In Bangkok

กทม.เตรียมระบบสาธารณสุขพร้อมดูแล ผู้ป่วยโควิด-19ในทุกระดับ



กรุงเทพฯ-ผู้ว่าฯเผยกทม. เตรียมระบบสาธารณสุขพร้อมดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ทุกระดับ อำนวยความสะดวกผู้ติดเชื้อในการเข้าถึงบริการ และเชื่อมโยงเข้าสู่โรคที่ดูแลได้ด้วยตนเอง โดยจะเริ่มในวันที่ 1 มี.ค. นี้

(28 ก.พ. 65) พล.ต.อ.อัศวิน  ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการแพทย์ได้เน้นย้ำแนวทางปฏิบัติไปยังทุกโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร ในการดูแลผู้ป่วยโควิด หากผลตรวจ ATK เป็นบวก และไม่มีอาการจะแนะนำให้ประชาชนเข้าสู่ระบบ Home Isolation (HI) หรือ Community Isolation (CI) เป็นอันดับแรก โดยไม่ต้องตรวจ RT-PCR ซ้ำ พร้อมกับเตรียมบุคลากรทางการแพทย์สำหรับดูแลผู้ป่วยทุกระดับความรุนแรง และทีมสหสาขาวิชาชีพที่มีการติดตามอย่างใกล้ชิด โดยหากมีอาการรุนแรง ศูนย์เอราวัณจะประสานและส่งต่อผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษาใน รพ.สนาม รพ.หลัก ตามระดับความรุนแรงต่อไป พร้อมกับการบริหารจัดการเตียงในรพ.หลักไว้สำหรับการดูแลผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงกลุ่มสีเหลืองเข้มและสีแดง กลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วยที่มีโรคแทรกซ้อนที่ควบคุมไม่ได้ ในส่วนของผู้ป่วยสีเหลืองอ่อนจนถึงสีเขียวสามารถรับการรักษาที่รพ.สนาม และศูนย์พักคอยสำหรับผู้ป่วยสีเขียว ในกรณีที่อัตราครองเตียงในศูนย์พักคอยเต็ม จะประสานไปยังศูนย์พักคอยในเขตพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อรับผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการดูแลรักษา

สำหรับการเตรียมความพร้อมระบบบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข ในส่วนของการดูแลรักษาแบบแยกกักตัวที่บ้าน (HI) มีการเพิ่มการประชาสัมพันธ์ช่องทางการเข้าสู่ระบบการดูแล ในหน่วยบริการของสำนักอนามัย สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร และหน่วยบริการเครือข่าย รวมทั้งมีการกำหนดแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 กลุ่มเปราะบาง ได้แก่ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุติดเตียง และผู้สูงอายุในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ โดยราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย และกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข นอกจากนี้ สำนักอนามัย ยังประสานสหวิชาชีพ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขร่วมดูแลผู้ติดเชื้อที่เข้าสู่ระบบ HI ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น 

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครพร้อมดำเนินการตามแนวทางการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข แบบ “เจอ แจก จบ” เป็นผู้ป่วยนอก ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ควบคู่ไปกับระบบการดูแลรักษาที่บ้านหรือชุมชน (HI/CI) โดยเมื่อผู้ป่วยได้ยืนยันผลเป็นบวกด้วย ATK แล้ว และได้ทำการแจ้งขอเข้ารับการรักษาในระบบ แพทย์จะพิจารณาจ่ายยารักษา 3 สูตร ได้แก่ ยาฟาวิพิราเวียร์ ยาฟ้าทะลายโจร ยารักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ แก้ไอ ลดน้ำมูก ตามอาการของผู้ติดเชื้อได้ ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ติดเชื้อในการเข้าถึงบริการ และเชื่อมโยงเข้าสู่โรคที่ดูแลได้ด้วยตนเอง โดยจะเริ่มในวันที่ 1 มี.ค. นี้

อย่างไรก็ตาม หากผู้ติดเชื้อมีอาการมากขึ้น เช่น เด็กมีอาการหายใจลำบาก ซึมลง ดื่มนมหรือทานอาหารน้อยลง ผู้ใหญ่มีไข้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียส มากกว่า 24 ชั่วโมง หายใจเร็วกว่า 25 ครั้งต่อนาที ออกซิเจนในเลือดต่ำกว่า 94% หรือโรคประจำตัวมีอาการรุนแรงขึ้น หรือแพทย์เห็นว่ามีความเสี่ยง ต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด จะส่งต่อผู้ป่วยไปยัง Hospitel รพ.สนาม หรือรพ.หลักต่อไป ภาพรวมใช้เวลารักษา 10 วัน ซี่งกรุงเทพมหานครได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบช่องทางการติดต่อ หากพบว่าตนเองติดเชื้อสามารถเข้าสู่ระบบการรักษาโทร.สายด่วน สปสช. 1330 กด 14 สายด่วนศูนย์เอราวัณ 1669 กด 2 หรือสายด่วน EOC 50 เขต ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับการประเมินอาการ และเข้าสู่ระบบการรักษาโดยเร็วที่สุด