In News
ศาลยุติธรรม-วุฒิสภาแลกเปลี่ยนข้อมูล พร้อมพัฒนาบุคลากรทางวิชาการ

กรุเทพฯ-สำนักงานศาลยุติธรรม ร่วมมือสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาแลกเปลี่ยน สนับสนุนข้อมูล และพัฒนาบุคลากรทางวิชาการ
วันนี้ (22มิถุนายน 2565)เวลา 13.30 น.ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 12 อาคารศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานครนายจีระพัฒน์ พันธุ์ทวี เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมและนางสาวนภาภรณ์ ใจสัจจะเลขาธิการวุฒิสภาร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสำนักงานศาลยุติธรรม กับสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเรื่องความร่วมมือ แลกเปลี่ยน สนับสนุนข้อมูลทางวิชาการ และพัฒนาบุคลากรทางวิชาการ
นายจีระพัฒน์ พันธุ์ทวี เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า สำนักงานศาลยุติธรรมและสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาบุคลากรให้เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และมีสมรรถนะสูง ปฏิบัติหน้าที่โดยมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์และผลประโยชน์ของส่วนรวม และเป็นไปตามหลักนิติธรรมและหลักธรรมาภิบาล ด้วยการเพิ่มพูนความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านวิชาการและการบริหารงานยุติธรรม รวมทั้งการแลกเปลี่ยน และสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการเพื่อให้บุคลากรสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลจึงได้ร่วมกันจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว เพื่อร่วมมือ แลกเปลี่ยน สนับสนุนข้อมูลและพัฒนาบุคลากรทางวิชาการแก่กัน อาทิ บทความทางวิชาการ เอกสารงานวิจัย คู่มือการปฏิบัติงาน แนวปฏิบัติตามกฎหมายต่างๆ รวมถึง
คำพิพากษา คำสั่ง หรือคำวินิจฉัยที่สามารถเปิดเผย และเป็นประโยชน์ต่อการเสริมสร้างงานวิชาการ อำนวยความสะดวกในการค้นคว้าข้อมูลทางวิชาการ สนับสนุนการฝึกอบรมและดูงานในหลักสูตรต่าง ๆ ตลอดจนสนับสนุนบุคลากรหรือผู้ทรงคุณวุฒิบรรยายพิเศษ ทั้งยังร่วมมือ แลกเปลี่ยน และสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองผ่านบทเรียนออนไลน์ (e-Learning) หรือการเรียนรู้ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งจะสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาทักษะเดิม (Upskill) และเพิ่มเติมทักษะใหม่ (Reskill) อันจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพของบุคลากรให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีดิจิทัลในสถานการณ์ปัจจุบัน
โดยการร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการก้าวไปอีกขั้นของความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงาน ที่มีหน้าที่ในการสนับสนุนสถาบันที่ใช้อำนาจตุลาการและอำนาจ
นิติบัญญัติ เพื่อบูรณาการ พัฒนา แลกเปลี่ยนความรู้ความเชี่ยวชาญ และเพิ่มพูนประสิทธิภาพ อันจะส่งผลต่อการอำนวยความยุติธรรม และการนิติบัญญัติต่อไป