In Bangkok

กทม.แนะแนวปฏิบัติฉีดวัคซีนนร.5-11ปี พักผ่อนเพียงพอ-งดออกกำลังกาย7วัน 



กรุงเทพฯ-รองปลัดกทม.แนะแนวปฏิบัตินักเรียน 5-11 ปี พักผ่อนเพียงพอก่อนรับวัคซีนและงดออกกำลังกายหนัก 7 วันหลังรับวัคซีน 

(3 มี.ค. 65) นายชวินทร์ ศิรินาค รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมติดตามผลการฉีดวัคซีนให้นักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร อายุ 5-11 ปี โดยมี นายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา สำนักอนามัย สำนักการแพทย์ ผู้บริหารสถานศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์ 

ในที่ประชุม สำนักการศึกษาและสำนักอนามัยได้รายงานผลการฉีดวัคซีนสูตรไฟเซอร์-ไฟเซอร์ให้นักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร อายุ 5-11 ปี ซึ่งดำเนินการระหว่างวันที่ 28 ก.พ. - 2 มี.ค. 65 มีนักเรียนมารับการฉีดวัคซีนจำนวน 12,846 คน จากจำนวนนักเรียนทั้งหมดที่ผู้ปกครองลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ จำนวน 52,694 คน คิดเป็นร้อยละ 24.38 ทั้งนี้ สาเหตุที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายอาจเกิดจาก เด็กอยู่ระหว่างติดเชื้อ เด็กอายุเกิน 11 ปี 11 เดือน 29 วัน หรือผู้ปกครองพาไปรับการฉีดวัคซีนที่อื่น ซึ่งสำนักการศึกษาจะทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลอีกครั้ง จากนั้น สำนักอนามัย ได้รายงานความพร้อมให้บริการสูตรซิโนแวค-ไฟเซอร์ สำหรับเด็กอายุ 6-11 ปี เข็มที่ 1 ในช่วงระหว่างวันที่ 5-19 มี.ค. ณ อาคารกีฬาเวสน์ ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เบื้องต้นมีผู้ปกครองแจ้งความประสงค์รับวัคซีนสูตรนี้ จำนวน 1,598 คน โดยโรงเรียนจะเป็นผู้ลงทะเบียนแบบกลุ่ม (Group Vaccination) เพื่อรับวัคซีน สำหรับระยะห่างระหว่างวัคซีนสูตรซิโนแวค-ไฟเซอร์ เข็มที่ 1 และ 2 คือ 4 สัปดาห์ ซึ่งนักเรียนจะได้รับวัคซีนไฟเซอร์ เป็นเข็มที่ 2 ระหว่างวันที่ 5-19 เม.ย. 65

อย่างไรก็ดี เนื่องจากในขณะนี้จำนวนวัคซีนที่กรุงเทพมหานครได้รับการจัดสรรมีเพียงพอสำหรับเด็กนักเรียนระดับชั้น ป.3 และเพื่อให้ทันกำหนดการเปิดเทอมในวันที่ 17 พ.ค. 65 ที่ประชุมจึงได้หารือความเป็นไปได้ของการเลื่อนแผนการฉีดวัคซีนให้เร็วขึ้น ซึ่งแผนการฉีดวัคซีนเดิม เข็มที่ 1 จะแล้วเสร็จภายในวันที่ 24 มี.ค. จะเร่งรัดแล้วเสร็จในวันที่ 20 มี.ค. และเข็มที่ 2 จะแล้วเสร็จ วันที่ 25 เม.ย.-15 พ.ค. ซึ่งจะทันกำหนดการเปิดเทอมภาคเรียนที่ 1/2565 โดยให้ทางโรงเรียนประสานกับศูนย์บริการสาธารณสุขพื้นที่เพื่อจัดทำแผนการให้บริการวัคซีนใหม่และแจ้งให้ผู้ปกครองทราบ เพื่อนำบุตรหลานมารับบริการได้ทันตามกำหนดเวลา  

นอกจากนี้ ในที่ประชุม สำนักการศึกษาได้กำชับให้สถานศึกษาทำการตรวจสอบให้เรียบร้อยว่าเด็กนักเรียนได้รับวัคซีนสูตรตามที่ผู้ปกครองแจ้งความประสงค์ไว้หรือไม่ รวมทั้งให้สำรวจผู้ปกครองที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน และจัดบริการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ปกครองด้วย เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในครอบครัว สำหรับการป้องกันอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กนักเรียน อาทิ เวียนศีรษะ หน้ามืด ขอให้โรงเรียนประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองและนักเรียนปฏิบัติตนตามแนวทางก่อนการรับวัคซีนที่ถูกต้อง ได้แก่ พักผ่อนให้เพียงพอในวันก่อนมารับบริการ และงดการออกกำลังกายที่ใช้แรงมากหลังรับวัคซีน 7 วัน เป็นต้น และหากมีอาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน สามารถเข้ารับการรักษาได้ที่โรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานครทั้ง 11 แห่ง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย