Authority & Harm

หนุ่มขับรถจยย.เจอสายสื่อสารเกี่ยวคอเป็นแผลฉกรรจ์



นครราชสีมา-หนุ่มขับรถมอเตอร์ไซด์เจอสายสื่อสารเกี่ยวคอเป็นแผลฉกรรจ์โร่เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันวอนหน่วยงานรับผิดชอบ

เวลา 15.00 น.วันที่ 30 มีนาคม 2566 ญาติ ๆ พา นายถิรวิทย์ บุริขันธ์ อายุ 18 ปี พร้อมของกลางสายไฟม้วยระโยงระยาง ยาวประมาณ 5 เมตร เอกสารใบรับรองแพทย์ รูปถ่ายในที่เกิดเหตุ เป็นหลักฐานไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.นครราชสีมา หลังประสบเหตุขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ผ่านเส้นทางถนนในซอยทีทีแอนด์ที ชุมชน ต.หัวทะเล อ.เมือง ถูกสายไฟที่หย่อนลงมา เกี่ยวเข้าที่บริเวณลำคอจนรถล้มคว่ำ ลำคอถูกสายไฟบาดเป็นแผลฉกรรจ์เหวอะหวะ มีรอยบาดลึกยาวเกือบ 10 เซนติเมตร เหตุเกิดเวลา 18.00 น.วันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา แพทย์ทำการรักษาบาดแผล คาดว่าใช้เวลาอีกหลายวันกว่าแผลจะหายดี จึงแจ้งความบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เรียกร้องให้หน่วยงานเจ้าของสายไฟหรือสายอินเตอร์เน็ต มาแสดงความรับผิดชอบ

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุที่บริเวณชุมชนลมเย็น ซอย 4 ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมาโดยนางสุรัตนา สวัสดิ์กิจ คนเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นช่วงเวลาประมาณ 19.00 น.ของวันที่ 29 มีนาคม 2566 ตนนั่งอยู่ในบ้านฝนตกและลมแรงมาก หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซด์ล้มแรงมาก ตนจึงวิ่งออกไปดูซึ่งสามีตนก็อยู่หน้าบ้านพอดี ปรากฏว่าก็พบชายดังกล่าวกำลังลุกขึ้นพยุงรถและบริเวณคอมีสายสื่อสารพันคออยู่และชายคนดังกล่าวก็ได้ขอความช่วยเหลือให้ช่วยแกะสายออกมาให้หน่อย ตนกับสามีก็ไปช่วยแกะสายสื่อสารออกให้ ซึ่งเห็นบาดแผลก็เป็นสีขาวๆอยู่ ตนจึงได้บอกกับชายคนดังกล่าวว่าให้เข้าบ้านไปทำแผลก่อน แต่ชายคนดังกล่าวก็บอกว่าไม่เป็นไร ขับรถไหวอยู่ จึงได้ขับรถออกไป พอตนมาดูบาดแผลที่เห็นในโซเชียลก็พบว่าเป็นบาดแผลที่น่ากลัวมาก สำหรับถนนเส้นนี้รถสัญจรบ่อยมากและขับเร็วพอสมควร ส่วนสายสื่อสารที่เกี่ยวคอมาก็ไม่ทราบว่าเกี่ยวมาจากจุดไหน อย่างไรก็ตามก็อยากเตือนถนนเส้นดังกล่าวนี้ให้ขับรถช้าๆและอยากให้มีลูกระนาดชะลอความเร็วรถด้วยตรงนี้

นายถิรวิทย์ หนุ่มแอดมินขายสินค้าออนไลน์ ผู้บาดเจ็บ เล่าเหตุการณ์ว่า ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านตามลำพังคนเดียว วิ่งความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งชิดซ้ายผ่านถนนในซอย มองไม่เห็นว่ามีสายไฟห้อยลงมา ก่อนถูกสายไฟลักษณะเป็นบ่วงม้วนเป็นวงกลมเกี่ยวที่คอกระชากอย่างรุนแรง จนรถล้มคว่ำกระเด็นไปไกลกว่า 10 เมตร สายไฟขาดหลุดลุ่ย  โชคดีที่สวมหมวกกันน็อคและวิ่งไม่เร็ว ขณะเกิดเหตุมีพลเมืองดีมาช่วย ก่อนพาส่งโรงพยาบาล รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ยังไม่มืดมาก แต่มองไม่เห็นจริง ๆ และเพิ่งขับขี่ใช้เส้นทางนี้เป็นครั้งแรก ตอนนี้ยังเจ็บแผลมาก ขณะวิ่งเกี่ยวสายไฟ หากสายไฟไม่ขาด คออาจจะขาดก็เป็นไปได้ จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานเจ้าของสายไฟแสดงความรับผิดชอบ และฝากเป็นอุทาหรณ์ให้ตรวจสอบสายไฟ สายสื่อสาร สายอินเตอร์เน็ตให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย อย่าให้ห้อยระโยงระยางแบบนี้อีกอย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนเตรียมเรียก  หน่วยงานเจ้าของสายไฟต้นเหตุมาเจรจาชดเชยค่าเสียหาย เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บต่อไป

ณัฐพงศ์ อรชร / นครราชสีมา