POLITICS
สนธิกำลังจู่โจมตรวจค้นเรือนจำรีสะเกษ เพื่อป้องกันหรือหยุดยั้งสิ่งผิดกฎหมาย
ศรีสะเกษ-สนธิกำลังจู่โจมตรวจค้นเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อป้องกันหรือหยุดยั้งเครือข่ายยาเสพติด ก่อนเข้าเทศกาลปีใหม่ เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 30 ธันวาคม 2568 ที่เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้เป็นประธานเปิดปฏิบัติการจู่โจมกองกำลังผสมเข้าตรวจค้นเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ โดยมี นายอรรถสิทธิ์ ทองแสง ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชยากร เทศะบำรุง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่กองกำลังผสม ประกอบด้วย กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 60 นาย ฝ่ายปกครอง โดยกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดศรีสะเกษที่ 2 จำนวน 10 นาย ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังวัดศรีสะเกษ จำนวน 5 นาย และฝ่ายราชทัณฑ์ จำนวน 100 นาย ร่วมพิธีเปิดและร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้
นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า รัฐบาล และจังหวัดศรีสะเกษ ตระหนักและให้ความสำคัญ ต่อการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะการตรวจค้นในเรือนจำและทัณฑสถานในทุกพื้นที่ เพื่อตรวจหาสิ่งต้องห้ามและสิ่งของผิดกฎหมาย ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษ ได้สนธิกำลังร่วมปฏิบัติการ “238 พิทักษ์นครลำดวน” ขยายผลจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดอย่างเข้มข้น โดยประชาชนเชื่อมั่นและแจ้งข่าวให้กับทางราชการสู่การจับกุม พร้อมขยายผลจนถึงเครือข่ายใหญ่ๆในหลายพื้นที่ เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายรัฐบาล ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ต้องแก้ปัญหาอย่างบูรณาการ เน้นการมีส่วนร่วมอย่างเปิดเผยสู่การบุกจู่โจมในเรือนจำ เป็นการตัดช่องทางการติดต่อซื้อขายและการลักลอบนำยาเสพติด ตลอดจนสิ่งของต้องห้ามเข้าภายในเรือนจำอย่างเด็ดขาด จึงต้องเฝ้าระวังและจู่โจมตรวจค้นผู้ต้องขังอย่างต่อเนื่อง เพื่อหยุดยั้งหรือทะลายเครือข่ายที่อาจใช้เรือนจำกระทำผิด
โดยตรวจค้นทั้งเรือนนอนของแดนชาย โรงอาหาร อาคารสอนอาชีพ ห้องน้ำ ตู้เก็บของของผู้ต้องขัง และตามจุดต่างๆภายในเรือนจำ ที่คาดว่าจะมีการนำสิ่งผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ โดยเฉพาะยาเสพติดและโทรศัพท์มือถือเข้ามาซุกซ่อนไว้ พร้อมสุ่มตรวจปัสสาวะผู้ต้องขัง เพื่อหาสารเสพติด เบื้องต้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายและปัสสาวะไม่พบเป็นสีม่วง สำหรับการบุกตรวจค้นหาสิ่งของผิดกฎหมายภายในเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อป้องกันและปราบปรามการใช้เรือนจำและทัณฑะสถานเป็นฐานค้ายาเสพติด จึงต้องตรวจค้นกวาดล้างยาเสพติด โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้ลักลอบนำเข้าอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ หรือช่วงวันหยุดยาว กลุ่มพ่อค้าเครือข่ายยาเสพติดชอบจะใช้ช่วงเวลานี้ที่เจ้าหน้าที่กำลังยุ่งกับการดูแลประชาชน นักเที่ยวและป้องกันอุบัติเหตุ พากันนำยาเสพติดสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ และลักลอบเข้ามาในเรือนจำ ทั้งนี้จังหวัดศรีสะเกษ จึงได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่บุกจู่โจมตรวจค้นภายในเรือนจำตามจุดต่างๆ ตั้งแต่เช้ามืด
นายอรรถสิทธิ์ ทองแสง ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาล ได้มีนโยบายในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง โดยในเรื่องของการป้องกัน ปราบปราม ฟื้นฟู ต้องแก้ปัญหาอย่างเป็นองค์รวม และมีการดำเนินงานอย่างบูรณาการ ประสานสอดคล้องกันของทุกหน่วยงานในทุกมาตรการ และนโยบายของกรมราชทัณฑ์ ที่ได้กำหนดแผนงานขับเคลื่อน เพื่อยกระดับการสร้างความมั่นคงปลอดภัยในเรือนจำ และสถานที่ควบคุม โดยมีนโยบายให้เรือนจำและทัณฑสถานทั่วทั้งประเทศดำเนินการในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด รวมไปถึงสิ่งของต้องห้าม และสิ่งที่ไม่อนุญาต ให้เก็บรักษาไว้ในเรือนจำ ดังนั้นการจู่โจมตรวจค้นในวันนี้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมีความโปร่งใส และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กรและกรมราชทัณฑ์ได้กำหนดนโยบายเน้นการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหายาเสพติด และที่สำคัญคือการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในเรือนจำ การมีมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังไม่ให้ยาเสพติดแพร่ระบาดและการจำหน่ายยาเสพติดในเรือนจำ ตัดช่องทางการติดต่อซื้อขายและการลักลอบนำยาเสพติด ตลอดจนสิ่งของต้องห้ามเข้าภายในเรือนจำนั้น เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ ได้มีการปฏิบัติการด้านการข่าว การเฝ้าระวังและดำเนินการจู่โจมตรวจค้นผู้ต้องขังอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด เพื่อเป็นการหยุดยั้งกลุ่มขบวนการและเครือข่ายที่จะใช้เรือนจำเป็นฐานในการกระทำผิด เพื่อเป็นการป้องปรามและปราบปรามการกระทำผิดวินัยของผู้ต้องขังในเรือนจำ ปัจจุบันเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ มีจำนวนผู้ต้องขังชาย จำนวน 1,916 คน ผู้ต้องขังหญิง จำนวน 203 คน รวมทั้งสิ้น 2,119 คน โดยร้อยละ 90 ส่วนมากเป็นคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ผลจากการปฏิบัติการครั้งนี้ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด
ลักขณา กงแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน