IN NEWS
สรุปสถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-เขมร วันที่17ไทยยึดจบ2พื้นที่ลุยต่อหนองจาน
กรุงเทพฯ-สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชากองทัพภาพที่1 พื้นที่ จ.สระแก้ว และกองทัพภาคที่2 พื้นที่4จังหวัดภาคอีสาน ยังมีการสู้รบกันต่อเนื่อง กองกำลังบูรพาสามารถเข้ายึดพื้นที่ได้เบ็ดเสร็จคือบ้านคลองแผง และบ้านหญ้าแก้ว ส่วนบ้านหนองจานยึดได้บางส่วนเร่งยึดพื้นที่ให้ได้ทั้งหมด
กองทัพภาคที่1 เข้ายึดพื้นที่ได้เบ็ดเสร็จ2จุดลุยต่อบ้านหนองจาน

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ จ.สระแก้วประจำวัน 24 ธันวาคม 2568 เวลา 18.00 น.
กกล.บูรพา ปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยในสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา เป็นวันที่ 17 โดยมีการรบปะทะ เพื่อยึดครองพื้นที่ ใน 3 พื้นที่
1.พื้นที่บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา : ฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามเสริมความแข็งแรงของที่มั่น และต้านทานด้วยการยิงปืนใหญ่, เครื่องยิงลูกระเบิด และ BM- 21 มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายเราสถาปนาที่มั่นวางแนวเครื่องกีดขวาง และได้ใช้อาวุธยิงสนับสนุน ทำการยิงตอบโต้ตามสถานการณ์เพื่อควบคุมพื้นที่ และดำรงความมุ่งหมายรักษาที่มั่น
2.พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง : ฝ่ายกัมพูชายังคงพยายามเสริมความแข็งแรงของที่มั่น และต้านทานด้วยการยิงปืนใหญ่, เครื่องยิงลูกระเบิด และ BM- 21 มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายเราสถาปนาที่มั่นวางแนวเครื่องกีดขวาง และได้ใช้อาวุธยิงสนับสนุนตอบโต้ตามสถานการณ์เพื่อควบคุมพื้นที่ และดำรงความมุ่งหมายรักษาที่มั่น
3. พื้นที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง : ฝ่ายกัมพูชาเสริมความแข็งแรงของที่มั่น เป็นที่มั่นดัดแปลงแข็งแรง และใช้อาวุธยิงสนับสนุนด้วย ปืนใหญ่, เครื่องยิงลูกระเบิด และ BM- 21 มายังฝ่ายเราอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายเราใช้อาวุธยิงสนับสนุนเพื่อควบคุมพื้นที่
นอกจากนี้ กองทัพอากาศได้ปฏิบัติการทางอากาศ โดย F-16 โจมตีที่หมายทางลึกของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเป็นคลังอาวุธและกระสุน ในพื้นที่ อ.บานอน จ.พระตะบอง
สำหรับประชาชนในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว จำนวน 4 อำเภอ ทางจังหวัดสระแก้วร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แจ้งเตือนให้อพยพมายังศูนย์พักพิงชั่วคราวและปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อความปลอดภัย โดยปัจจุบันได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวให้บริการ จำนวน 40 ศูนย์มีประชาชน รวม 18,096 คน
เข้าสู่วันที่ 17ปฏิบัติการตอบโต้และรักษาอธิปไตย

การปฏิบัติการ ในพื้นที่แนวรบ ทั้ง 3 แนวรบ ในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว ซึ่งมีลักษณะเป็นที่โล่ง ไม่มีฐานที่มั่นหรือกำบังที่มีความแข็งแรง ง่ายต่อการเป็นพื้นที่โจมตี อีกทั้งฝ่ายกัมพูชายังใช้พื้นที่ของพลเรือนเป็นที่ตั้งทางทหารในการโจมตีมายังฝ่ายเรา
1.พื้นที่บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา ฝ่ายเราสามารถยึดควบคุมพื้นที่ ดำเนินการสถาปนาที่มั่น ใช้อาวุธยิงสนับสนุนเพื่อควบคุมพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชายังมีการต้านทานด้วยการยิงจากอาวุธยิงสนับสนุน โดยเฉพาะ BM- 21 มาอย่างต่อเนื่อง
2.พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง ฝ่ายเราสามารถยึดควบคุมพื้นที่ ดำเนินการสถาปนาที่มั่น และใช้อาวุธยิงสนับสนุนเพื่อควบคุมพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชายังมีการต้านทานด้วยการยิงจากอาวุธยิงสนับสนุน โดยเฉพาะ BM- 21 มาอย่างต่อเนื่อง
3.พื้นที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง เนื่องจากฝ่ายกัมพูชา ได้เสริมความแข็งแรงของที่มั่น และโจมตีฝ่ายเราด้วยอาวุธปืนใหญ่ เครื่องยิงลูกระเบิด และBM-21 มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายเราได้ปฏิบัติการด้วยความรอบคอบ และใช้อาวุธยิงตอบโต้เพื่อช่วงชิงและควบคุมพื้นที่อย่างเบ็ดเสร็จต่อไป
สำหรับปฏิบัติการต่อที่หมายทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ในพื้นที่ฝั่งปอยเปต ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจน คือ การโจมตีที่มั่นทางทหาร คลังเก็บอาวุธกระสุน ที่ตั้งผลซุ่มยิง ที่ตั้งอาวุธวิถีโค้ง ตลอดจนระบบติดตั้งหรือสื่อสารต่างๆ ที่มุ่งเป้าโจมตีมายังฝ่ายเรา และให้สิ้นสภาพต่อการเป็นภัยคุกคาม โดยคำนึงถึงการตอบโต้ตามสัดส่วน เพื่อป้องกันผลกระทบต่อพลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ได้รับรายงานจาก กกล.บูรพา ภายหลังเข้ายึดที่หมาย บ.คลองแผง อ.ตาพระยา ดำเนินการตรวจค้นและเก็บกู้วัตถุระเบิดในพื้นที่ฐานที่มั่นเดิมของฝ่ายกัมพูชา ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลและระเบิดแสวงเครื่อง ได้แก่ ระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 4 ชุด และทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 จำนวน 2 ทุ่น
กองทัพภาคที่2 ใน5พื้นที่ของ5จังหวัดยังสู้รบกันด้วยปืนใหญ่โดรนดุเดือด
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาประจำวันที่ 24 ธันวาคม 2568 (เวลา 17.00 น.)
สถานการณ์ที่สำคัญในแต่ละพื้นที่ดังนี้
พื้นที่สัตตะโสม-โดนตรวล-ซำแต ฝ่ายกัมพูชาใช้เครื่องยิงลูกระเบิด ปืนใหญ่ โดรนพลีชีพ(FPV) และจรวด BM 21 โจมตีแนวการวางกำลังของฝ่ายเราเป็นระยะๆ กำลังพลปลอดภัย ปัจจุบันฝ่ายเราตรึงกำลังในพื้นที่ และเสริมความมั่นคง ณ ที่หมาย
พื้นที่ผามออีแดง-ห้วยตามาเรีย-ภูมะเขือ ทั้งสองฝ่ายมีการปะทะเป็นระยะๆ ฝ่ายกัมพูชาใช้เครื่องยิง ลูกระเบิด ปืนใหญ่ โดรนทิ้งระเบิด โดรนพลีชีพ และจรวด BM 21 ต่อแนวการวางกำลังของฝ่ายเรา โดยฝ่ายเราตอบโต้ด้วยเครื่องยิงลูกระเบิด โดรนทิ้งระเบิด และปืนใหญ่ ซึ่งสามารถทำลายที่หมายฝ่ายกัมพูชาได้หลายแห่ง
พื้นที่คนา ฝ่ายเราดำเนินการสถาปนาความมั่นคง ดัดแปลงที่มั่นให้แข็งแรง และตรึงกำลังในพื้นที่
พื้นที่ตาควาย ฝ่ายเราดำเนินกวาดล้างด้านหลังเนิน 350 สถาปนาความมั่นคง ณ ที่หมาย ฝ่ายกัมพูชายังคงยิงจรวด BM 21 เข้าใส่ฝ่ายเรา บริเวณเนิน 350 และตาควาย
พื้นที่ตาเมือน ฝ่ายกัมพูชา ทำการโจมตีฝ่ายเราด้วยเครื่องยิงลูกระเบิด ปืนใหญ่ จรวดBM 21 ฝ่ายเราทำการยิงต่อคลังกระสุน และที่ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนตลอดแนววางกำลังของฝ่ายกัมพูชา
ในวันนี้นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ “นักรบกล้า เนิน 350” ทั้งสองนาย ได้แก่ จ.ส.อ.สำเริง คลังประโคน จ.ส.อ.สำเริง คลังประโคน ณ วัดห้วยปอ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ และพลทหารภานุพัฒน์ เสาร์สา ณ วัดกลาง อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยทุกคนได้ร่วมตั้งจิตอันเป็นกุศลส่งดวงวิญญาณผู้กล้าให้สู่สุคติในสัมปรายภพ สถิต ณ สรวงสวรรค์อันผ่องใส ตลอดไป
.jpg)
" สันติภาพที่แลกด้วยชีวิตประชาชน ไม่ใช่สันติภาพที่แท้จริง "
ภาพความเสียหายจากการถูกยิงด้วยจรวดหลายลำกล้อง(BM-21) พื้นที่กว้างลงสู่ชุมชน บ้าน วัด และโรงเรียน คือ หลักฐานที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า การทำสงครามโดยไม่แยกแยะเป้าหมายและไม่คุ้มครองพลเรือน คือ การละเมิดหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างชัดแจ้ง การอ้าง “ สันติภาพ ” เพื่อสร้างความชอบธรรมให้การใช้กำลังที่ทำลายชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เป็นเพียงวาทกรรมที่บิดเบือนความจริง
สันติภาพไม่ใช่เครื่องมือเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองหรือยุทธศาสตร์ของรัฐใดรัฐหนึ่ง หากแต่ต้องตั้งอยู่บนความรับผิดชอบต่อสังคม การแยกแยะเป้าหมาย ความได้สัดส่วน และความจำเป็นทางทหารอย่างแท้จริง
ดังนั้น เมื่อพลเรือนกลายเป็นผู้รับเคราะห์ในความรุนแรงนี้ สันติภาพที่ถูกกัมพูชากล่าวอ้างย่อมกลายเป็นคำโกหกหลอกลวง สันติภาพเริ่มต้นได้ก็ต่อเมื่อกัมพูชาเลือกที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างจริงใจ ไม่ใช่ใช้คำว่าสันติภาพบังหน้าให้กับความรุนแรงที่ไร้ความรับผิดชอบ นั่นเอง
