In Bangkok
กทม.เพิ่มประสิทธิภาพรร.2ภาษาในสังกัด พร้อมส่งเสริมเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา

กรุงเทพฯ-สำนักการศึกษา กทม.เร่งเพิ่มประสิทธิภาพโรงเรียนสองภาษาในสังกัด พร้อมส่งเสริมการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา
นายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กทม. กล่าวกรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตั้งข้อสังเกตผลการตรวจสอบผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพการดำเนินงานการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของ กทม. ในปีงบประมาณ พ.ศ.2561-2563 ต่ำกว่าเป้าหมายว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการศึกษา ได้กำหนดเป้าหมายเชิงปริมาณในโครงการโรงเรียนสองภาษาอย่างชัดเจนและมีความเป็นไปได้ โดยให้ทุกสำนักงานเขต ส่งเสริมโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครที่มีคุณสมบัติให้เตรียมพร้อมก่อนเข้าร่วมโครงการภายในเดือน ก.ย.65 ตลอดจนให้โรงเรียนดำเนินกิจกรรมการประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนด้วยการทดสอบ CEFR และ YCT ขณะเดียวกันได้จัดทำคู่มือส่งเสริมการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา กำหนดกลยุทธ์และกระบวนการส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานด้านสะเต็มศึกษาของโรงเรียน ให้สอดคล้องกับแนวทางของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) และนโยบายของ กทม.เพื่อให้ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนนำไปส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาได้อย่างเหมาะสม โดยมอบหมายให้หน่วยศึกษานิเทศก์ติดตาม ส่งเสริม และสนับสนุนการจัดกิจกรรมพัฒนา การเรียนรู้สะเต็มศึกษาของนักเรียน ติดตามผลการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมสะเต็มศึกษาของครูผู้สอน พร้อมทั้งจัดทำคู่มือการนิเทศติดตามและสนับสนุนโรงเรียนให้จัดกิจกรรมและโครงการ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้สะเต็มศึกษาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงติดตาม ประเมินผล และเสนอแนวทางพัฒนาการดำเนินงานด้านสะเต็มศึกษาในครั้งต่อไป
นอกจากนั้น ยังได้รับสมัครบุคคลภายนอกช่วยปฏิบัติราชการด้านการสอนโครงการโรงเรียนสองภาษา หลักสูตรไทย-อังกฤษ และหลักสูตรไทย-จีน ประจำปีการศึกษานั้น ๆ และจัดสรรส่งไปยังโรงเรียนให้ตรงตามความต้องการในสาระวิชาที่ขาดของโรงเรียน รวมทั้งขึ้นบัญชีสำรองไว้ แต่บางครั้งครูผู้สอนได้งานที่อื่นก่อน จึงอาจหมดบัญชีก่อนเรียกเพิ่มเติมและในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 อาจทำให้มีครูไม่เพียงพอตามความต้องการ ขณะเดียวกันได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการครูผู้สอนเตรียมการก่อนเข้าปฏิบัติการสอน เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการนำหลักสูตรการสอนให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานและแนวทางการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการสอนเทคนิค วิธีการ รูปแบบต่าง ๆ ตลอดจนการปฏิบัติงานร่วมกับผู้บริหารสถานศึกษา ครูต่างชาติ และครูไทยที่เป็น Co-teacher
ส่วนการจัดซื้อหนังสือเรียน หนังสือเสริมการเรียน และแบบฝึกหัด สำนักการศึกษา ได้จัดประชุมคณะกรรมการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของนักเรียนในโรงเรียนสังกัด กทม.เพื่อปรับปรุงแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของนักเรียน โดยกำหนดหลักเกณฑ์ให้สำนักงานเขต หรือสถานศึกษาพิจารณาดำเนินรายการต่าง ๆ ร่วมกัน ตามความจำเป็นของหน่วยงานและจัดหาพัสดุให้แล้วเสร็จก่อนเปิดภาคเรียน พร้อมทั้งมีหนังสือขอความร่วมมือสำนักงานเขตดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ สตง. และให้โรงเรียนในสังกัด กทม. รายงานการจัดซื้อหนังสือเรียน หนังสือเสริมการเรียน และแบบฝึกหัดปีการศึกษา 2564 ให้สำนักการศึกษาทราบ
สำหรับกรณีปัญหาเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่เพียงพอต่อการจัดการเรียนการสอน สำนักการศึกษา อยู่ระหว่างดำเนินการขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเอกสารงบประมาณโครงการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อการเรียนรู้ต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจุบันจำนวนนักเรียนลดลง ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีระบบคอมพิวเตอร์ และการชำรุดเสียหายของครุภัณฑ์ประกอบในห้องคอมพิวเตอร์ จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเกณฑ์การจัดสรรใหม่ เพื่อให้โรงเรียนได้รับห้องคอมพิวเตอร์และเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ 1 คน ต่อ 1 เครื่อง เพื่อใช้ในการเรียนรู้อย่างเพียงพอ ซึ่งการปรับปรุงรายการระบบคอมพิวเตอร์และบัญชีจัดสรรต่าง ๆ ต้องขอความเห็นชอบคณะกรรมการดิจิทัลกรุงเทพมหานครพิจารณาก่อน จึงจะขอความเห็นชอบเปลี่ยนแปลงรายละเอียด เอกสารงบประมาณโครงการต่อเนื่องได้ คาดว่าจะลงนามสัญญาก่อหนี้ผูกพันได้ในเดือน ส.ค.65 ทั้งนี้ ได้มีการติดตามและควบคุมการดำเนินโครงการพัฒนาระบบสารสนเทศและเทคโนโลยีการจัดการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันโรงเรียนในสังกัด กทม.ทั้ง 437 โรงเรียนใช้ระบบดังกล่าวทั้งหมดแล้วและอยู่ระหว่างพัฒนาระบบฐานข้อมูลกลางด้านการศึกษา ซึ่งได้ทดสอบระบบตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.63 และจะแล้วเสร็จในวันที่ 12 เม.ย.65 พร้อมทั้งเร่งปรับปรุงแก้ไขข้อมูลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร และลูกจ้างกรุงเทพมหานครในระบบให้ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบัน