In Bangkok

กทม.สร้างความรู้ความเข้าใจปชช.การใช้ น้ำหมักชีวภาพช่วยบำบัดน้ำเสียในคลอง



กรุงเทพฯ-นายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม.กล่าวกรณีมีการตั้งข้อสังเกตการใช้น้ำหมักชีวภาพเพื่อบำบัดน้ำเสียในคลองเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุว่า การเทน้ำหมักชีวภาพลงในคลองเป็นการเพิ่มออกซิเจนและปรับปรุงสภาพน้ำในคลองที่เน่าเสีย โดยน้ำหมักชีวภาพจะส่งผลให้สารอินทรีย์ในแหล่งน้ำมีปริมาณเพิ่มขึ้น แบคทีเรียซึ่งทำหน้าที่กำจัดสารอินทรีย์ในน้ำจึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วยร่วมกับการใช้ออกซิเจน เพื่อย่อยสลายสารอินทรีย์ และเมื่อผ่านในช่วงเวลาหนึ่งปริมาณออกซิเจนในน้ำจะลดลงจนเกิดภาวะขาดออกซิเจน และผลิตแบคทีเรียชนิดไม่ใช้ออกซิเจนมากำจัดสารอินทรีย์ในน้ำแทน ซึ่งแบคทีเรียกลุ่มนี้จะปล่อยก๊าซซัลไฟด์ แอมโมเนีย และมีเทน ทำให้น้ำเน่าเสีย มีสีดำ ทั้งนี้ หากนำน้ำหมักชีวภาพมาใช้กับแหล่งน้ำไหล จะต้องใช้น้ำหมักชีวภาพในปริมาณมาก จึงเพิ่มปริมาณสารอินทรีย์ในน้ำสูง อาจส่งผลกระทบทำให้เกิดปัญหาน้ำเน่าเสียจากการขาดออกซิเจนที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม การใช้น้ำหมักชีวภาพเพื่อบำบัดน้ำเสียให้เกิดประสิทธิผล ต้องคำนึงถึงองค์ประกอบของจุลินทรีย์และส่วนผสมต่าง ๆ ที่มีอยู่ในน้ำหมักชีวภาพ มีความเหมาะสมกับสภาวะแวดล้อมของแหล่งน้ำแต่ละประเภท จึงต้องสร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวริมคลองและประชาชนทั่วไปได้เข้าใจถึงการใช้น้ำหมักชีวภาพก่อนที่จะมีการนำไปเทลงคลอง

ทั้งนี้ สนน.ได้ดำเนินการตามแผนการดูแลรักษาคูคลองและการปรับภูมิทัศน์ในพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการรักษาความสะอาดคูคลอง โครงการเก็บขยะทางน้ำ โครงการเปิดทางน้ำไหล รวมถึงการจัดเก็บขยะหน้าตะแกรงที่สถานีสูบน้ำ เพื่อลดค่าความสกปรกก่อนที่จะระบายลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะในระยะเร่งด่วน พร้อมทั้งมีมาตรการบำบัดน้ำเสีย การติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนในชุมชนขนาดเล็กริมคลอง และติดตั้งเครื่องเติมอากาศในน้ำในพื้นที่ที่มีน้ำเน่าเสียรุนแรง

นอกจากนั้น ยังได้ประสานความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงานเขตและสำนักต่าง ๆ ในสังกัด กทม.ภาคเอกชน ภาคีเครือข่าย และประชาชน ร่วมกันแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียเชิงบูรณาการ โดยจัดการรณรงค์ไม่ทิ้งขยะ หรือของเสียลงสู่คูคลอง ลำรางลำกระโดงในพื้นที่ บำบัดน้ำเสียในครัวเรือน ส่งเสริมให้ติดตั้งถังดักไขมัน ดูแลรักษาระบบบำบัดน้ำเสียในครัวเรือนให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน กทม.ยังร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ และกรมโรงงานอุตสาหกรรม บูรณาการข้อมูลแหล่งกำเนิดน้ำเสีย จัดทำแผนตรวจสอบระบบบำบัดน้ำเสียอย่างต่อเนื่อง หากพบสถานประกอบการมีคุณภาพน้ำทิ้งไม่ผ่านเกณฑ์ค่ามาตรฐานการระบายน้ำทิ้งจะดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป