Authority & Harm

บิ๊กโจ๊กลงเมืองกาญจน์สั่งตรวจเข้ม



กาญจนบุรี-บิ๊กโจ๊ก รอง ผบ.ตร.นั่ง ฮ. ลงเมืองกาญจน์ สั่งตรวจเข้ม คดีเมียนมา และโรฮิงญาผ่านทาง ส่วนคดีแอม ไซยาไนด์ ออกหมายจับแล้ว 13 หมาย เพิ่มอีก 1  หมาย เชื่อวิชาสอบสวนลบล้างถิ่นที่อยู่ ต้องมีกุนซือคอยสอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 3 พฤษภาคม 2566  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะได้เดินทางมาด้วยเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงจอดที่ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาเรื่องแรงงานต่างด้าวเมียนมา และโรฮิงญา ที่ใช้เส้นทางของ จ.กาญจนบุรี เป็นทางหลบหนีผ่านของกลุ่มขบวนการที่แอบขนแรงงานเถื่อนเพื่อส่งออกไปทำงานยังประเทศที่สาม ซึ่งตำรวจ สภ.ทองผาภูมิร่วมทหารชุด ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ฯ สนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถจับกุมโรฮิงญาเอาไว้ได้เกือบ 100 คนเหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา

    

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้ได้รับการยืนยันแล้วว่าพบทั้งหมด 14 ศพ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับไปแล้ว 13 ศพและในวันนี้ได้สั่งให้ตำรวจไปแจ้งข้อกล่าวหาแอมเพิ่มเติมแล้วที่เรือนจำ ทั้งหมด 13 คดี เพราะฉะนั้นนางสาวแอมคงจะอยู่ในเรือนจำยาว

ส่วนอีก 1 รายก็เป็นการออกหมายจับข้อหา พยายามฆ่า ซึ่งเหยื่อก็ยังมีชีวิตอยู่ เป็นภรรยาของ ผบ.ร้อย. ตชด และเป็นเพื่อนกับสามีของแอม ซึ่ง พบหลักฐานในรถของแอม ก็จะมีแคปซูลยา ที่อ้างว่าเป็นยาสมุนไพร แต่เมื่อแกะออกตรวจแล้วพบว่าในแคปซูลทุกอันมีไซยาไนด์หมด อยู่ในรถฮอนด้าซีวิค สีขาว และตอนนี้ตนได้สั่งทางพนักงานสอบสวนไปขอหมายจับเพิ่มเติม  ในส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องและช่วยเหลือแอม มี 1 คน แต่คิดว่าสังคมก็พอจะเดาออก

    

ซึ่งตนเชื่อว่าจากการตรวจสอบแล้วต้องมีคนเป็นกุณซือคอยแนะนำ แอม เพราะทุกครั้งที่มีการก่อเหตุ และหลังก่อเหตุจะต้องไปต่างจังหวัด พอรุ่งขึ้นถึงกลับ เพื่อลบล้างเรื่องถิ่นที่อยู่ เรื่องนี้ต้องมีคนสอน เพราะวิชาสอบสวนแบบนี้ต้องมีคนสอน เพราะถ้าไม่มีคนสอนทำอย่างนี้ไม่ได้ จะเห็นว่าเราใช้เวลาเพียงอาทิตย์กว่า 14 คดี ออกหมายจับไป 13 คดี เหลือคดีที่เกิดเมื่อปี 58 เหตุในพื้นที่ สน.ทองหล่อ คดีก็ใช่แต่กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ความเชื่อมโยงต่อเนื่องอยู่ คาดว่าจะออกหมายจับได้ภายในวันศุกร์นี้

สนั่น-กาญจนบุรี