Authority & Harm

ศาลอาญาเข้ม! จำคุกโดยไม่รอลงอาญา แอบอ้างตุ๋นเงินปชช.หลอกช่วยประกันตัว



กรุงเทพฯ-โฆษกศาลยุติธรรม เผย ศาลอาญาเข้มจำคุกไม่รอลงอาญา แอบอ้างตุ๋นเงินประชาชนหลอกช่วยเรื่องประกันตัว เตือนสังคมอย่าหลงเชื่อใครช่วยวิ่งเต้น

วันที่ 17 ธ.ค.2568 นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า วันนี้ ศาลอาญามีคำสั่งคดีละเมิดอำนาจ กรณีที่มีผู้อ้างกับบุคคลอื่นว่าสามารถติดต่อประสานงานกับผู้พิพากษาเพื่อขอให้ปล่อยตัวชั่วคราว (ประกันตัว)

โดยกรณีดังกล่าวมีผู้ร้องยื่นคำร้องต่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาว่า ชายคนหนึ่ง อ้างกับภริยาของจำเลยคดีค้ามนุษย์ว่าสามารถติดต่อประสานงานกับผู้พิพากษาเพื่อขอให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยมีการเรียกรับเงินจำนวน 500,000 บาท ซึ่งต่อมาภริยาของจำเลยนั้นได้โอนเงินให้ตามคำเรียกร้อง แต่เมื่อศาลอาญามีคำสั่ง“ไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว” จึงทราบว่าถูกหลอกลวงและได้ทำหนังสือร้องเรียนกระทั่งนำมาสู่การไต่สวนข้อเท็จจริงและดำเนินคดีละเมิดอำนาจศาล

โดยศาลอาญาหมายเรียกชายคนดังกล่าวมาเพื่อไต่สวน แต่ผู้ถูกกล่าวหานั้นทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มา ศาลจึงได้ทำการไต่สวนผู้กล่าวหาและพยาน ประกอบพยานเอกสารที่เกี่ยวข้อง และไฟล์บันทึกเสียงแล้วเห็นว่าพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหามีความผิดชัดเจน ดังนี้

มีการกระทำผิดในบริเวณศาล โดยผู้ถูกกล่าวหาได้ส่งภาพถ่ายตนเองขณะอยู่หน้าห้องประชาสัมพันธ์ภายในอาคารศาล เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้เหยื่อหลงเชื่อ

พฤติการณ์เหิมเกริมไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซึ่งแม้ภายหลังศาลจะมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวไปแล้ว แต่ผู้ถูกกล่าวหายังคงหลอกลวงซ้ำสอง โดยอ้างว่าจะนำเงินไปวิ่งเต้นกับประธานศาลเพื่อให้ยกฟ้องคดี

การกระทำกระทบต่อความยุติธรรมทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของสถาบันศาลยุติธรรมมุ่งหมายให้เกิดผลต่อการดำเนินกระบวนพิจารณาคดี ทำให้การพิจารณาไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างเรียบร้อยและเที่ยงธรรม

ศาลพิเคราะห์แล้ว การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาถือเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล อันเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31 (1), 33 (ข) และวรรคท้าย ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15​ศาลอาญาจึงมีคำสั่งให้จำคุกผู้ถูกกล่าวหามีกำหนด 6 เดือนโดยไม่รอลงอาญา

โฆษกศาลยุติธรรม ยังกล่าวด้วยว่า ขอย้ำกับพี่น้องประชาชนว่าหากมีผู้ใดมากล่าวอ้างว่าสามารถที่จะวิ่งเต้นให้ชนะคดี หรือจะให้ความช่วยเหลืออื่นใด ไม่ว่าจะอยู่ในขั้นตอนใดของการพิจารณาคดีในศาลยุติธรรม ขออย่าได้หลงเชื่อเพราะการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีในศาลจะต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน อีกทั้งยังมีการตรวจสอบที่เข้มข้น เพื่อให้การพิจารณาคดีของศาลปราศจากอคติสามารถคุ้มครองความยุติธรรมให้แก่ทุกคนได้อย่างเท่าเทียม