In Bangkok

กทม.เน้นย้ำรพ.-ศูนย์EOCเร่งนำผู้ติดโควิด เข้าสู่ระบบ HI / CI



กรุงเทพฯ-สำนักการแพทย์และสำนักอนามัย กทม.เน้นย้ำ รพ. - ศูนย์ EOC เร่งนำผู้ติดเชื้อโควิด 19 เข้าสู่ระบบ HI / CI

นายสุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. กล่าวกรณีในสื่อออนไลน์มีผู้วิจารณ์ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ กทม. ไม่เปิดรับผู้ติดเชื้อโควิด 19 ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 ในขณะนี้ มีแนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการแพทย์ จึงได้เน้นย้ำแนวทางการดูแลผู้ป่วยโควิด 19 ของทุกโรงพยาบาล (รพ.) ในสังกัด กทม. หากมีผลตรวจ ATK เป็นบวก และไม่มีอาการ จะแนะนำให้ประชาชนเข้าสู่ระบบการรักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation : HI) หรือศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation : CI) เป็นอันดับแรก โดยไม่ต้องตรวจ RT-PCR ซ้ำ พร้อมทั้งเตรียมบุคลากรทางการแพทย์สำหรับดูแลผู้ป่วยทุกระดับความรุนแรง และมีทีมสหสาขาวิชาชีพติดตามอย่างใกล้ชิด หากมีอาการรุนแรง ศูนย์เอราวัณ กทม.จะประสานและส่งต่อผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษาในโรงพยาบาล (รพ.) สนาม หรือ รพ.หลัก ตามระดับความรุนแรง พร้อมกับบริหารจัดการเตียงใน รพ.หลักไว้สำหรับการดูแลผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงกลุ่มสีเหลืองเข้มและสีแดง กลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วยที่มีโรคแทรกซ้อนที่ควบคุมไม่ได้ ส่วนผู้ป่วยสีเหลืองอ่อนจนถึงสีเขียวสามารถรับการรักษาที่ รพ.สนาม และศูนย์พักคอยสำหรับผู้ป่วยสีเขียว ตลอดจนดูแลรักษาแบบ HI สำหรับผู้ป่วยที่ไม่มีอาการและแยกกักได้ กรณีอัตราครองเตียงในศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อเต็ม ให้ประสานศูนย์พักคอยในเขตพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อรับผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการดูแลรักษา โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงานเขต 50 เขต สำนักเทศกิจ รพ.สังกัด กทม. ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน วางแผนการตรวจคัดกรองโรค เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 ให้ประชาชน และบริหารจัดการศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ รวมทั้ง Hospitel ตามแนวทางของหน่วยงานเครือข่าย นอกจากนี้ ยังได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบช่องทางการติดต่อ หากตรวจพบติดเชื้อโควิด 19 สามารถเข้าสู่ระบบการรักษาโดย โทร.สายด่วน สปสช.1330 กด 14 สายด่วนศูนย์เอราวัณ 1669 กด 2 หรือสายด่วน ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) 50 เขต ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับการประเมินอาการและเข้าสู่ระบบการรักษาโดยเร็วที่สุด

นางป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. กล่าวว่า สำนักอนามัย ได้เน้นย้ำให้ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) 50 เขต บูรณาการความร่วมมือกับศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.ทั้ง 69 แห่ง ให้การดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่แยกกักรักษาที่บ้าน (HI) ในกลุ่มที่มีอาการระดับสีเขียว โดยร่วมกับภาคีเครือข่าย เช่น ไปรษณีย์ไทย ทหาร ตำรวจ จิตอาสา นำส่งยา อาหาร และอุปกรณ์ที่ต้องใช้ เช่น หน้ากากอนามัย ปรอทวัดไข้ เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว ถุงขยะติดเชื้อ ยาลดไข้ แอลกอฮอล์ และแนะนำวิธีปฏิบัติตนสำหรับผู้ที่แยกกักรักษาที่บ้าน โดยประเมินอาการ และให้บริการรักษาทางไกลผ่านระบบ Telemedicine หรือนําเทคโนโลยีช่วยให้ผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์สามารถพูดคุยตอบโต้กันได้แบบเรียลไทม์ทุกวัน