IN NEWS

สรุปสถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-เขมร ทั้งกองทัพภาค1,2ยังมีการปะทะต่อเนื่อง



กรุงเทพฯ-ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1และกองทัพภาคที่2  สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ จ.สระแก้วประจำวัน 23 ธันวาคม 2568 เวลา 18.00 น. กองทัพภาคที่1 ยังมีการยิงต่อสู้ด้วยปืนใหญ่ประปราย ทหารกัมพูชาได้เสริมกำลังและมีการปะทะเพื่อยึดครองพื้นที่ ขณะที่กองทัพภาคที่2 มีการปะทะใน5 จุด ด้วยปืนใหญ่ MB-21 และปืนเล็กประปราย เพื่อตรึงกำลังยึดครองพื้นที่ และกองพลนาวิกโยธินส่งกำลังใจทหารกล้าบาดเจ็บจากเหตุชายแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพภาคที่1 มีการสู้รบประปราย/เขมรเสริมกำลัง

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ จ.สระแก้วประจำวัน 23 ธันวาคม 2568 เวลา 18.00 น. กกล.บูรพา ปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยในสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา เป็นวันที่ 16 โดยมีการรบปะทะ เพื่อยึดครองพื้นที่ ใน 3 พื้นที่

1.พื้นที่บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา : ฝ่ายกัมพูชาดำเนินการเสริมความแข็งแรงของที่มั่น และใช้อาวุธยิงสนับสนุนด้วยปืนใหญ่, อาวุธยิงเล็งตรง, ปืนเล็ก และใช้ BM 21 ยิงตอบโต้มายังฝ่ายเรา ซึ่งฝ่ายเราใช้อาวุธยิงสนับสนุน ทำการยิงตอบโต้ตามสถานการณ์เพื่อควบคุมพื้นที่

2.พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง : ฝ่ายกัมพูชาดำเนินการเสริมความแข็งแรงของที่มั่น ซึ่งฝ่ายเราใช้อาวุธยิงสนับสนุนเพื่อควบคุมพื้นที่ เตรียมสถาปนาแนวที่มั่นตั้งรับและตอบโต้ตามสถานการณ์

3. พื้นที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง : ฝ่ายกัมพูชาเสริมความแข็งแรงของที่มั่น ซึ่งฝ่ายเราใช้อาวุธยิงสนับสนุนเพื่อควบคุมพื้นที่

โดยในวันนี้ กกล.บูรพา ปฏิบัติการโจมตีต่อที่หมายทางทหารของฝ่ายกัมพูชาในพื้นที่ปอยเปต จำนวน 2 แห่ง โดยยิงทำลายอาคารที่ใช้เป็นฐานปฏิบัติการและเก็บอาวุธกระสุน ซึ่งไม่มีพลเรือนพักอาศัยอยู่ในอาคารแล้ว ได้แก่

1.อาคาร International center (call center) เดิมเป็นอาคารที่รวบรวมบุคคลข้ามแดน ก่อนจะแยกย้ายส่งไปทำงานสแกมเมอร์ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้แปรสภาพเป็นฐานปฏิบัติการทางทหารโดยอยู่ห่างจากจุดผ่านแดนถาวร บ้านหนองเอี่ยน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ ประมาณ 2 กม.

2. อาคารฝั่งตรงข้ามวัดวังมน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ เดิมเป็นอาคารในการจัดทำบัญชีม้าของกลุ่มสแกมเมอร์ และได้แปรสภาพเป็นที่เก็บอาวุธและกระสุนของฝ่ายกัมพูชา โดยมีการตรวจพบพลซุ่มยิงของฝ่ายกัมพูชาอีกด้วย

นอกจากนี้ได้รับรายงานกำลังพลเสียชีวิต คือ พลทหาร ธนพัฒน์ นันทะวงศ์ สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ จากการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

บ้านหนองจาน อ.โคกสูง ตลอดจนพบความเสียหายจากฝ่ายกัมพูชาใช้จรวดหลายลำกล้อง BM-21 และเครื่องยิงลูกระเบิดยิงใส่พื้นที่พลเรือน จ.สระแก้ว โดยในห้วง ตั้งแต่ 8 ธ.ค.68 - 23 ธ.ค.68 ส่งผลให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ จำนวน 7 ราย มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 14 หลังคาเรือน พื้นที่เกษตรได้รับความเสียหาย 5,893 ไร่ นอกจากนี้ ยังทำลายระบบสาธารณูปโภค อาทิ ถนน 7 จุด, เสาไฟฟ้าแรงสูง 3 จุด, กำเเพงปศุสัตว์ 1 จุด และกำเเพงโรงเรียน 1 จุด เป็นต้น

สำหรับประชาชนในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว จำนวน 4 อำเภอ ทางจังหวัดสระแก้วร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แจ้งเตือนให้อพยพมายังศูนย์พักพิงชั่วคราวและปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อความปลอดภัย โดยปัจจุบันได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวให้บริการ จำนวน 40 ศูนย์ มีประชาชน รวม 17,441 คน

กองทัพภาคที่2 ยังมีการสู้รบใน5พื้นที่ด้วยปืนใหญ่ BM-21

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาประจำวันที่ 23 ธันวาคม 2568 (เวลา 17.00 น.)พื้นที่ช่องอานม้า ฝ่ายเราปฏิบัติการตามแผนเชิงรุก ดำเนินการกวาดล้าง ทำการสถาปนา และเสริมความมั่นคง ณ ที่หมาย

พื้นที่ซำแต – โดนตรวล-ภูผี-สัตตะโสม – พนมประสิทธิโส – ช่องตาเฒ่า ฝ่ายกัมพูชา ใช้เครื่องยิงลูกระเบิด และปืนใหญ่ และจรวดBM 21 ยิงเข้าใส่แนวการวางกำลังของฝ่ายเรา ฝ่ายเราทำการยิงตอบโต้ และใช้ปืนใหญ่ยิงทำลายเป้าหมายได้หลายจุด

พื้นที่ผามออีแดง-ห้วยตามาเรีย ทั้งสองฝ่ายมีการปะทะเป็นระยะๆ ฝ่ายกัมพูชาใช้ปืนเล็กยาว เครื่องยิงลูกระเบิด ปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง และปืนใหญ่ มาตกบริเวณป่ายาง บ้านซำเม็ง และบ้านภูมิซลอน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ฝ่ายเราได้ใช้เครื่องยิงลูกระเบิด โดรนทิ้งระเบิด ปืนใหญ่ทำการยิงต่อต้านปืน และยิงตัดเส้นทางส่งกำลังบำรุงของฝ่ายกัมพูชา

พื้นที่ภูมะเขือ พลาญหินแปดก้อน ฝ่ายกัมพูชาได้ยิงจรวด จรวด BM 21 เข้ามาตกบริเวณยอดภูมะเขือ และบริเวณพลาญหินแปดก้อนหลายนัด ฝ่ายเราใช้ปืนใหญ่ทำการยิงต่อต้านปืน นอกจากนั้นยังตรวจพบโดรนขนาดใหญ่ บินจากด้านภูมะเขือไปผามออีแดง

พื้นที่คนา ฝ่ายเราดำเนินการสถาปนาความมั่นคง ดัดแปลงที่มั่นให้แข็งแรง และตรึงกำลังในพื้นที่

พื้นที่ตาควาย ฝ่ายเราดำเนินการพิสูจน์ทราบ กวาดล้าง สถาปนาความมั่นคง วางกำลังตรึงที่หมาย ฝ่ายกัมพูชายังคงยิงจรวด BM 21 เข้าใส่ฝ่ายเรา บริเวณเนิน 350 และตาควาย

กองทัพภาคที่ 2 จะดำเนินทุกมาตรการอย่างเต็มขีดความสามารถ แม้ต้องแลกด้วยชีวิต เพื่อพิทักษ์รักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติ ให้ดำรงคงอยู่อย่างมั่นคง สืบต่อลูกหลานไทยอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรีตลอดไป

กองทัพเรือ :  กองพลนาวิกโยธินส่งกำลังใจทหารบาดเจ็บ

วันอังคารที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๘ นาวาเอก บุญมี แก้วสง่า รองผู้บัญชาการกองพลนาวิกโยธิน (๑) ในฐานะผู้แทนผู้บัญชาการกองพลนาวิกโยธิน เดินทางเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจแก่ จ่าเอก เทอดพงษ์ ผมนะรา สังกัดกองร้อยทหารช่าง หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา

โอกาสนี้ ได้สอบถามอาการและแสดงความห่วงใย พร้อมมอบกำลังใจแก่กำลังพลผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ โดยจ่าเอก เทอดพงษ์ ผมนะรา ได้รับการส่งต่อเข้ารับการรักษาตัว ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งอาการอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด

กองพลนาวิกโยธินขอชื่นชมในความกล้าหาญและความเสียสละของกำลังพลทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ พร้อมยืนยันจะดูแลและให้การสนับสนุนกำลังพลและครอบครัวอย่างเต็มความสามารถ