IN NEWS
สรุปสถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-เขมร เฉ่งยิงBM-21ใส่พลเรือน/ยึดเนิน225ได้
กรุงเทพฯ-ศูนย์ปฏิบติการกองทัพภาคที่1และ2 ได้สรุปสถานการณ์ประจำวันที่ 25 ธันวาคม 2568 โดยกองทัพภาคที่1 ระบุใน3 พื้นที่ ยึดครองและสถาปนาที่มั่นวางแนวเครื่องกีดขวางแล้ว 2 แห่ง เหลือบ้านหนองจานพร้อมกับทภ.1 ขอประณามฝ่ายกัมพูชา โจมตี BM-21 ในพื้นที่พลเรือน บ.คลองแผง ชายแดนสระแก้ว ขณะที่กองทัพภาคที่สอง ยึดเนิน225 ได้แล้ว มีทหารบาดเจ็บ 2 ราย ด้านเสธ.ทบ. ลั่น กัมพูชา ต้องประกาศหยุดยิงก่อน ย้ำคุมพื้นที่อธิปไตยไทยได้แล้ว 90% ชี้ เขมร ซุก อาวุธตอนในอื้อ

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ จ.สระแก้วประจำวัน 25 ธันวาคม 2568 เวลา 18.00 น.
กกล.บูรพา ปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยในสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา เป็นวันที่ 18 โดยมีการรบปะทะ เพื่อยึดครองพื้นที่ ใน 3 พื้นที่
1.พื้นที่บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา : ฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามเสริมความแข็งแรงของที่มั่น และต้านทานด้วยการยิงปืนใหญ่, เครื่องยิงลูกระเบิด และ BM- 21 มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายเราสถาปนาที่มั่นวางแนวเครื่องกีดขวางและได้ใช้อาวุธยิงสนับสนุน ทำการยิงตอบโต้ตามสถานการณ์เพื่อควบคุมพื้นที่ และดำรงความมุ่งหมายรักษาที่มั่น
2.พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง : ฝ่ายกัมพูชายังคงพยายามเสริมความแข็งแรงของที่มั่น และต้านทานด้วยการยิงปืนใหญ่ และเครื่องยิงลูกระเบิดมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายเราสถาปนาที่มั่นวางแนวเครื่องกีดขวาง และได้ใช้อาวุธยิงสนับสนุนตอบโต้ตามสถานการณ์เพื่อควบคุมพื้นที่ และดำรงความมุ่งหมายรักษาที่มั่น
3. พื้นที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง : ฝ่ายกัมพูชาเสริมความแข็งแรงของที่มั่น เป็นที่มั่นดัดแปลงแข็งแรง และใช้อาวุธยิงสนับสนุนด้วยปืนใหญ่ เครื่องยิงลูกระเบิดมายังฝ่ายเราอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งฝ่ายเราใช้อาวุธยิงสนับสนุนเพื่อควบคุมพื้นที่ และจำกัดการปฏิบัติของฝ่ายตรงข้าม
โดยในช่วงเช้า ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธจรวด BM-21 โจมตีเข้ามาพื้นที่พลเรือนของฝ่ายไทย
บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว รวม 40 นัด ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการทางทหารได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ตลอดจนระบบสาธารณูปโภค พื้นที่การเกษตร ถนนในหมู่บ้านก็ได้รับความเสียด้วย สะท้อนให้เห็นว่าฝ่ายกัมพูชาไม่ได้มีเจตนาที่จะยุติความขัดแย้งนี้ อีกทั้งยังเจตนาที่ละเมิดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างร้ายแรง
สำหรับประชาชนในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว จำนวน 4 อำเภอ ทางจังหวัดสระแก้วร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แจ้งเตือนให้อพยพมายังศูนย์พักพิงชั่วคราวและปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อความปลอดภัย โดยปัจจุบันได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวให้บริการ จำนวน 40 ศูนย์ มีประชาชน รวม 17,913 คน
ทภ.1ขอประณามฝ่ายกัมพูชาโจมตี BM-21 ในพื้นที่พลเรือน

เช้าวันนี้ (25 ธ.ค.68) ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธจรวด BM-21 โจมตีเข้ามาพื้นที่พลเรือนของฝ่ายไทย บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว รวม 40 นัด ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการทางทหารได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ตลอดจนระบบสาธารณูปโภค พื้นที่การเกษตร ถนนในหมู่บ้านก็ได้รับความเสียด้วย
แสดงให้เห็นว่าฝ่ายกัมพูชาไม่ได้มีเจตนาที่จะยุติความขัดแย้งนี้ อีกทั้งยังเจตนาที่ละเมิดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างร้ายแรง
กองทัพภาคที่2 ยึดเนิน 225 ได้เรียบร้อย

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ขอแสดงความเสียใจ จากเหตุการณ์กำลังพลเหยียบทุ่นระเบิด บริเวณปราสาทตาควาย ซึ่งฝ่ายเราได้เข้ายึดพื้นที่ได้ตั้งแต่ วันที่ 16 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น
ปัจจุบันอยู่ระหว่างเสริมความมั่นคง ณ ที่หมาย, ทำการกวาดล้างและตรวจค้นทุ่นระเบิดซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก
โดยในเวลา 14.25 น. ชุดทหารช่าง สังกัด พัน.ร.22 ได้ทำการกวาดล้างทุ่นระเบิดบริเวณรอบปราสาท ขณะที่ชุดปฏิบัติการกำลังตรวจค้น ได้เกิดเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 ส่งผลให้มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 นาย ดังนี้
1. ส.อ.นิติธรรม ศรีคำแซง ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณขาข้างซ้าย
2. จ.ส.อ.อำนาจ ทัศสมบัติ มีอาการแน่นหน้าอกและหูอื้อ จากแรงอัดโดยชุดเสนารักษ์ได้ทำการปฐมพยาบาลให้กับผู้บาดเจ็บทั้ง 2 นาย ปัจจุบันได้เคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ ส่งเข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลใกล้เคียง
ล่าสุดกองทัพภาคที่2 สามารถ"ยึด !!! เนิน 225 เรียบร้อย" ยังอยู่ในระหว่างปฏิบัติการทางทหารอย่างต่อเนื่อง
เสธ.ทบ.ลั่นกัมพูชาต้องหยุดยิงก่อนย้ำคุมพื้นที่อธิปไตยไทยได้แล้ว 90%
เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พลเอกชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยทั่วไปซึ่งปัจจุบันยังเป็นไปตามเป้าหมายของกองทัพที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งขั้นตอนต่อไปก็ยังเดินไปตามแผนที่เราได้คาดการณ์ไว้เหลืออีกเพียงบางส่วน ซึ่งในพื้นที่ปฏิบัติการจะดำเนินการให้แล้วเสร็จ โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้
ส่วนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย- กัมพูชา หรือ GBC จะได้ข้อยุติหรือไม่นั้น พลเอกชัยพฤกษ์ ระบุว่า คงต้องติดตาม เพราะขณะนี้เป็นเพียงการพูดคุยของฝ่ายเลขานุการ GBC เท่านั้น ซึ่งจะมีรายละเอียด ว่าสามารถตกลงอะไรกันได้บ้าง
ส่วนกัมพูชาจะยอมรับข้อเสนอของฝ่ายไทยหรือไม่นั้น พลเอกชัยพฤกษ์กล่าวว่า ขอให้รอฟังการประชุม ทั้งฝ่ายเลขานุการ GBC รวมถึง ในวันที่ 27 ธันวาคมนี้ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมทั้ง 2 ประเทศ ทั้งนี้ขอย้ำว่า ในพื้นที่หน้าที่ของเรายังคงดำเนินการอยู่ ซึ่งยังคงมีการปะทะอย่างต่อเนื่องเรายังต้องทำและปฏิบัติ และทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่า 1 ใน 3 ข้อเสนอ คือกัมพูชา ต้องประกาศหยุดยิงก่อน ในฐานะผู้รุกราน ปัจจุบันนี้ ได้เห็นสัญญาณนั้นแล้วหรือไม่ ภายหลังได้มีการทำหนังสือ มาถึงกระทรวงกลาโหม พลเอกชัยพฤกษ์ ระบุว่า กัมพูชาได้ส่งสัญญาณมาโดยตลอด ตั้งแต่ช่วงต้นว่าคิดและอยากปฏิบัติเช่นนั้น แต่เราไม่ได้เป็นฝ่ายที่ทำให้สถานการณ์เกิดขึ้น และเมื่อเกิดขึ้นแล้วเราต้องปกป้องอธิปไตย
เมื่อถามว่ากัมพูชาสงวนคำพูดหลบเลี่ยง ที่จะประกาศหยุดยิงก่อน โดยใช้วิธีการให้ไทยและกัมพูชาประกาศหยุดยิงพร้อมกัน พลเอกชัยพฤกษ์กล่าวว่า เชื่อว่าฝ่ายกัมพูชาพยายามสื่อสารกับคนไทยในประเทศเช่นนั้น
เมื่อถามว่าเรายังยืนยันในจุดยืนว่าฝ่ายกัมพูชาต้องประกาศก่อนใช่หรือไม่ พล.อ.ชัยพฤกษ์ กล่าวว่า แน่นอน
เมื่อถามว่าปัจจุบันกัมพูชาอยู่ในสภาพที่สิ้นภาพแล้วหรือไม่ พลเอกชัยพฤกษ์ กล่าวว่าขณะนี้ได้ทำลายไปหลายส่วน กำลังที่อยู่บริเวณเขตอธิปไตยของเรา ตอนนี้ทำได้ 90% แต่ในพื้นที่ทางลึก ยุทโธปกรณ์ที่เขามีอยู่ ก็ยังมีอีกจำนวนมาก แต่ไม่ขอพูดถึงรายละเอียด คิดว่าเราดำเนินการตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้เป็นที่น่าพอใจ
