสะสม 800 ปี ด้วยระยะเวลาเพียงแค่ 17 วัน อย่างไรก็ตาม การเสริมอำนาจนี้ไม่ได้ต้องการแค่เครื่อง แต่ยังต้องการคนที่จะใช้งานด้วย และไทยเองก็มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ แต่มีคนที่ใช้เป็นเพียงคนกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น ดังนั้นจึงนำมาสู่การริเริ่มโครงการนี้ขึ้น ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการพยายามเชื่อมโยงขุมพลังของซูเปอร์คอมพิวเตอร์มาสู่ประชาชนทั่วไป

ผศ. ดร.วรวรรณ กล่าวต่อไปว่า โครงการวิจัยดังกล่าว ไม่ใช่แค่การพัฒนาทักษะ แต่คือการสร้างระบบนิเวศเพื่อฝึกทักษะด้าน HPC ให้กับคนที่อาจไม่มีโอกาสได้เข้าถึงซูเปอร์คอมพิวเตอร์ อย่างบางคนที่มาร่วมโครงการวิจัยก็อยู่ในพื้นที่ที่ไฟดับบ่อย ไม่มีอุปกรณ์สำหรับเรียนที่บ้าน และมีแต่โทรศัพท์ ทางทีมวิจัยก็มีการพัฒนาเว็บไซต์สำหรับการเรียนขึ้นโดยที่เข้าจากโทรศัพท์ได้ และเว็บไซต์มีทั้งสำหรับฝึกปฏิบัติ การเรียนรู้ และจับคู่เป้าหมาย ทักษะ และแนะนำเส้นทางการเรียนรู้

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการผลักดันให้เกิดการใช้ทักษะจริงผ่านการจัดการประกวดนวัตกรรมขึ้น โดยจัดร่วมกับงาน Lamphun Tech Week และได้รับทุนสนับสนุนจาก ACM และ Amazon Web Service (AWS) ซึ่งจากคนที่มาร่วมอบรม 373 คน มี 29 คนที่นำทักษะที่ได้มาต่อยอดจนเกิดเป็นนวัตกรรมจำนวน 11 โครงการ ตัวอย่างเช่น ซอฟต์แวร์แปลภาษาม้ง เพื่อให้คนกลุ่มชาติพันธุ์ม้งสามารถติดต่อสื่อสารได้สะดวกขึ้นในการดำเนินชีวิต หรือการพัฒนายาลูกกลอนเป็นสเปรย์แก้หอบหืด ที่สำคัญทั้ง 11 โครงการ กำลังถูกพัฒนาต่อไปสู่การใช้จริงในวงกว้างด้วย

ผศ. ดร.วรวรรณ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้โครงการวิจัยจากการสร้างระบบนิเวศเพื่อฝึกทักษะ อย่างเว็บไซต์ในการจัดระบบการเรียนรู้นั้น เมื่อครั้งที่ได้เป็นผู้ช่วยวิทยากร (Teaching Assistant) ของ ACM HPC Summer School ซึ่งเป็นการอบรมทักษะด้าน HPC ในระดับนานาชาติของ ACM ยังมีการนำเว็บไซต์ดังกล่าวไปใช้ช่วยให้ผู้อบรมบางคนที่ไม่มีอุปกรณ์ที่พร้อมสำหรับการเรียนให้สามารถเรียนได้อย่างเท่าเทียมกับคนอื่นๆ ส่งผลให้แพลตฟอร์มนี้ไม่ได้เกิดประโยชน์แค่ในไทยแต่ไปถึงชุมชนโลกด้วย

อย่างไรก็ดี สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ทั้งโครงการวิจัย และสิ่งสำคัญอย่างการเข้าถึงซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในประเทศไทยจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่มีการสนับสนุนจาก มธ. และการได้พานักศึกษาไปเข้าร่วมแข่งขันในระดับนานาชาติบนเวที APAC-HPC AI Competition ซึ่งธรรมศาสตร์ถือเป็นมหาวิทยาลัยเดียวในไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันนี้ทุกปี จนต่อมาได้รับรางวัลอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นเครื่องการันตีให้ทาง ThaiSC เห็นและอนุญาตให้เข้าถึงและใช้งานซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของประเทศไทย

“ความสำคัญของการได้รับเลือกให้อยู่ใน People of ACM คือการเป็นแรงผลักดันให้คนกลุ่มใหญ่เห็นความสำคัญของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ว่าสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว และเป็นแรงบันดาลใจให้หลายประเทศพัฒนากำลังคนด้านนี้มากขึ้น เพื่อให้แต่ละประเทศมีศักยภาพในการพัฒนานวัตกรรม หรือ AI ด้วยตนเอง ซึ่งจะสร้างประโยชน์จำนวนมากให้กับประเทศ นอกจากนี้ การได้รับเลือกครั้งนี้ยังตอกย้ำนโยบาย การสนับสนุนบุคลากรภายในมหาวิทยาลัย และความเป็นธรรมศาสตร์ในการมุ่งมั่นทำเพื่อสังคมด้วย” ผศ. ดร.วรวรรณ กล่าวในตอนท้าย