In News

คมนาคมถกแก้ปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ชงขบ.-บขส.เข้มขนส่ง/ทล-ทช.ดูแลถนน



กรุงเทพฯ-กระทรวงคมนาคม ประชุมหารือแนวทางป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุทางถนน มอบให้ ขบ. และ บขส. ร่วมกันหาแนวทางในการป้องกันอุบัติเหตุ ในส่วนของความปลอดภัยทางถนนให้หน่วยงานที่ดูแลถนน คือ ทล. และ ทช. กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยทางถนนให้สูงยิ่งขึ้น

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม และผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนน กระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุทางถนน โดยมี นายแพทย์ ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน ศาสตราจารย์ ดร. กัณวีร์ กนิษฐ์พงศ์ ผู้จัดการศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย และผู้แทนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนน (ศปภ.คค.) เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณีอุบัติเหตุรถโดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น สายกรุงเทพฯ - สุวรรณภูมิ ของบริษัท สหพันธ์ ร้อยเอ็ดทัวร์ จำกัด ซึ่งเป็นรถร่วมบริการของ บขส. ได้เสียหลักชนตอม่อสะพานต่างระดับทางเลี่ยงเมืองขาเข้าตัวเมืองสระบุรี เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และผู้บริหารกระทรวงคมนาคมมีความห่วงใยประชาชนและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดอุบัติเหตุทางถนนเป็นอย่างยิ่ง นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม จึงได้สั่งการให้ ศปภ.คค. ร่วมหารือแนวทางป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุทางถนนจากกรณีดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของคณะสืบสวนสอบสวนอุบัติเหตุเชิงลึกของกระทรวงฯ ซึ่งได้ลงพื้นที่เกิดเหตุพบว่า สภาพตัวรถได้รับความเสียหายด้านซ้ายอย่างหนัก อันเนื่องมาจากการชนเข้ากับตอม่อสะพานต่างระดับ เบาะที่นั่งผู้โดยสารมีเข็มขัดนิรภัยแต่ไม่ได้มีการใช้งาน จึงเป็นเหตุให้มีผู้โดยสารเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ส่วนกรณียางรถโดยสาร พบว่า ดอกยางมีความลึก 8 - 12 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่ายังอยู่ในสภาพดีและยางรถมีอายุใช้งานเพียง 1 ปีเท่านั้น และจากรายงานของพนักงานสอบสวนทราบว่า นายนรินทร์ศาสตร์ วงษา (ผู้ขับรถ) ได้ให้การรับสารภาพต่อพนักงานสอบสวนว่า เป็นผู้ขับรถในช่วงที่เกิดเหตุและมีอาการวูบหลับ รวมทั้งได้เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยเริ่มขับรถจากจังหวัดนครราชสีมาจนถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งรถได้เสียหลักไปชนกับแบริเออร์ เกาะกลางถนน เสาไฟฟ้า และไถลไปชนสะพานต่างระดับ

นายแพทย์ธนพงษ์ จินวงศ์ ได้ให้ข้อสังเกตว่า รถโดยสารที่เกิดเหตุได้วิ่งช่องจราจรขวาสุดมาโดยตลอด ซึ่งตามกฎหมายจะต้องวิ่งช่องจราจรซ้ายและปัญหาการใช้สารเสพติดของผู้ขับขี่ควรมีมาตรการในการควบคุมอย่างเข้มงวดโดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะ ทั้งนี้หน่วยงานที่ดูแลความปลอดภัยทางถนนอาจมีการสำรวจ และทำการตรวจสอบจุดเสี่ยงต่าง ๆ ที่มีอยู่ ให้มีมาตรการรองรับเพื่อให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด ในขณะที่ศาสตราจารย์ ดร. กัณวีย์ กณิษฐ์พงษ์ ได้กล่าวถึงระบบระบุตำแหน่ง หรือ GPS ซึ่งมีการติดตั้งในรถโดยสารสาธารณะว่า เป็นระบบที่ดีซึ่ง ขบ. จะสามารถตรวจสอบ ติดตาม พฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับขี่ในการใช้ความเร็วขณะขับรถได้โดยตลอด แต่กรณีนี้ผู้ขับขี่ใช้ความเร็วที่ประมาณ 89 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่เกินจากที่กำหนดระบบจึงไม่มีการแจ้งเตือน ในส่วนของรถโดยสารสองชั้นซึ่งเป็นรถที่มีความเสถียรต่ำเนื่องจากความสูงของรถ แม้ว่าจะผ่านมาตรฐานความลาดเอียง แต่ควรที่จะมีการควบคุมการใช้งานให้เหมาะสม

ที่ประชุมได้รับทราบข้อคิดเห็นต่าง ๆ จากผู้เข้าร่วมประชุมและผู้เชี่ยวชาญ และได้มอบให้ ขบ. และ บขส. ร่วมกันหาแนวทางในการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากกรณีเช่นนี้อีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำหนดแนวทางในการตรวจสอบสมรรถนะผู้ขับขี่ก่อนให้บริการ ประวัติผู้ขับขี่และประวัติการใช้สารเสพติด เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ในส่วนของความปลอดภัยทางถนนให้หน่วยงานที่ดูแลถนน คือ ทล. และ ทช. กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยทางถนนให้สูงยิ่งขึ้น เพื่อลดความรุนแรงและความสูญเสียจากการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากปัจจุบันถนนมีสภาพดี การจราจรสามารถใช้ความเร็วได้มากขึ้นซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งมีความรุนแรงและเกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน