Authority & Harm
เซ่นเข้าพรรษาไฟไหม้ศาลาฯวอดทั้งหลัง! ถนนพังรถดับเพลิงช้าเสียหายกว่า10ล.

มหาสารคาม-เซ่นเข้าพรรษา วอดทั้งหลัง! เพลิงไหม้ศาลาฯวัดจ.มหาสารคาม วันเข้าพรรษา เสียหายกว่า 10 ล้าน ถนนพังรถน้ำเข้าทุลักทุเลกว่าจะเข้าได้ถึงจุดหมาย
วันที่ 15 ก.ค.65 เมื่อเวลาประมาณ 01:30 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ศาลาการเปรียญ ที่วัดวังโจดโสภาราม บ้านวังโจด ต.ห้วยเตย อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.กุดรัง อบต.หนองแวง อบต.นาโพธิ์ อบต.บรบือ เทศบาลบรบือ อบต.หนองเหล็ก อบต.หัวขวาง อบต.หนองกุงสวรรค์ กู้ภัยประจิมบรบือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือ เบื้องต้น สามารถควบคุมเพลิงได้ ในเวลา 03:00 น. ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ไฟไหม้ศาลาการเปรียญ เป็นอาคาร 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ เสียหายทั้งหลัง
พันจ่าตรี ทวัช พันธุชิน นายอำเภอกุดรัง กล่าวว่า ได้รับแจ้งเหตุเวลาประมาณ 01:30 น. ไฟไหม้บริเวณชั้น 2 ของศาลาการเปรียญ หลังจากนั้นก็ได้ระดมรถดับเพลิงและหน่วยงานที่เกี่ยวของเข้าให้การช่วยเหลือ แต่เนื่องจากว่าศาลาการเปรียญแห่งนี้ เป็นศาลาเก่าเป็นไม้โดยส่วนใหญ่ ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ทรัพย์สินความเสียหายในเบื้องต้น ประมาณ 9-10 ล้านบาท ทางอำเภอได้ขอรับความช่วยเหลือทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธา ระดมทุนช่วยเหลือบูรณะฟื้นฟูให้ศาลาฯกลับคืนสู่สภาพเดิมเร็วที่สุด
พระครูวิสาส สุนทรธรรม เจ้าอาวาสวัดวังโจดโสภาราม กล่าวว่า ได้นอนอยู่กุฏิ เวลาประมาณ 01:36 น.ได้รับโทรศัพท์จากชาวบ้านที่บ้านอยู่ติดวัด ว่าได้ยินเสียงคล้ายคนทุบกระเบื้อง ลากของเสียงดังตุบตับๆ ให้พระออกมาดูหน่อย พอออกมาดูก็ได้เห็นไฟลุกท่วมหลังคาศาลาแล้ว ตั้งสติได้จึงตีระฆัง ตีกลองเรียกชาวบ้านให้มาช่วยกันดับเพลิง คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร มีสายไฟพ่วงออกจากเบรกเกอร์ ไฟห้องน้ำด้านล่าง พ่วงไฟหากุฏิน้อยอีก สายไฟคงเสื่อมสภาพ ศาลาหลังนี้ได้ก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 และได้บูรณะอีกเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2550 ของมีค่ามีมาก เช่น พระประทาน ของใช้ในงานบุญ ตู้เย็น ฯลฯ ตู้บริจาคเงิน ซึ่งมีเงินอยู่ในตู้ด้วย ไม่แน่ชัดว่ามีกี่บาท เพราะไม่ได้เปิดตู้นานแล้ว จึงอยากขอความช่วยเหลือจากหน่วย และผู้ใจบุญทุกท่าน สามารถบริจาคช่วยเหลือระดมทุนก่อสร้างศาลาฯได้โดยผ่าน เลขบัญชี 017462885707 ชื่อบัญชี เงินกลางวัดวังโจดโสภาราม ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
นายวีระยุทธ พานคง นายก อบต. ห้วยเตย กล่าวว่า ไฟได้ลุกไหม้จากชั้น 2 ลามอย่างลวดเร็ว กว่ารถดับเพลิงจะเข้ามาถึงในพื้นที่ก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง เพราะถนนหนทางพัง ทำให้ล่าช้า สัญจรลำบาก โดยมีรถดับเพลิงกว่า 10 คัน เข้าให้การช่วยเหลือ โชคดีที่ไฟไม่ได้ไหม้คืนวันอาสาฬหบูชา ซึ่งมีประชาชนเข้ามาทำบุญ และอยู่จำศีลที่วัดจำนวนมาก ส่วนเมื่อคืนเป็นวันเข้าพรรษาวัดไม่ได้มีกิจกรรมอะไร
พิเชษฐ ยากรี - มหาสารคาม